- Details
- Category: สิ่งแวดล้อม
- Published: Thursday, 19 February 2015 09:43
- Hits: 3625
วันที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558 ปีที่ 24 ฉบับที่ 8849 ข่าวสดรายวัน
โวยศิลปินตัดไม้ 143 ปี-แกะสลักผลงาน 'เอ็นจีโอ' สวดยับ! ทำลายป่า
 โวยศิลปิน - ต้นมะหาดขนาดใหญ่ อายุ 143 ปี ที่นายกมล ทัศนาญชลี ศิลปินแห่งชาติร่วมกับศิลปินชาวญี่ปุ่น และทีมงานตัดโค่นนำมาแกะสลักเป็นงานศิลป์ เตรียมวางแสดงริมแม่น้ำ เขตเทศบาลเมืองกระบี่ จนถูกวิพากษ์วิจารณ์กันไปทั่ว |
โวยจัดงานศิลปะเมืองกระบี่ พบตัดไม้มะหาดอายุกว่า 143 ปีมาใช้ เผยเป็นผลงานร่วมกันระหว่างศิลปินแห่งชาติชาวไทยกับศิลปินญี่ปุ่น เอ็นจีโอกระบี่จวกยับไม่เหมาะสม ด้านสุชาติ สวัสดิ์ศรี ศิลปินแห่งชาติ ระบุไม่ใช้ความงดงามของศิลปะ แต่เป็นการฆาตกรรมธรรมชาติ ด้านเจ้าของต้นไม้โอดโดนด่า ทั้งที่เป็นไม้ของ ตัวเอง เผยเดิมจะโค่นสร้างบ้าน แต่เห็นว่า เอาไปทำงานศิลปะน่าจะมีประโยชน์กว่า จี้คนรักป่าไปช่วยดูแลพื้นที่ป่าสงวนฯ หรืออนุรักษ์ป่าชายเลนดีกว่า
เมื่อวันที่ 18 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางในโลกออนไลน์ เมื่อมีผู้โพสต์เฟซบุ๊ก เป็นภาพการตัดต้นมะหาดขนาดใหญ่ อายุ 143 ปี เพื่อมาสร้างงานศิลปะ โดยมีนายกีรติศักดิ์ ภูเก้าล้วน นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองกระบี่ และนายสุวรรณ มุคุระ เจ้าของต้นไม้ยืน อยู่ด้วย โดยข้อความระบุว่าเจ้าของคือนายสุวรรณ มอบไม้ต้นนี้ที่อยู่ในโฉนดที่ดินของตนเอง ที่ บ้านทุ่ง ต.เขาคราม อ.เมือง จ.กระบี่ ให้กับเทศบาลเมืองกระบี่ เพื่อนำมาแกะสลักเป็นเสาประตูจำนวน 5 ท่อน โดย มีนายกมล ทัศนาญชลี ศิลปินแห่งชาติ ร่วมกับคุณมูไก ศิลปินจากประเทศญี่ปุ่น เป็น ผู้ดำเนินการสร้างประติมากรรมที่หน้าเมืองกระบี่ ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. ที่ผ่านมา
ก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันต่างๆ นานา แม้มีบางส่วนเห็นว่าเป็นสิทธิ์ของเจ้าของต้นไม้ที่จะดำเนินการอย่างไรก็ได้ แต่บรรดาประชาชนในพื้นที่ และเอ็นจีโอ ส่วนใหญ่ก็เสียดาย โดยระบุว่าน่าเสียใจที่ทำไมศิลปะไม่ได้ช่วยทำให้จิตใจคนนั้นดีงาม ตามความจริงและความดี ศิลปะยืนยง ชีวิตสั้น สินะเจ้าต้นไม้
