- Details
- Category: ข่าวสังคม
- Published: Thursday, 13 November 2014 22:33
- Hits: 1763
แซง-โกแบ็ง เล็งเพิ่มการลงทุนและนวัตกรรมใหม่ หนุนตลาดเมืองไทยสู่ความสำเร็จ
บุคคลในภาพข่าว: (จากซ้าย) จาเวียร์ จิเมโน ผู้แทนทั่วไปและกรรมการผู้จัดการ ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก คอนสตรัคชั่น โปรดักส์ เอเชีย แปซิฟิก, พิมพ์ใจ อุตะเดช กรรมการผู้จัดการ แซง-โกแบ็ง เวเบอร์ ประเทศไทย, โคลด อีโมแวง ผู้อำนวยการทั่วไป กลุ่มธุรกิจวัสดุก่อสร้าง แซง-โกแบ็ง กรุ๊ป, เพชรรัตน์ จันทโชติ กรรมการผู้จัดการ แซง-โกแบ็ง ซีคิวริท (ไทยแลนด์), และ มร.ริชาร์ด จูเชรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยผลิตภัณฑ์ยิบซั่ม จำกัด (มหาชน) ร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำและการสัมมนาสถานการณ์ธุรกิจของ แซง-โกแบ็ง ไทยแลนด์ คลับ ณ โรงแรมหรรษา กรุงเทพฯ
กรุงเทพฯ - แซง-โกแบ็ง กรุ๊ป เครือบริษัทการผลิตโครงสร้างอาคารรายใหญ่ของโลกซึ่งมีความเชี่ยวชาญในการออกแบบ การผลิต และการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ระดับคุณภาพและยั่งยืนสู่กลุ่มผู้บริโภคทั้งในธุรกิจอุตสาหกรรม และผู้บริโภคทั่วไป จัดงานเลี้ยงอาหารค่ำและการสัมมนาเกี่ยวกับสถานการณ์ธุรกิจ แซง-โกแบ็ง ไทยแลนด์ คลับ ครั้งที่ 3 ณ โรงแรมหรรษา กรุงเทพฯ โดยรวบรวมเหล่าผู้บริหารระดับสูงจากธุรกิจต่างๆ ของ แซง-โกแบ็ง กรุ๊ป ในประเทศไทย เพื่อร่วมรับฟังข้อมูลและข่าวสารใหม่ๆ ในแวดวงธุรกิจโดยการนำเสนอของ โคลด อีโมแวง ผู้อำนวยการทั่วไป กลุ่มธุรกิจวัสดุก่อสร้าง แซง-โกแบ็ง กรุ๊ป ซึ่งได้ถ่ายทอดประสบการณ์การทำงานในการสร้างความเติบโตให้แก่ แซง-โกแบ็ง กรุ๊ป มานานกว่า 2 ทศวรรษ โดยมุ่งเน้นที่การก้าวผ่านอุปสรรคต่างๆ ของตลาด และยังคงยึดมั่นในประสิทธิภาพการบริหารงานที่เป็นเลิศและการคิดค้นนวัตกรรมใหม่อย่างต่อเนื่อง
โคลด อีโมแวง ผู้อำนวยการทั่วไป กลุ่มธุรกิจวัสดุก่อสร้าง แซง-โกแบ็ง กรุ๊ป อธิบายว่า “กลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ของแซง-โกแบ็ง สร้างผลประกอบการคิดเป็น 25% และผลกำไร 40% ของทั้งหมด โดยมีจุดแข็งอยู่ที่การคิดค้นนวัตกรรมใหม่ การสร้างตลาดใหม่ และการเพิ่มผลกำไรได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะที่ยุโรปกำลังประสบภาวะยากลำบาก แต่ธุรกิจในเอเชียกลับเผยโอกาสการพัฒนาครั้งสำคัญในวงการก่อสร้าง ดังนั้น เราจึงหันมาให้ความสำคัญกับภูมิภาคนี้มากยิ่งขึ้น ผ่านการใช้กลยุทธ์จุดแข็งและความเป็นเอกภาพของเครือบริษัทพร้อมเงินลงทุน การใช้แบรนด์สินค้าและส่วนแบ่งผลกำไร รวมถึงความเป็นเลิศในการผลิตและการลงทุนในตลาดอย่างเหมาะสม สำหรับตลาดเมืองไทย เรามีกำลังการผลิตที่ตอบสนองความต้องการได้อย่างตรงจุด อีกทั้งเราจะผนึกกำลังในด้านการคิดค้นนวัตกรรมใหม่เพื่อเพิ่มอัตราการเติบโตให้สูงกว่า 12% ซึ่งเราสามารถทำได้แล้วตลอด 6 ปีที่ผ่านมา โดยผลปรากฏว่าในเดือนกันยายนที่ผ่านมา เราสามารถทำได้ทะลุเป้าเกินกว่าที่คาดหวังเอาไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว”
