WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

1aaสจี้ SPRC

สุริยะ ชงนายกฯ ตั้งอนุกรรมการร่วมฯ ป้องกันเกิดเหตุซ้ำ สั่ง กนอ.จี้ SPRC รับผิดชอบความเสียหายทั้งระยะสั้นและยาว

     สุริยะ ชงนายกรัฐมนตรี ตั้งอนุกรรมการร่วมฯ ป้องกันเกิดเหตุซ้ำ สั่ง กนอ.จี้ SPRC ชดใช้ค่าเสียหายกรณีน้ำมันดิบรั่ว ด้าน ‘วีริศ’ เผย บริษัทฯยินดีรับผิดชอบความเสียหายทั้งระยะสั้นและยาว แจงแม้ กนอ.ไม่มีอำนาจในการดูแลท่อและทุ่นขนถ่ายน้ำมันในทะเล แต่พร้อมร่วมแก้ปัญหาเต็มที่ ภายใต้หลักการของการอยู่ร่วมกันอย่างยั่งยืน ระหว่างอุตสาหกรรม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม

      นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า จากกรณีน้ำมันดิบรั่วไหลบริเวณทุ่นผูกเรือน้ำลึกแบบทุ่นเดี่ยวกลางทะเล ของบริษัท สตาร์ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPRC นั้น ได้รายงานให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมรับทราบ เพื่อขอให้พิจารณาจัดตั้งอนุกรรมการเพื่อทำหน้าที่สืบค้นปริมาณการรั่วไหลที่แท้จริง หาสาเหตุของปัญหา และหาวิธีการ/มาตรการการแก้ที่ต้นเหตุแห่งปัญหาอย่างยั่งยืน

QIC 720x100

     ซึ่งจะประกอบด้วย ผู้แทนจากชุมชนท้องถิ่น ผู้ทรงคุณวุฒิ และผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง อาทิ ผู้แทนจังหวัด ผู้แทนกรมเจ้าท่า กรมทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลและชายฝั่ง การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กรมควบคุมมลพิษ และกระทรวงสาธารณสุข เป็นต้น มีหน้าที่วิเคราะห์สาเหตุ ตรวจสอบความเหมาะสมของวิธีการและวงรอบในการทำการซ่อมบำรุงระบบต่างๆ ในอุตสาหกรรมที่มีความเสี่ยงสูง และพิจารณาออกกฎระเบียบหรือเสนอกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง เมื่อได้ผลสรุปที่เหมาะสม ก็จะนำไปขยายผลรับฟังความคิดเห็นทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง รวมถึงนำไปพิจารณาปรับปรุงกฎระเบียบต่างๆ เพื่อเป็นแนวทางในการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน

       “ได้สั่งการให้ กนอ.ประสานไปยังผู้บริหารของ SPRC แสดงความรับผิดชอบต่อผลกระทบที่เกิดกับชุมชนและสิ่งแวดล้อม”นายสุริยะ กล่าว

      นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวเสริมว่า กนอ.ได้ดำเนินการตามข้อสั่งการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมแล้ว โดยได้สั่งการให้บริษัท SPRC แสดงความรับผิดชอบต่อผลกระทบที่เกิดกับชุมชนและสิ่งแวดล้อม แม้ว่าภารกิจหลักของกระทรวงอุตสาหกรรมคือการดูแลโรงงานและโรงกลั่น และการดูแลท่อและทุ่นขนถ่ายน้ำมันในทะเลจะไม่ได้อยู่ในความรับผิดชอบของ กนอ. แต่ กนอ.ก็พยายามมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างเต็มที่

sme 720x100

        โดยยึดหลักการของการอยู่ร่วมกันอย่างยั่งยืน ระหว่างอุตสาหกรรม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม โดยขณะนี้บริษัทฯ ได้ออกแถลงการณ์ระบุถึงมาตรการด้านการเยียวยาต่างๆ แล้ว ซึ่งทางบริษัทฯ ยินดีที่จะรับผิดชอบค่าเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งระยะสั้นและระยะยาว นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้ร่วมมือกับทางจังหวัดในการจัดตั้งศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ในกรณีน้ำมันดิบรั่วไหลอีกด้วย ซึ่งผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำมันดิบรั่วไหลสามารถติดต่อและยื่นเรื่องได้ที่จุดรับเรื่องราวร้องทุกข์ กรณีพบคราบน้ำมัน หรือกรณีพบน้ำมันดิบรั่วไหล

     ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 31 ม.ค.2565 ศูนย์ควบคุมการปฏิบัติการในการป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน ทัพเรือภาคที่ 1 (ศคปน.ทรภ.1) ระบุว่า ไม่พบคราบน้ำมันในทะเลตั้งแต่ช่วงบ่ายของวันที่ 30 ม.ค.2565 ซึ่งสอดคล้องกับภาพถ่ายจากสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA ขณะที่การเก็บกู้ชายหาดนั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการแล้วเสร็จประมาณ 90% รวมถึงจัดให้มีสายด่วนเพื่อรับแจ้งกรณีพบคราบต้องสงสัยบริเวณชายหาดเพิ่มเติม ซึ่งจะมีหน่วยเคลื่อนที่เร็วเข้าไปพิสูจน์และเก็บกู้คราบน้ำมันด้วย

TU720x100

     “สำหรับ กรณีที่สังคมยังสับสนเกี่ยวกับตัวเลขปริมาณน้ำมันดิบที่รั่วไหลออกมานั้น ขอชี้แจงว่า เป็นการคำนวณปริมาณน้ำมันที่รั่วไหลจากท่ออ่อนส่งน้ำมันด้านล่าง (Submarine Hose) ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุ โดยใช้หลักการทางวิศวกรรม (Pressure Balance) เข้ามาคำนวณว่า มีปริมาณน้ำมันดิบรั่วไหลประมาณ 5 หมื่นลิตร ขณะที่ตัวเลขที่มีการเผยแพร่ในวันแรกว่า มีน้ำมันรั่วไหลจากท่อที่ใช้ในการโหลดจากเรือประมาณ 4 แสนลิตรนั้น เป็นตัวเลขที่บริษัทได้ประเมินปริมาณการรั่วไหลของน้ำมันจากกรณี Worst case หรือในแบบที่เสียหายมากที่สุด จากการกระจายตัวของน้ำมัน

      แต่เราสามารถระงับเหตุได้ก่อน ส่วนสาเหตุที่ไม่สามารถหาจุดที่น้ำมันดิบรั่วไหลได้ทันทีนั้น เนื่องจากท่อดังกล่าวมีอายุการใช้งานมานาน จึงไม่มีเซ็นเซอร์บอกจุดที่มีการรั่วไหลเหมือนกับท่อรุ่นใหม่ ทั้งนี้ ยืนยันว่า กนอ.ยึดหลักการของการอยู่ร่วมกันอย่างยั่งยืน ระหว่างอุตสาหกรรม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม ซึ่งถือเป็นนโยบายของรัฐบาลและของ กนอ.”นายวีริศ กล่าวทิ้งท้าย

วิริยะ 720x100

บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) พบน้ำมันดิบรั่วไหลบริเวณ ทุ่นผูกเรือน้ำลึกแบบทุ่นเดี่ยวกลางทะเล หรือจุดขนถ่ายน้ำมันในทะเล (SPM)

      บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) (SPRC) ขอแสดงความขอโทษและเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อ ทุกๆ ท่านที่ได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมจากเหตุการณ์น้ำมันดิบรั่วไหลบริเวณทุ่นผูกเรือน้ำลึกแบบทุ่นเดี่ยวกลางทะเล หรือจุดขนถ่ายน้ำมันในทะเล (SPM) เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2565 เวลา 21.06 น. ซึ่งตั้งอยู่ห่างชายฝั่งท่าเรือมาบตาพุดไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ประมาณ 20 กิโลเมตร

       บริษัทฯ ขอเรียนให้ทราบว่า จากการคำนวณล่าสุด ปริมาณน้ำมันดิบที่รั่วไหลโดยประมาณอยู่ที่ 39 ตัน หรือเทียบเท่าโดยประมาณ 47,000 ลิตร ซึ่งสอดคล้องกับปริมาณที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ประมาณ       20 - 50 ตัน