ด้านนายนิวัฒน์ วัฒนยมนาพร กรรมการธรรมอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และศิลปกรรมท้องถิ่นจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า น่าเสียดายอย่างยิ่ง แม้ว่าจะเป็นงานศิลปะ แต่ควรดูที่ความเหมาะสมด้วย เพราะเป็นต้นไม้ที่ยังมีอายุยืนยาวอีกหลายปี ไม่ควรจะตัด น่าจะให้อยู่คู่เมืองกระบี่ เพราะปัจจุบันต้นไม้ใหญ่หายาก แม้ว่าจะอยู่ในที่เอกสารสิทธิก็ตาม ถ้าถามคนทั้งประเทศ เชื่อว่าส่วนใหญ่จะรู้สึกเสียดาย ส่วนตัวศิลปินที่มาร่วมงานก็คงจะไม่ทราบข้อมูลถึงที่มาที่ไป ถ้ารู้เชื่อว่าคงจะไม่ทำอย่างแน่นอน
นายสุวรรณเจ้าของต้นไม้กล่าวว่า สำหรับต้นมะหาดดังกล่าว ขึ้นอยู่ในสวนปาล์มน้ำมันของตน ซึ่งมีเอกสารสิทธิถูกต้อง เดิมทีตนตั้งใจจะโค่นไม้มะหาดต้นนี้อยู่แล้ว เพื่อนำมาสร้างบ้านให้กับลูกชาย และปลูกพืชอย่างอื่นแทน แต่ประจวบเหมาะกับนายกีรติศักดิ์ นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองกระบี่ มาขอ เพื่อนำไปสร้างประติมากรรมบริเวณหน้าเมืองกระบี่ ก็เลยมอบให้ไป เนื่องจากเห็นว่าเป็นเรื่องที่ดีทำประโยชน์ให้กับจังหวัด เป็นสิ่งที่มีคุณค่าและประโยชน์มากกว่าที่จะนำมาสร้างบ้านเป็นของตัวเองซะ ไม่คิดว่าจะถูกต่อต้านถึงขนาดนี้ ขอฝากไปยังคนที่รักต้นไม้จริงๆ ทำไมต้นไม้บริเวณป่าสงวนแห่งชาติ ป่าในช่อง อยู่ติดถนนเพชรเกษม ม.1 ต.เขาคราม อ.เมือง ถูกทำลายยืนต้นตายเป็นจำนวนมาก และบางต้นอายุมากกว่า 100 ปี และยังเป็นต้นไม้ต้องห้าม หรือป่าชายเลนที่ถูกทำลายจำนวนมาก แต่ทำไมไม่เห็นมีใครออกมาคัดค้านหรือประณามแต่อย่างใด
ขณะที่นายสุชาติ สวัสดิ์ศรี ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ ปี 2554 กล่าวถึงผลงานศิลปะจากต้นไม้อายุกว่าร้อยปี ของกมล ทัศนาญชลี ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ ปี 2540 กับ มูไก ศิลปินชาวญี่ปุ่น ที่จัดแสดงที่หอศิลป์อันดามัน จ.กระบี่ ว่า การตัดต้นไม้อายุ 143 ปี มาทำงานศิลปะ เป็นเรื่องไม่ควร ไม่เหมาะสม เท่ากับเป็นการฆาตกรรม แม่ของตัวเอง เพราะไม้ใหญ่ขนาดนี้เป็น แม่ไม้ ควรสิ้นไปด้วยอายุขัย งานนี้ดูเหมือน จะเป็นการร่วมมือกันระหว่างศิลปินแห่งชาติท่านนั้นกับศิลปินญี่ปุ่น ความคิดนี้ตนไม่ทราบว่าใครริเริ่ม แต่เป็นการร่วมมือกันทำร้ายธรรมชาติ คนทำงานศิลปะน่าจะมีจิตใจละเอียดอ่อน มีเซนส์ที่จะรู้ว่าอะไร ควรไม่ควร อะไรก็ตามที่ทำลายธรรมชาติไม่น่ายกย่องทั้งนั้น ศิลปินน่าจะมีวิธีนำเสนออย่างอื่น
