WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

1บกซ

'บิ๊กซี'เดินหน้า'ธนาคารอาหารเพื่อน้อง'เสริมโภชนาการเด็กในสลัม ทั้งร่างกายและสมอง

    การเจริญเติบโตของเด็กคนหนึ่ง ปฎิเสธไม่ได้ว่านอกจากเรื่องการดูแลเอาใจใส่ อบรมเลี้ยงดูแล้ว  อาหารดูจะเป็นปัจจัยหลักที่จะช่วยเสริมสร้างพัฒนาการทั้งด้านร่างกาย และสมอง ทว่าด้วยภาวะทางเศรษฐกิจ บ่อยครั้งที่ความเท่าเทียม การเข้าถึงปัจจัยสี่ก็เป็นไปด้วยความยากลำบาก  ยิ่งครอบครัวที่มีฐานะยากจน มีปัญหาครอบครัว การบ่มเพาะ เติบโตของเด็กให้เป็นผู้ใหญ่ที่สมบูรณ์คงเป็นได้ยาก

    'บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์'อีกหนึ่ง ภาคเอกชนที่เล็งเห็นความสำคัญในการช่วยเหลือสังคมทุกช่วงวัย ด้วยความหวังมุ่งเปลี่ยนแปลงคุณภาพชีวิตของทุกคนในชุมชน น.ส.วารุณี กิจเจริญพูลสิน ผู้อำนวยการองค์กรสัมพันธ์ บมจ. บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์  เล่าถึงการเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาสังคมว่า "บิ๊กซี มีโครงการเพื่อสังคมที่ให้ความสำคัญกับ 4 แนวคิดหลัก ได้แก่ การพัฒนาชุมชน การพัฒนาการศึกษา การส่งเสริมสุขภาพ และการส่งเสริมสิ่งแวดล้อม ซึ่งโครงการBig C Food Bank หรือธนาคารอาหารเพื่อน้อง ที่ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องเข้าสู่ปีที่ 2 โครงการธนาคารอาหารเพื่อน้อง ที่ทางบริษัทได้ร่วมกับทางมูลนิธิเด็กอ่อนในสลัม ในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระนางเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลป์ยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์นั้น เพื่อช่วยเหลือมูลนิธิเด็กอ่อนในสลัมฯ ที่ต้องดูแลบ้านทั้งหมด 4 หลัง และแต่ละหลังล้วนมีเด็กเล็ก  มีภาระในการดูแลค่อนข้างมาก ซึ่งพัฒนาการของเด็กเกิดขึ้นได้ต้องผ่านการดูแลเอาใจใส่ และอาหารที่มีประโยชน์ บิ๊กซี มีอาหาร เครื่องอุปโภคบริโภคที่มีคุณภาพ จึงสนับสนุนอาหารสด อาหารแห้ง และเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็นเดือนละ 10,000 บาท ทุกบ้านของมูลนิธิเด็กอ่อนในสลัมฯ เพื่อให้เด็กได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วน มีประโยชน์ เสริมสร้างพัฒนาของพวกเขาในทุกด้าน รวมถึงแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของมูลนิธิเด็กอ่อนในสลัมฯ

    บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ 4 สาขาใกล้ชุมชนทั้ง 4 ได้แก่ สาขาพระราม 4 สาขาลาดพร้าว สาขาเพชรเกษมและสาขาอ่อนนุช โดยจะทำการจัดส่งอาหารสด อาหารแห้งและเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็นสำหรับเด็กอ่อนถึงเด็กเล็กให้กับบ้านที่เป็นศูนย์ดูแลเด็กภายในการดูแลของมูลนิธิเด็กอ่อนในสลัมฯ เป็นประจำทุกเดือน รวมระยะเวลา 1 ปี (พ.ค. 59 – เม.ย. 60) ภายใต้เม็ดเงินสนับสนุนโครงการรวมมูลค่ากว่า 500,000 บาท โดยคาดว่าจะช่วยเปลี่ยนแปลงคุณภาพชีวิตเด็กและเยาวชนได้มากกว่า 500 คน

