- Details
- Category: สิ่งแวดล้อม
- Published: Thursday, 28 June 2018 22:31
- Hits: 4110
ก.วัฒนธรรมมอบโล่'ซีพีเอฟ'ช่วยอนุรักษ์ป่าชายเลน ต.บางหญ้าแพรก จ.สมุทรสาคร
บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด(มหาชน) หรือซีพีเอฟ รับโล่องค์กรที่มีคุณูปการในการสืบสานตำนานต้นไม้ จากกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม จากผลการดำเนินโครงการ’ซีพีเอฟ ปลูก ปัน ป้องป่าชายเลน’ต.บางหญ้าแพรก จ.สมุทรสาคร สร้างการมีส่วนร่วมของชุมชนในพื้นที่ เพิ่มพื้นที่ป่าชายเลนให้ประเทศไทยอีก 104 ไร่
งานมอบโล่ในวันนี้ ได้รับเกียรติจาก นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานและมอบโล่ยกย่องเชิดชูเกียรติบุคคล องค์กรภาครัฐและเอกชน และชุมชน จำนวน 127 โล่ ที่ดำเนินงานด้านการอนุรักษ์ ฟื้นฟู ดูแลต้นไม้ และสนับสนุนด้านทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม โดยใช้มิติทางวัฒนธรรม ณ หอประชุมเล็ก ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ซึ่งซีพีเอฟเป็นหนึ่งในองค์กรภาคเอกชนที่ได้รับโล่ดังกล่าว
นายปราโมทย์ ชาวเมืองโขง วัฒนธรรมจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวว่า กระทรวงวัฒนธรรม จัดโครงการ’รุกข มรดกของแผ่นดิน ใต้ร่มพระบารมี’ เพื่อส่งเสริมให้เด็ก เยาวชน และประชาชน เล็งเห็นความสำคัญของต้นไม้ และมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ ฟื้นฟู ดูแลรักษาต้นไม้ โดยได้จัดงานมอบโล่เพื่อยกย่องเชิดชูเกียรติบุคคล องค์กร และชุมชน ที่ใช้มิติทางวัฒนธรรมในการสืบสานตำนานต้นไม้
โครงการ 'ซีพีเอฟ ปลูก ปัน ป้อง ป่าชายเลน'ตำบลบางหญ้าแพรก จังหวัดสมุทรสาคร เป็นโครงการปลูกป่าชายเลน ที่สร้างการมีส่วนร่วมระหว่างหน่วยงานเจ้าของโครงการ คือ ซีพีเอฟ และชุมชนในพื้นที่ เป็นโครงการที่เกิดผลเชิงประจักษ์ คือ เพิ่มพื้นที่ป่าชายเลนให้ประเทศไทยอีก 104 ไร่ ต้นไม้ในพื้นที่ที่ปลูกได้รับการดูแล มีอัตราการรอดสูง เป็นแหล่งเพาะขยายพันธุ์และแหล่งหลบภัยของสัตว์น้ำวัยอ่อน เพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพ และช่วยสร้างอาชีพให้ชุมชนในพื้นที่
“โครงการปลูกป่าชายเลนของซีพีเอฟ ดำเนินการต่อเนื่องมา 5 ปีแล้ว มีการขยายผลพื้นที่ปลูกป่าชายเลนเพิ่มขึ้นทุกปี เกิดความร่วมมือของพื้นที่ ชุมชน รวมไปถึงการสร้างเครือข่ายในการดูแลป่า โดยให้ภาคประชาชนร่วมดูแลด้วย ซึ่งเป็นไปตามหลักเกณฑ์การพิจารณาทุกข้อ“วัฒนธรรมจังหวัดสมุทรสาคร กล่าว
นายปราโมทย์ ยังได้กล่าวเพิ่มเติมว่า ซีพีเอฟเข้ามาปลูกป่าชายเลนในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาครเป็นเรื่องที่ดี เป็นการคืนกำไรให้สังคม เนื่องจากซีพีเอฟเป็นองค์กรธุรกิจระดับแแนวหน้า การเข้ามามีส่วนร่วมดูแลด้านทรัพยากรธรรมชาติ ถือว่าเข้ามาจุดประกายให้ภาคประชาชนในพื้นที่มีส่วนร่วมด้วย ยิ่งทำให้เกิดความเข้มแข็งมากกว่ารอภาครัฐเพียงอย่างเดียว ภาคเอกชนอื่้นๆ ในประเทศไทยก็สามารถที่จะเข้ามาช่วยกันได้
