- Details
- Category: สิ่งแวดล้อม
- Published: Saturday, 04 July 2020 14:23
- Hits: 3032
สิงห์ เอสเตท จับมือพันธมิตรนำร่องจัดการปัญหาขยะพลาสติกจากการก่อสร้างโครงการดิ เอส สุขุมวิท 36 พร้อมลุยโมเดลกรีนแวลูเชน มุ่งสู่องค์กรแห่งความยั่งยืน
สิงห์ เอสเตท และ โครงการวน โดยทีพีบีไอ จับมือร่วมกันจัดการขยะพลาสติกภายในพื้นที่ก่อสร้าง นำร่องพื้นที่โครงการดิ เอส สุขุมวิท 36 (THE ESSE SUKHUMVIT 36) คาดจะสามารถนำขยะพลาสติกเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลเพื่อนำกลับมาใช้ซ้ำได้กว่า 90% เพื่อก้าวตามแนวคิดระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนและ Enriching Life สร้างคุณค่าให้ชีวิต พร้อมมุ่งสู่ “องค์กรแห่งความยั่งยืน” เดินหน้าลุยโมเดลกรีนแวลูเชน (Green Value Chain) ชวนพันธมิตรธุรกิจที่เกี่ยวข้องในกระบวนการพัฒนาโครงการของบริษัทฯ ให้ตระหนักในการใช้ทรัพยากรอย่างเกิดประโยชน์สูงสุดและคำนึงเรื่องสิ่งแวดล้อมควบคู่กัน
นายณัฐวุฒิ มัธยมจันทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการพัฒนาธุรกิจพักอาศัย บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “สิงห์ เอสเตท เป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ใส่ใจในคุณภาพและมุ่งสร้างคุณค่าให้ชีวิต โดยให้ความสำคัญกับการส่งมอบโครงการคุณภาพให้แก่ลูกค้า พร้อมสร้างคุณค่าให้กับสังคม และใส่ใจในผลกระทบที่เกิดจากการทำธุรกิจของบริษัทฯ ต่อสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะปัญหาขยะพลาสติกที่ทางบริษัทฯ ให้ความสำคัญและจริงจังในการร่วมแก้ไข โดยมีการศึกษาเรื่องผลกระทบจากขยะพลาสติกในหลายๆ มิติโดยเฉพาะเรื่องสิ่งแวดล้อม ซึ่งจากข้อมูลพบว่าในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาประเทศไทยมีขยะพลาสติกประมาณปีละ 2 ล้านตัน แต่นำกลับมาใช้ประโยชน์เฉลี่ยเพียงปีละ 0.5 ล้านตันเท่านั้น ส่วนที่เหลือจะถูกจัดการด้วยวิธีฝังกลบซึ่งเป็นวิธีที่สิ้นเปลืองงบประมาณและพื้นที่เป็นอย่างมาก รวมทั้งขยะพลาสติกบางส่วนอาจหลุดรอดออกสู่ทะเลจนนำไปสู่วิกฤตขยะในทะเล ที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้ดำเนินโครงการรณรงค์ด้านสิ่งแวดล้อมมาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งร่วมเป็นสมาชิกเครือข่ายเพื่อความยั่งยืนแห่งประเทศไทย (TRBN) และเข้าร่วมโครงการส่งพลาสติกกลับบ้าน ที่สอดคล้องกับนโยบายของบริษัทฯ ซึ่งรณรงค์ให้พนักงานทุกคนใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า รวมถึงสนับสนุนให้คัดแยกและจัดการขยะพลาสติกอย่างถูกวิธี เพื่อให้สามารถนำไปรีไซเคิลและช่วยลดปัญหาขยะพลาสติกล้นเมือง
สิงห์ เอสเตท ในฐานะบริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ต้องยอมรับว่าในขั้นตอนการก่อสร้างย่อมก่อให้เกิดขยะ ทั้งเศษวัสดุ คอนกรีต เหล็ก ไม้ รวมไปถึงพลาสติกจำนวนมากที่มาจากวัสดุห่อหุ้มอุปกรณ์ก่อสร้าง และวัสดุห่อหุ้มเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ โดยจากข้อมูลของกรมควบคุมมลพิษพบว่ามีขยะจากการก่อสร้างในพื้นที่กรุงเทพฯ โดยเฉลี่ยประมาณ 300 ตันต่อวัน ดังนั้นบริษัทฯ จึงตระหนักและหาแนวทางในการจัดการขยะพลาสติกเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมาโดยตลอด ตามเป้าหมายความยั่งยืนของบริษัทที่ได้นำ SDGs มาใช้ในการพัฒนาโครงการและเป็นกลยุทธ์ในกระบวนการก่อสร้าง ซึ่งล่าสุดได้ร่วมมือกับโครงการวน โดย บริษัท ทีพีบีไอ จำกัด (มหาชน) เพื่อนำขยะพลาสติกจากการก่อสร้างไปสู่กระบวนการรีไซเคิล ซึ่งถือเป็นความร่วมมือระหว่างสององค์กรในการลดปัญหาสิ่งแวดล้อมที่สำคัญอย่างมาก”
