กลุ่มคนรักษ์อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิร่วมกับพันธมิตรผลักดันโครงการ อนุสาวรีย์ ZERO WASTE (กำจัดขยะเหลือศูนย์)

Details: Category: สิ่งแวดล้อม; Published: Thursday, 25 December 2014 13:37; Hits: 3910

กลุ่มคนรักษ์อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิร่วมกับพันธมิตรผลักดันโครงการ อนุสาวรีย์ ZERO WASTE (กำจัดขยะเหลือศูนย์)

กลุ่มคนรักษ์อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิร่วมกับร่วมมือกับบริษัทภาคเอกชนได้แก่ บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด บริษัท บรรจุภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อม จำกัด (มหาชน) และ บริษัท เดอะเวย์คอมมิวนิเคชั่น จำกัด จัดงาน 'อนุสาวรีย์ฯ Zero Waste'(กำจัดขยะเป็นศูนย์) ขึ้นเพื่อรณรงค์และขับเคลื่อนเรื่องขยะที่เป็นพิษให้แก่ประชาชนในบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ

คุณลักษณา โรจน์ธำรง ผู้อำนวยการเชตราชเทวี เปิดเผยว่า ตามที่กลุ่มคนรักษ์อนุสาวรีย์ได้เล็งเห็นว่าการจัดการขยะให้เหลือศูนย์เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมในบริเวณกรุงเทพมหานครฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเขตราชเทวีนั้นมีความสำคัญ จึงได้รวมตัวกันเพื่อเคลื่อนโครงการ 'Zero Waste: ขยะเหลือศูนย์'ที่ได้พัฒนาและดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นต้นแบบและรณรงค์การ'Reduce, Reuse, and Recycle'ขยะในห้างสรรพสินค้า และองค์กรต่างๆ ในการนี้ กลุ่มคนรักษ์อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิจึงได้ร่วมมือกับบริษัทภาคเอกชนได้แก่ บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด บริษัท บรรจุภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อม จำกัด (มหาชน) และ บริษัท เดอะเวย์คอมมิวนิเคชั่น จำกัด จัดงาน'อนุสาวรีย์ฯ Zero Waste'(กำจัดขยะเป็นศูนย์) ขึ้นเพื่อรณรงค์และขับเคลื่อนเรื่องขยะที่เป็นพิษให้แก่ประชาชนในบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ได้รู้จักกับขยะพิษที่เป็นภาชนะได้แก่ โฟม และที่เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ เพื่อสามารถลด นำกลับมาใช้ และรีไซเคิลขยะเหล่านี้ได้อย่างถูกต้องและปลอดภัย ผ่านกิจกรรมเสวนาเรื่องขยะ และบูธกิจกรรมที่จะให้ความรู้ละส่งเสริมเรื่องการจัดการขยะอย่างถูกต้องเหมาะสมโดยงาน'อนุสาวรีย์ฯ Zero Waste'(กำจัดขยะเป็นศูนย์) ครั้งนี้ ได้จัดขึ้นในวันที่ 19-21 ธันวาคม2557 ตั้งแต่เวลา 15.00 น. – 19.00 น.ณ บริเวณเกาะพญาไท อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ

นายแพทย์วีรฉัตร กิตติรัตนไพบูลย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บรรจุภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อม จำกัด (มหาชน)กล่าวว่า ขยะพิษหรือขยะอันตราย คือขยะที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อคนและสิ่งแวดล้อม ซึ่งในที่นี้จะขอแบ่งเป็น 2 ประเภทคือ ขยะอันตรายอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเป็นขยะที่ปนเปื้อนสารพิษ สารเคมี เช่น หลอดไฟเก่า เป็นต้น ส่วนประเภทที่ 2 คือ ขยะอันตรายที่นิยมนำมาทำเป็นภาชนะใส่อาหาร ซึ่งได้แก่ โฟม ซึ่งกล่องโฟมที่ใช้ตามท้องตลาดทั่วไป (Styrofoam) มักจะเป็นของเสียเหลือทิ้งสีดำๆ จากกระบวนการกลั่นน้ำมันปิโตรเลียม ซึ่งประกอบด้วยสารสไตรีน (Styrene) ที่มีโครงสร้างโมเลกุลคล้ายฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen) ในเพศหญิง อาหารตามสั่งที่บรรจุกล่องโฟม จึงเป็นแหล่งสะสมสารสไตรีน ซึ่งเป็นสารที่ออกฤทธิ์ทำให้สมองมึนงง สมองเสื่อมง่ายหงุดหงิดง่าย มีผลทำให้ประจำเดือนมาไม่ปกติ และเป็นสารก่อมะเร็งอีก 3 ชนิด ถ้าเป็นผู้ชายรับประทานเข้าไปมากๆ ก็มีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก ขณะที่ผู้หญิงมีโอกาสเป็นมะเร็งเต้านม และทั้งสองเพศมีโอกาสสูงต่อการเป็นมะเร็งตับ แม้จะไม่ได้ดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำก็ตาม สำหรับสไตรีน ถือเป็นสารอันตรายที่สหรัฐฯ เพิ่งประกาศขึ้นบัญชีสารก่อมะเร็ง หญิงมีครรภ์ที่รับประทานอาหารบรรจุในกล่องโฟม ลูกมีโอกาสสมองเสื่อมเป็นโรคเอ๋อ อวัยวะบางส่วนพิการ ส่วนคนทั่วไปถ้ารับประทานอาหารกล่องโฟมทุกวัน วันละอย่างน้อย 1 มื้อ ติดต่อกันเป็นเวลา 10 ปี จะมีโอกาสเสี่ยงเป็นมะเร็งสูงกว่าคนปกติถึง 6 เท่า

“ขยะเหลือศูนย์หรือ Zero waste เป็นแนวคิดที่ส่งเสริมการหมุนเวียนทรัพยากรกลับมาใช้ใหม่เพื่อเป็นการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด และเป็นการลดปริมาณของเสียที่เกิดขึ้นให้น้อยที่สุดโดยใช้หลักการของ 3Rs (Reduce,Reuse & Recycle) ซึ่งรวมไปถึงการออกแบบผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้เกือบทั้งหมดของผู้ค้า ตลอดจนการให้ความรู้และรณรงค์ผู้ใช้และผู้บริโภคให้ใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ มีความตระหนักรู้ ไม่สร้างขยะ เพื่อเป็นการลดปริมาณของเสียที่ส่งไปกำจัดโดยวิธีการฝังกลบและเผาทำลายให้มีปริมาณน้อยที่สุด”นายแพทย์วีรฉัตร กล่าว