GC 720x100

       บริษัทฯ ขอแสดงความรับผิดชอบอย่างเต็มที่ต่อการปฏิบัติงานของเรา และรู้สึกเสียใจและผิดหวังอย่างมากต่อผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการรั่วไหลในครั้งนี้ บริษัทฯ จะเริ่มทำการสืบสวนอย่างละเอียดถี่ถ้วนสำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อจะทำการหาสาเหตุและทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญจากภายนอกและหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องในกระบวนการสืบสวนนี้อีกด้วย

       ทันทีที่เกิดเหตุการณ์รั่วไหลของน้ำมันดิบในบริเวณดังกล่าว บริษัทฯ ได้ปฏิบัติการอย่างเต็มที่ เพื่อให้เกิดผลกระทบน้อยที่สุดต่อชุมชน ชายฝั่งทะเล และสิ่งแวดล้อมทางทะเล รวมถึงระดมทีมตอบโต้ภาวะฉุกเฉิน ดำเนินการตามมาตรการการตอบโต้ภายใต้การควบคุมดูแลของกองทัพเรือ รวมไปถึงจัดให้อุปกรณ์มีความพร้อมใช้งานสำหรับการเก็บกู้คราบน้ำมัน อีกทั้ง มีการปฏิบัติงานอย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งในวันที่ 30 มกราคม 2565 ได้มีการยืนยันว่าไม่พบคราบน้ำมันทั้งบริเวณอ่าวพร้าวและบริเวณรอบๆ เกาะเสม็ดอีกด้วย

BANPU 720x100

       สิ่งสำคัญที่ทำให้บริษัทฯ สามารถผ่านสถานการณ์นี้มาได้ มาจากการได้รับการสนับสนุนและการให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีจากหน่วยงานราชการ ภาคเอกชน และชุมชนในพื้นที่ บริษัทฯ ขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ให้การช่วยเหลือในเหตุการณ์ครั้งนี้ บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าแก้ไขสถานการณ์ภายใต้การควบคุมดูแลของกองทัพเรือและกรมเจ้าท่า และได้ทำงานอย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานในจังหวัดระยอง, กรมควบคุมมลพิษ, กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง, กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย, กระทรวงสาธารณสุข, กระทรวงอุตสาหกรรม, การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย, ตำรวจ, บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน), สมาคมอนุรักษ์สภาพแวดล้อมของกลุ่มอุตสาหกรรมน้ำมัน (IESG), Oil Spill Response Limited (OSRL) กลุ่มชาวประมง และชุมชน

      บริษัทฯ ตระหนักดีว่า แม้เราพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะลดผลกระทบให้เกิดขึ้นน้อยที่สุดแล้ว แต่เหตุการณ์ครั้งนี้ก็ยังสร้างความเสียหายให้กับชุมชน การประมง ธุรกิจท้องถิ่น และส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมทางทะเล ด้วยเหตุนี้ บริษัทฯ ขอรับผิดชอบในเรื่องของการชดใช้ความเสียหายอย่างเป็นธรรมและสมเหตุสมผลให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้

ais 720x100

       บริษัทฯ ได้ทำงานร่วมกับจังหวัดระยอง เพื่อจัดตั้งจุดรับเรื่องร้องทุกข์ ณ บริเวณชายหาด บ้านสบ๊าย สบาย รีสอร์ท ตำบลตะพง นอกเหนือไปจากสายด่วนเบอร์โทร 1567 เพื่อเตรียมให้การช่วยเหลืออย่างรวดเร็วทั้งในระยะสั้น และระยะยาวสำหรับผู้ที่ได้รับผลกระทบ

       นอกจากนี้ บริษัทฯ จะทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญจากภายนอกองค์กรและหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องเพื่อทำการประเมินผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อสิ่งแวดล้อมและจะสนับสนุนการฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมดังกล่าวต่อไป

 

 Click Donate Support Web

 

EXIM One 720x90 C J

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!