"ส่วนที่พูดถึงในเฟซบุ๊กเรื่องการแยกแยะกรณีนี้ ว่าเหมือนกับหลักการเอารัฐประหาร ไม่เอารัฐประหาร เพื่อชี้ให้เห็นชัดว่า ศิลปินระดับนี้น่าจะมีความชัดเจนในเรื่องหลักการ ศิลปะเป็นทั้งความจริงและความงาม ส่วนความดีเป็นเรื่องสัมพัทธ์แล้วแต่ใครจะมอง กรณีนี้ความจริงคือต้นไม้มีอายุ 143 ปี แต่ถ้าหยิบความจริงนี้มาทำลักษณะนี้ ไม่ว่าจะสร้างสรรค์อย่างไรก็ไม่มีความงามแล้ว และเป็นเรื่องที่รับไม่ได้ ผมรู้สึกทั้งพะอืดพะอมและสะอิดสะเอียน เพราะต้นไม้มันงามในตัวของมันเองโดยไม่ต้องทำอะไร เราทำได้เพียงชื่นชมในฐานะที่มันเป็นไม้อายุมาก การโค่นมันลงมาเป็นทั้งการทำลายและทำร้าย ไม่ว่าฝีมือในแง่ศิลปะออกมางดงามขนาดไหน มันจบหมดแล้ว ต่อให้มีฝีมือเลิศเลอในสามโลก ผมก็ไม่เอาด้วย" นายสุชาติกล่าว
นายสุชาติกล่าวต่อว่า ตนไม่รู้จักศิลปินแห่งชาติท่านนั้นเป็นการส่วนตัว เคยแต่ได้ยินชื่อเสียงและเห็นว่าเขาอยู่ต่างประเทศ นานๆ จะมาประเทศไทยสักที มาสร้างความสัมพันธ์ในระดับไหนก็แล้วแต่ แต่เมื่อเป็นศิลปินแห่งชาติและคิดได้แค่นี้ มันน่าเหลือเชื่อ ส่วนศิลปินญี่ปุ่น ถ้าเขาทำเรื่องแบบนี้ในประเทศตัวเอง คนญี่ปุ่นจะยอมรับได้ไหม เขาเป็นใครผมไม่รู้ ทำไมไม่ทำในบ้านตัวเอง งานศิลปะชิ้นนี้เป็นการสมรู้ร่วมคิดของศิลปินไทย ศิลปินญี่ปุ่น และข้าราชการใน จ.กระบี่ ทำให้เกิดความยินยอม เป็นค่านิยม ที่ถูกทำให้เป็นเรื่องถูกต้อง เหมือนการโค่นต้นไม้เพื่อปลูกป่า ไปดัดแปลงตบแต่งเพื่อความงาม อันนี้คืออาการดัดจริตของศิลปิน กระทรวงวัฒนธรรมอาจจะต้องมาดูเรื่องนี้ด้วยหรือเปล่า
"กระบวนการแรกก็ไม่ถูกแล้ว คือสามัญสำนึก หลายประเทศเขาพยายามรักษาชีวิตต้นไม้ มีหมอต้นไม้ เขารักษามัน และศิลปินที่อ้างว่ามีจิตใจดีงามน่าจะเป็นคนก้าวออกไปก่อน 1 ก้าว เพื่อสร้างจิตสำนึกที่ดีงามกับธรรมชาติ ในภาพรวมของศิลปะและศิลปิน เรื่องนี้ไม่ถูกต้องและน่าเสียดาย อย่างยิ่ง โค่นไปแล้วจะสำนึกผิดยังไงก็ไม่ได้แล้ว เหมือนมีคำสั่งประหารตัดคอไปแล้ว จะมาสำนึกผิดบอกให้เขาเอาคอมาต่อมัน ไม่ได้ ถ้าเป็นไม้ในที่ดินของคุณเองเป็นอีกเรื่อง แต่หากใช้วิธีการบางอย่างเพื่อให้ได้มา ถือเป็นความฉ้อฉลของศิลปิน" ศิลปินแห่งชาติ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประติมากรรมดังกล่าว นายกีรติศักดิ์ ภูเก้าล้วน นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองกระบี่ มาวางไว้ที่บริเวณ ริมแม่น้ำกระบี่ ถนนอุตรกิจ ซึ่งเป็นประติ มากรรมอลังการ สแตนเลสกับไม้ซุงผลงานของกมล ทัศนาญชลี ศิลปินแห่งชาติ ร่วมกับคุณมูไก