    มูลนิธิเด็กอ่อนในสลัม ในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระนางเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลป์ยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ที่ต้องดูแล ทั้ง 4 หลัง ได้แก่  บ้านสมวัย  (ชุมชนคลองเตย)  ดูแลเด็ก 90 คนต่อวัน ซึ่งเด็กส่วนใหญ่มาจากครอบครัวที่มีปัญหารุนแรงซับซ้อน เช่น พ่อแม่ติดยาเสพติด พ่อเลี้ยงเดี่ยว แม่เลี้ยวเดียว มีปัญหาสุขภาพ ภาวะซึมเศร้าบ้านศรีนครินทร์  (ชุมชนกองขยะหนองแขม) ดูแลเด็ก 50 คนต่อวัน , บ้านแห่งความหวัง  (ชุมชนกองขยะอ่อนนุช) ดูแลเด็ก 50 คนต่อวัน  และบ้านเสือใหญ่  (ชุมชนเสือใหญ่ประชาอุทิศ) ดูแลเด็ก 90 คนต่อวัน ทั้ง 3 บ้าน รับเด็กที่มาจากครอบครัวยากจน  หรือครอบครัวแตกแยกและเด็กที่พ่อแม่มาจากประเทศเพื่อนบ้าน จากพม่า ลาว เขมร เป็นต้น 

    รองศาสตราจารย์ คุณหญิงวงจันทร์ พินัยนิติศาสตร์ ประธานกรรมการ มูลนิธิเด็กอ่อนในสลัมฯ กล่าวว่า มูลนิธิจะทำหน้าที่ดูแลเด็กอ่อนถึง 5 ขวบ โดยจะดูแลตลอดวัน ตั้งแต่การเลี้ยงดูเอาใจใส่ รวมถึงอาหารทั้ง 5 มื้อ คืออาหารหลัก 3 มื้อ และอาหารว่าง 2 มื้อ ซึ่งในแต่ละปีต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายปีละ 7 ล้านบาท เพราะมูลนิธิเด็กอ่อนในสลัมฯ ไม่ได้รับการช่วยเหลือจากภาครัฐ แต่ได้รับจากการบริจาค เมื่อทางบิ๊กซี เข้ามาช่วยสนับสนุนอาหารแต่ละเดือน โดยมีเด็กที่ได้รับการดูแลจากโครงการฯ ในปีที่ผ่านมา (ปี 2558 ) จำนวน 613 คน  ทางมูลนิธิเด็กอ่อนในสลัมฯ ได้จัดซื้ออาหาร วัตถุดิบ เครื่องปรุง บ้านเด็กอ่อน ถือเป็นการช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย และอาหารเป็นหัวใจในการให้พัฒนา เติบโตของเด็กเล็กทั้งด้านสมอง และร่างกาย”     

   “ตั้งแต่ทางบิ๊กซีเข้ามาจัดโครงการธนาคารอาหารเพื่อน้อง ทำให้จำนวนเด็กขาดสารอาหารในมูลนิธิฯ ของบ้านทั้ง 4 หลัง จากเดิมมีประมาณ 70 คน ตอนนี้เหลือเพียง 50 คน ซึ่งถือเป็นโครงการที่ดีมากๆ เพราะอาหารนอกจาก เป็นปัจจัยสี่ที่ทุกคนต้องการแล้ว โภชนาการที่ดีจะช่วยพัฒนาการของเด็กคนหนึ่งให้เติบโตสมวัย ก้าวสู่การเป็นผู้ใหญ่ที่สมบูรณ์ อีกทั้งในอนาคตบ้านต่างๆ อาจมีการเพิ่มจำนวนเด็กมากขึ้น เนื่องจากตอนนี้แม้มีอัตราการเกิดลดลง แต่เด็กที่มาอยู่ในความดูแลของมูลนิธิเด็กอ่อนสลัมฯ กลับมากขึ้น ขณะเดียวกัน มูลนิธิเด็กอ่อนในสลัมฯ ได้ขยายบ้าน เปิดรับเด็กเข้ามา เพื่อช่วยเหลือพ่อแม่ที่ไม่มีเวลาเลี้ยงลูก และรับเด็กต่างด้าวมากขึ้น

    นอกจากนั้น ทางมูลนิธิเด็กอ่อนในสลัมฯ ยังสนับสนุนให้ชุมชนแออัดต่างๆ มีบ้านรับเลี้ยงเด็กที่มีคุณภาพใน โครงการบ้านร่วมพัฒนามีบ้านรับเลี้ยงเด็กในความดูแลจำนวน 70 หลัง ให้การดูแลเด็กปีละกว่า 3,000 คน

       สำหรับ ผู้ที่สนใจร่วมบริจาคปัจจัยสี่ อาหาร เครื่องนุ่มห่ม ยารักษาโรค นม หรือทุนการศึกษา ควรจะเข้ามาสอบถามปรึกษากับทางมูลนิธิ เพื่อสิ่งของที่นำมาบริจาคได้นำไปใช้ประโยชน์อย่างแท้จริง  สนใจติดต่อมูลนิธิเด็กอ่อนในสลัมฯ โทร.02-541-7991 หรือ 02-249-0953-4  

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!