WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

101009 Mahidol

นักวิชาการ .มหิดล ชี้เปลี่ยนวิถีชีวิต เพื่อลดมลพิษจากก๊าซ NOx อย่างยั่งยืน

          ช่วงต้นฤดูหนาว หรือเข้าเดือนพฤศจิกายน แม้ปัญหาวิกฤติ COVID-19 ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ปัญหาที่มักเกิดในช่วงที่มีอากาศหนาวเย็นร่วมด้วย คือ มลภาวะที่มากับฝุ่น PM2.5 ซึ่งส่งผลกระทบทั้งต่อสุขภาวะของผู้คน และสิ่งแวดล้อม แต่ที่ไม่ค่อยมีใครพูดถึง ทั้งๆ ที่เป็นปัญหาต่อผู้คนและสิ่งแวดล้อมเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในชุมชนเมือง คือ ภัยจากมลพิษ NOx ที่เกิดจากการเผาไหม้เช่นเดียวกัน โดยเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อระบบทางเดินหายใจ

          ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ภัทรพร โปสกนิษฐกุล ผู้ช่วยคณบดีฝ่ายวิเทศสัมพันธ์เชิงยุทธศาสตร์ และอาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมเคมี คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งเป็นอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมเคมีสิ่งแวดล้อมได้กล่าวอธิบายว่า NOx หรือ ไนโตรเจนออกไซด์เป็นก๊าซซึ่งมีส่วนประกอบทางเคมีของไนโตรเจนและออกซิเจน เกิดจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิลต่างๆ ซึ่งได้แก่ ก๊าซธรรมชาติ ถ่านหิน และน้ำมันเชื้อเพลิงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันเบนซิน หรือดีเซล ฯลฯ ที่ใช้กับรถยนต์ด้วยการสันดาปที่อุณหภูมิสูง เป็นที่ทราบกันดีว่า รถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซล หรือเครื่องยนต์ที่ระเบิดด้วยการอัดอากาศนั้น ตัวการสำคัญที่ก่อให้เกิดมลพิษเกิดจากการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์จนส่งผลกระทบต่อคุณภาพทางอากาศ

          ซึ่งการป้องกันภัยจากมลพิษ NOx สามารถทำได้โดยการกำหนดมาตรฐานไอเสียของยานพาหนะ ควบคู่กับมาตรฐานการควบคุมคุณภาพน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อให้ยานพาหนะปลดปล่อยไอเสียออกมาได้ไม่เกินเกณฑ์มาตรฐานกำหนด ซึ่งปัจจุบันประเทศไทยได้กำหนดโดยอ้างอิงกับมาตรฐานที่ใช้กับกลุ่มประเทศในทวีปยุโรปซึ่งแบ่งได้หลายระดับ โดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ภัทรพร โปสกนิษฐกุล มองว่า ปัจจุบันประเทศไทยยังคงใช้เกณฑ์มาตรฐานในระดับที่มีประสิทธิภาพ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมไม่สูงเท่าที่ควร ถึงเวลาแล้วที่ควรยกระดับมาตรฐานเพื่อสุขภาวะของประชาชนสิ่งแวดล้อม ตลอดจนอนาคตที่ดีกว่าของประเทศชาติ

          นอกจากนั้น ควรรณรงค์ให้ประชาชนหมั่นตรวจสภาพเครื่องยนต์ให้มีประสิทธิภาพพร้อมใช้ และเลือกใช้ Catalytic Converter หรือตัวทำปฏิกิริยาตรงท่อไอเสียรถยนต์ ซึ่งใช้เทคโนโลยีในการดักจับก๊าซ NOx ที่มีประสิทธิภาพ รวมทั้งควรเลือกใช้เครื่องยนต์ที่มีระบบหมุนเวียนไอเสีย หรือ Exhaust Gas Recirculation (EGR) เพื่อการเผาไหม้ที่สมบูรณ์ ซึ่งจะสามารถช่วยควบคุมมลพิษจากก๊าซ NOx ได้อีกช่องทางหนึ่งด้วย