ด้าน นายปรีชา มีนิล รองกรรมการผู้จัดการ ซีพีเอฟ ในฐานะประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ป่าชายเลน จ.สมุทรสาคร เปิดเผยว่า เป็นความภาคภูมิใจของบริษัทฯ ที่ได้รับโล่รางวัลดังกล่าว จากความมุ่งมั่นมีส่วนร่วมอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ ผ่านการดำเนินโครงการ ‘ซีพีเอฟ ปลูก ปัน ป้อง ป่าชายเลน’ตำบลบางหญ้าแพรก จ.สมุทรสาคร ตั้งแต่ปี 2557 เป็นต้นมา ในพื้นที่ของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) ช่วยเพิ่มพื้นที่ปลูกป่าชายเลนให้ประเทศไทยได้อีก 104 ไร่ และร่วมอนุรักษ์ป่าชายเลน 500 ไร่ รวมทั้งสร้างเครือข่ายชุมชนดูแลป่าชายเลนอย่างยั่งยืน
ซีพีเอฟ เปิดโครงการปลูก ปัน ป้อง ป่าชายเลน ที่ต.บางหญ้าแพรก จ.สมุทรสาคร เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2557 เริ่มจากพื้นที่ปาชายเลนจากปากอ่าวมหาชัยฝั่งตะวันตก หมู่ที่ 6 ต.บางหญ้าแพรก จ.สมุทรสาคร โดยร่วมกับหน่วยราชการ ได้แก่ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ศูนย์ศึกษาเรียนรู้และพัฒนาทรัพยากรป่าชายเลนที่ 2 (สมุทรสาคร) สำนักงานสิ่งแวดล้อมจังหวัด เทศบาลตำบลบางหญ้าแพรก องค์การบริหารส่วนจังหวัด ผู้ใหญ่บ้าน โรงเรียนในชุมชน กำหนดพื้นที่ปลูกป่าใหม่ และพื้นที่อนุรักษ์
ผลการดำเนินโครงการที่ผ่านมา นอกจากเพิ่มพื้นที่ป่าชายเลนแล้ว ยังช่วยในเรื่องของการสร้างงาน สร้างอาชีพเสริม ชุมชนนำความรู้ที่ได้จากการอบรม การศึกษาดูงาน มาใช้ประกอบอาชีพ นำพืชจากป่ามาแปรรูปทำเป็นอาหารและผลิตภัณฑ์ต่างๆ ใช้วัสดุในท้องถิ่นที่มีอยู่ให้เกิดมูลค่าเพิ่ม เช่น การทำถ่านไบโอชาร์ ทำปุ๋ยจุลินทรีย์ชีวภาพ ทำน้ำลำแพน ปลูกชาใบขลู่ ปลูกพืชโดยใช้ปุ๋ยที่หมักเอง นอกจากนี้ เกิดแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศให้นักท่องเที่ยวเข้ามาศึกษาและเรียนรู้เรื่องราวของพันธุ์ไม้ พันธุ์สัตว์ชายเลนหลายชนิด
'โครงการซีพีเอฟ ปลูก ปัน ป้อง ป่าชายเลน'เป็นโครงการที่ซีพีเอฟ ร่วมกับกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง(ทช.) สำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ (องค์การมหาชน) และเครือข่ายภาคประชาสังคม ดำเนินการอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าชายเลน ตลอดจนเพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพในพื้นที่ยุทธศาสตร์ 5 แห่ง ของจังหวัดสมุทรสาคร สงขลา ชุมพร ระยอง และพังงา ภายใต้แผนยุทธศาสตร์ 5 ปี (ปี 2557-2561) ปลูกป่าชายเพิ่มเพิ่มเติมกว่า 2 พันไร่