เครือบริษัท แซง-โกแบ็ง บริหารโรงงานการผลิตในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มากกว่า 10 แห่ง ทั้งในประเทศไทย สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย และเวียดนาม โดยมีพนักงานปฏิบัติงานกว่า 2,000 คน ในปัจจุบัน แซง-โกแบ็ง มีพนักงานผู้เชี่ยวชาญรวมกว่า 190,000 คนทั่วโลก และดำเนินงาน 4 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ กลุ่มนวัตกรรมกระจกแผ่นเรียบ กลุ่มธุรกิจบรรจุภัณฑ์ กลุ่มผลิตภัณฑ์วัสดุก่อสร้าง และกลุ่มการจัดจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง
ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชมเว็บไซต์ http://www.gyproc.co.th/, http://www.saint-gobain-sekurit.com/, http://www.weberthai.com/, http://www.abrasivesthailand.com/
เกี่ยวกับ แซง-โกแบ็ง ( Saint-Gobain )
บริษัท ไทยผลิตภัณฑ์ยิบซั่ม จำกัด (มหาชน) เป็นส่วนหนึ่งของบริษัทแซง-โกแบ็ง เครือบริษัทการผลิตโครงสร้างอาคารรายใหญ่ของโลก ซึ่งมีความเชี่ยวชาญระดับสูงในการออกแบบ การผลิต และการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ให้ตรงกลุ่มผู้บริโภคทั้งในวงการอุตสาหกรรม และกลุ่มผู้ใช้ทั่วไป โดยบริษัทได้ลงทุนเพื่อการวิจัยและพัฒนากระบวนการผลิตอย่างต่อเนื่อง เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงในราคาที่คุ้มค่า ซึ่งผู้บริโภคจะได้รับประโยชน์จากผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพสูง ไม่ก่อให้เกิดอาการภูมิแพ้ ต่อต้านแบคทีเรีย มีความสวยงามและอายุการใช้งานที่ยาวนาน ในขณะที่ผู้ใช้สามารถติดตั้งผลิตภัณฑ์ได้อย่างง่ายดาย ช่วยประหยัดเวลาและเพิ่มสวัสดิภาพในการปฏิบัติงาน
แซง-โกแบ็ง ดำเนินงาน 4 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ กลุ่มนวัตกรรมกระจกแผ่นเรียบ กลุ่มธุรกิจบรรจุภัณฑ์ กลุ่มผลิตภัณฑ์วัสดุก่อสร้าง และกลุ่มการจัดจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง ปัจจุบัน แซง-โกแบ็ง ดำเนินธุรกิจมาแล้วกว่า 350 ปี และมีพนักงานผู้เชี่ยวชาญกว่า 190,000 คนทั่วโลก ซึ่งสามารถยืนยันถึงความชำนาญการ และการนำเสนอโซลูชั่น ที่สอดคล้องกับความต้องการที่แตกต่างในแต่ละพื้นที่ได้อย่างลงตัว โดยไทยผลิตภัณฑ์ยิบซั่มอยู่ในกลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์วัสดุก่อสร้างของแซง-โกแบ็ง ซึ่งแผ่นยิปซัมของบริษัทเป็นผลิตภัณฑ์ที่ผลิตภายใต้กระบวนการ การตรวจสอบอย่างเคร่งครัด ได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO 9001:2008 และ ISO 14001:2004 โดยสามารถครองส่วนแบ่งการตลาดรายใหญ่ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกมายาวนานกว่า 40 ปี