“โครงการวน” เป็นแคมเปญภายใต้บริษัท ทีพีบีไอ จำกัด (มหาชน) เพื่อแก้ไขปัญหาขยะพลาสติกอย่างสร้างสรรค์ บนแนวคิดของระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) คือการนำขยะพลาสติกเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิล (Recycle) เพื่อนำพลาสติกกลับมาใช้ซ้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุดและกลับมาหมุนเวียนอยู่ในระบบให้นานที่สุด
นายกมล บริสุทธนะกุล ผู้ก่อตั้งโครงการวน และประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน บริษัท ทีพีบีไอ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “โครงการวน (Won) ได้นำหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) เข้ามาใช้โดยเน้นการให้ความรู้ เสนอแนะวิธีการแยกขยะ และการเตรียมเศษพลาสติกเพื่อเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิล โดยมีเป้าหมายคือต้องการให้พลาสติกที่เราใช้กันอยู่ทุกวันกลับมาหมุนเวียนอยู่ในระบบให้นานที่สุด ซึ่งความร่วมมือกับสิงห์ เอสเตท ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกของความร่วมมือกับผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และเป็นครั้งแรกที่มีการนำพลาสติกจากโครงการก่อสร้างมารีไซเคิลอย่างเป็นรูปธรรม ผมเชื่อว่าความร่วมมือนี้จะขยายผลไปสู่การร่วมมือในโครงการอื่นๆ ในอนาคต โดยขยะพลาสติกที่ได้จะเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลที่โรงงานของทีพีบีไอ เพื่อผลิตเป็นถุงพลาสติกหรือถุงขยะ และนำไปมอบให้กับทางสำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานคร เพื่อให้เกิดประโยชน์ในการจัดการขยะมากที่สุด”
สำหรับการร่วมมือกับทางโครงการวนจะเริ่มนำร่องที่พื้นที่ก่อสร้างของคอนโดมิเนียมมาสเตอร์พีซระดับอัลติเมทลักชัวรีแห่งแรกของบริษัท คือ ดิ เอส สุขุมวิท 36 (THE ESSE SUKHUMVIT 36) ซึ่งเป็นโครงการที่มีการร่วมทุนกับ บริษัท ฮ่องกง แลนด์ โฮลดิ้ง จำกัด ที่เป็นบริษัทชั้นนำระดับโลกด้านการลงทุน บริหารจัดการ และพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ปัจจุบันการก่อสร้างแล้วเสร็จมากกว่า 80% โดยคาดว่าจะสามารถนำพลาสติกเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลได้กว่า 90% ของขยะพลาสติกทั้งหมดของโครงการ ทั้งนี้การรีไซเคิลขยะพลาสติกจากพื้นที่ก่อสร้างโครงการดิ เอส สุขุมวิท 36 ที่ร่วมกับทางโครงการวนจำนวน 1,000 กิโลกรัม จะสามารถนำไปรีไซเคิลเป็นถุงขยะหรือถุงพลาสติกที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้มากกว่า 4,000 ใบ นอกจากนี้ยังได้รับความร่วมมือจากทางบริษัทผู้รับเหมาก่อสร้างและบริษัทพันธมิตรคู่ค้า คือ บริษัท บวิค-ไทย จำกัด และ บริษัท เฟรมเทค วินโดว์ แอนด์ ดอร์ จำกัด ที่ให้ความร่วมมือในการจัดเก็บ รวบรวม และคัดแยกขยะพลาสติกออกจากขยะอื่นๆ รวมทั้งให้พื้นที่ในการจัดเก็บขยะพลาสติกจากไซต์ก่อสร้างก่อนส่งต่อให้โครงการวน
“สิงห์ เอสเตท มีแผนเดินหน้าสู่ “องค์กรแห่งความยั่งยืน” โดยใช้โมเดลกรีนแวลูเชน (Green Value Chain) ในทุกโครงการของบริษัทฯ ในอนาคต ซึ่งจะมีข้อตกลงให้ผู้เกี่ยวข้องในทุกกระบวนการต้องมีส่วนร่วมรับผิดชอบในงานของตนเอง เพื่อลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับสิ่งแวดล้อม เริ่มตั้งแต่การออกแบบโครงการที่ต้องเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม กระบวนการจัดซื้อจัดจ้างที่จะต้องคัดเลือกผู้รับเหมาที่มีแนวคิดเดียวกัน การคัดเลือกวัสดุที่ไม่ทำร้ายสิ่งแวดล้อม ตลอดจนการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีในกระบวนการที่เกี่ยวข้องตลอดวงจรชีวิตของผลิตภัณฑ์ เพื่อให้เกิดการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด จนกระทั่งส่งมอบให้กับลูกค้า” นายณัฐวุฒิ กล่าวปิดท้าย
AO7125
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
Click Donate Support Web