- Details
- Category: CSR
- Published: Tuesday, 05 July 2016 23:52
- Hits: 2715
บ้านปู เปิดรับสมัคร 'ค่ายเพาเวอร์กรีน 11' ชวนเยาวชนม.4 และม.5 สายวิทย์ ลงพื้นที่เรียนรู้สิ่งแวดล้อม ณ เขาใหญ่ แหล่งมรดกโลก
บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) และคณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดรับสมัครนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 และ 5 สายวิทย์ทั่วประเทศ เข้าร่วมค่ายเยาวชนวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม'ค่ายเพาเวอร์กรีน 11'ภายใต้หัวข้อ'การจัดการความหลากหลายทางชีวภาพ กับการอนุรักษ์แหล่งมรดกโลกอย่างยั่งยืน' โดยจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 8 - 15 ตุลาคม 2559 ณ คณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา นอกจากเยาวชนจะมีโอกาสได้เรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญและการทดลองในห้องแล็บแล้วยังจะได้ทัศนศึกษาเจาะลึกความหลากหลายทางชีวภาพ ณ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่แหล่งมรดกโลกไทยที่อุดมไปด้วยความสมบูรณ์ทางธรรมชาติซึ่งได้รับการขนานนามว่าเป็น'อุทยานมรดกของกลุ่มประเทศอาเซียน'
ภายในค่ายเพาเวอร์กรีน 11 เยาวชนที่ได้รับคัดเลือกจำนวน 70 คน จะได้เรียนรู้เกี่ยวกับความสำคัญและการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพทั้งภาคทฤษฎี และการลงมือปฏิบัติจริง รวมถึงการเดินป่าทำความรู้จักกับพันธุ์พืชและพันธุ์สัตว์หายากต่างๆ ณ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ก่อนนำความรู้มาพัฒนาโครงงานกลุ่มวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม ลุ้นชิงทุนการศึกษารวมกว่า 30,000 บาท
นางอุดมลักษณ์ โอฬาร ผู้อำนวยการสายอาวุโส-องค์กรสัมพันธ์ บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “บ้านปูฯ ริเริ่มโครงการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ ณ ประเทศอินโดนีเซีย เพื่อสร้างสมดุลด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมในทุกกระบวนการดำเนินธุรกิจ เราต้องการนำความเชี่ยวชาญนี้มาต่อยอดการเรียนรู้ของเยาวชนไทย จึงเป็นที่มาของหัวข้อค่ายเพาเวอร์กรีนปีที่ 11 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ซึ่งไฮไลท์ในปีนี้คือ ทัศนศึกษา ณ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ แหล่งมรดกโลกที่มีความอุดมสมบูรณ์สูงทางธรรมชาติ ทั้งพืชพันธุ์ สัตว์หายากนานาชนิด และต้นกำเนิดแหล่งน้ำที่สำคัญ เพื่อให้เยาวชนได้เรียนรู้แบบเจาะลึกถึงความเชื่อมโยงของความหลากหลายทางชีวภาพต่อการพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนจากการลงพื้นที่จริง รวมทั้งคิดวิเคราะห์ผ่านกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของบ้านปูฯ ที่มุ่งเน้นพัฒนาคนด้วยความรู้ เพราะเราเชื่อว่า พลังความรู้ คือพลังแห่งการเปลี่ยนแปลงและพัฒนา”
“การได้เข้าร่วมค่ายเพาเวอร์กรีนเมื่อปีที่แล้ว ทำให้ผมได้เรียนรู้เกี่ยวกับการอนุรักษ์ธรรมชาติและพัฒนาความหลากหลายทางชีวภาพอย่างเป็นระบบเพื่อความยั่งยืน ผมได้ลงมือปฏิบัติจริงซึ่งเป็นประสบการณ์ที่หาไม่ได้จากห้องเรียน นอกจากจะเป็นการใช้เวลาว่างช่วงปิดเทอมให้เกิดประโยชน์และได้รู้จักเพื่อนใหม่ที่มีความชอบเหมือนกันแล้ว ยังเป็นแรงบันดาลใจและจุดเริ่มต้นให้ผมเกิดความคิดอยากพัฒนาสิ่งแวดล้อมให้กับชุมชนที่อาศัยอยู่อีกด้วย” นายสุริยันต์ ถวิลไพร หรือ อั๋น ศิษย์เก่าค่ายเพาเวอร์กรีน 10 กล่าว
สำหรับ เยาวชนที่สนใจสามารถดาวน์โหลดใบสมัครได้ที่ www.powergreencamp.com ส่งใบสมัครเรียงความด้วยลายมือตนเอง ความยาวไม่เกิน 1 หน้ากระดาษขนาด A4 หรือ ส่งคลิปวีดีโอความยาวไม่เกิน 1 นาที ในหัวข้อ'ความหลากหลายทางชีวภาพในแหล่งมรดกโลกทางธรรมชาติ'พร้อมเอกสารอื่นๆ ได้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม – 15 สิงหาคม 2559 ดูรายละเอียดและเกณฑ์การสมัครเพิ่มเติม พร้อมติดตามข่าวและข้อมูลต่างๆของ 'ค่ายเพาเวอร์กรีน'รุ่นที่ 11 ได้ที่เฟซบุ๊ค www.facebook.com/powergreencamp หรือโทร. 0 2441 5000 ต่อ 2112
เกี่ยวกับ ค่ายเพาเวอร์กรีน
โครงการค่ายเยาวชนวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม 'เพาเวอร์กรีน'(The Power Green Camp) ดำเนินการต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2549 โดยความร่วมมือระหว่างคณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล และ บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจด้านวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ ตลอดจนเน้นให้เยาวชนรู้จักนำความรู้ด้านวิทยาศาสตร์มาใช้แก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นระบบ เพื่อปลูกจิตสำนึกในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนให้แก่เยาวชน สร้างแกนนำและเครือข่ายเยาวชนด้านสิ่งแวดล้อมในอนาคต โดยกลุ่มเป้าหมายของค่าย คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 และ 5 สายวิทยาศาสตร์ทั่วประเทศ
เกี่ยวกับ บมจ. บ้านปู
บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) เป็นผู้บุกเบิกด้านพลังงานชั้นแนวหน้าของเอเชีย ดำเนินธุรกิจถ่านหิน ธุรกิจไฟฟ้า และพลังงานที่เกี่ยวเนื่องอย่างครบวงจร ใน 9 ประเทศ ได้แก่ ไทย อินโดนีเซีย จีน ออสเตรเลีย ลาว มองโกเลีย สิงคโปร์ ญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกา
'พลังความรู้ คือพลังแห่งการเปลี่ยนแปลงและพัฒนา'
บ้านปูฯ เชื่อว่า 'การเรียนรู้'เป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนา 'คน' ซึ่งจะขับเคลื่อนชุมชนและสังคมให้พัฒนาอย่างยั่งยืนในระยะยาว โครงการซีเอสอาร์ของบ้านปูฯ ในทุกประเทศ จึงมุ่งเน้นสนับสนุนและส่งเสริมการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องให้กับเยาวชนและชุมชนในหลากหลายรูปแบบ ทั้งการเรียนรู้จากประสบการณ์จริง การดำเนินชีวิตประจำวัน การเรียนรู้ทั้งในและนอกห้องเรียน การฝึกฝนเพื่อพัฒนาศักยภาพและทักษะชีวิต หรือการค้นคว้า เรียนรู้ และค้นพบองค์ความรู้ด้วยตนเองหรือร่วมกับคนอื่นๆ