          รองศาสตราจารย์ ดร.เอกสิทธิ์ สมสุข อาจารย์ประจำภาควิชาเคมี คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ผู้เชี่ยวชาญด้านการใช้สารเคมีปลอดภัย ได้กล่าวอธิบายเพิ่มเติมเพื่อให้เห็นภาพที่ชัดเจนในทางวิทยาศาสตร์เคมีว่า ก๊าซ NOx เมื่อสัมผัสกับน้ำจะมีคุณสมบัติกลายเป็นกรด ซึ่งมีฤทธิ์ที่กัดกร่อน ถ้าเป็นคนเมื่อสูดก๊าซ NOx เข้าไป จะเกิดกรดที่จะไปกัดกร่อนปอด ทำให้ระบบทางเดินหายใจมีปัญหาได้ แต่ถ้า NOx ได้ไปสัมผัสกับสิ่งของ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เป็นโลหะ จะกัดกร่อนโลหะนั้นๆ จนเกิดความเสียหาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อก๊าซ NOx ล่องลอยไปเจอฝน จะทำให้ฝนกลายเป็นฝนกรดได้

          โดยปกติแล้ว ก๊าซ NOx เกิดในปฏิกิริยาเผาไหม้ซึ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้ เนื่องจากใช้อากาศในการเผาไหม้ ซึ่งอากาศมีก๊าซไนโตรเจนเป็นองค์ประกอบถึงร้อยละ 78 ซึ่งในรถยนต์ใช้อากาศในการเผาไหม้ด้วยอุณหภูมิสูง โดยทำให้โอกาสที่ก๊าซไนโตรเจนในอากาศจะเกิดปฏิกิริยากับออกซิเจนจนกลายเป็น NOx มีสูงไปด้วย ดังนั้น หากเราใช้ Catalytic Converter ที่ท่อไอเสีย จะสามารถเปลี่ยนก๊าซพิษทั้งหลาย ซึ่งรวมทั้ง NOx ให้กลายเป็นก๊าซที่ไม่มีพิษได้ ด้วยหลักการดึงเอาออกซิเจนออกมา เพื่อทำให้ความเป็นพิษเกิดขึ้นน้อยลงและโดยทั่วไปถ้าอยู่ในอากาศเปิดซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นช่วงฤดูร้อน ก๊าซพิษจะสามารถเจือจางได้ด้วยอากาศหากมีลมพัดแรง แต่ปัญหาที่พบมักเกิดขึ้นในช่วงฤดูหนาว ซึ่งมีโอกาสสูงที่จะเกิดภาวะอากาศปิดหรือ ไม่ค่อยมีลมพัดทำให้เกิดการกระจุกตัว หรือการสะสมของก๊าซทั้งหลายโดยเฉพาะอย่างยิ่งก๊าซที่เกิดจากการเผาไหม้ NOx ซึ่งส่วนใหญ่มาจากรถยนต์

          เพื่อให้มีการจัดการอย่างยั่งยืนตามเป้าหมาย SDGs ข้อ 7 แห่งสหประชาชาติที่ว่าด้วยการเข้าถึงพลังงานสะอาด (Affordable and Cleanable Energy) วิธีการหลีกเลี่ยงมลพิษจากก๊าซ NOx ที่ยั่งยืนที่สุด คือ การใช้รถยนต์ให้น้อยลงแล้วเปลี่ยนวิถีชีวิตใหม่ หันมาใช้จักรยาน และรถสาธารณะกันให้มากขึ้น ตลอดจนเลือกใช้พลังงานสะอาดทดแทน เช่นเปลี่ยนมาใช้รถที่ใช้พลังงานไฟฟ้าทดแทนการใช้น้ำมัน ซึ่งในประเทศไทยพบว่ายังไม่แพร่หลายเท่าที่ควร อีกทั้งในการผลิตกระแสไฟฟ้าส่วนใหญ่ของประเทศไทยยังคงใช้พลังงานจากก๊าซธรรมชาติถึงเกือบร้อยละ 80 ซึ่งเป็นตัวการสำคัญในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ก่อให้เกิดภาวะโลกร้อน

          นอกจากนี้ ในประเทศไทยยังมีข้อจำกัดในการใช้พลังงานสะอาดจากแสงอาทิตย์ หรือ Solar Cell ซึ่งพบว่ามีค่าใช้จ่ายในการลงทุนติดตั้งค่อนข้างสูง จึงยังไม่เป็นที่แพร่หลายเท่าที่ควรเช่นกัน เพราะฉะนั้นจึงถึงเวลาแล้วที่ควรทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสู่วิถีชีวิตใหม่ เพื่อการใช้ชีวิตอย่างปลอดภัยและประคับประคองให้โลกนี้คงอยู่ต่อไปอย่างยั่งยืน

 

A101009

COREHOON

******************************************

line logotwitterLike1 Share3Like1 Share1กด Like - Share  เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ

 Click Donate Support Web

 

EXIM One 720x90 C J

BITKUB Ad

SAM720x100px bgGC 790x90

smed banpu 720x90 new1 1

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!