- Details
- Category: CSR
- Published: Saturday, 08 August 2015 13:46
- Hits: 2756
'ซีพีสานฝัน ปันโอกาส'ปั้นอนาคตเด็กไทยในชบบทที่ห่างไกลผ่านประสบการณ์ระดับโลก จัดชมฟรีโชว์ 'เซิร์ค ดู โซเลย์'
เครือเจริญโภคภัณฑ์ เปิดโลกการเรียนรู้จากประสบการณ์จริง ผ่านโครงการ ซีพีสานฝัน ปันโอกาส (Just believe in your dreams)ให้เด็กนักเรียนจากชนบทที่ห่างไกล กว่า 1,000 คน จากโรงเรียนเจียรวนนท์อุทิศ และโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน ได้ต่อเติมจินตนาการ สร้างรอยยิ้ม ชมการแสดงชุด มนตรามายาพิศวง Quidam Live in Bangkok 2015 ที่มาเปิดการแสดงครั้งแรกในเอเชีย โดยคณะกายกรรมชื่อก้องโลก Cirque DU Soleil โดยหวังเป็นแรงบันดาลใจให้เด็กไทยสร้างอนาคตที่ดีให้กับตัวเองในวันหน้า
นายอภัยชนม์ วัชรสินธุ์ รองกรรมการผู้จัดการ ด้านประสานกิจการสัมพันธ์ เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) กล่าวว่า เครือเจริญโภคภัณฑ์ให้ความสำคัญกับการจัดกิจกรรมที่ให้โอกาสคนไทยได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆระดับโลก การนำคณะกายกรรม Cirque DU Soleil ซึ่งมีชื่อเสียงไปทั่วโลกมาเปิดการแสดงในประเทศไทยครั้งนี้ เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมดีๆ ที่เชื่อว่าน้อยคนหนักที่จะมีโอกาสได้ชมแบบใกล้ชิด โครงการ “ซีพีสานฝัน ปันโอกาส(Just believe in your dreams)” จึงได้นำนักเรียนที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกลทั่วประเทศ กว่า 1,000 คน มาชมโชว์ชุดพิเศษระดับโลก Quidam Live in Bangkok 2015 เพื่อเปิดโลกแห่งจินตนาการและสร้างแรงบันดาลใจให้กับเด็กๆ นำไปสู่การสานฝันสร้างอนาคตของตนเองในวันข้างหน้าให้เป็นจริงต่อไป
“ปัจจุบันการติดต่อสื่อสารทำให้โลกแคบลง คนไทยมีโอกาสเข้าถึงการแสดงดีๆได้มากขึ้น เครือเจริญโภคภัณฑ์เองก็มีโอกาสที่จะนำการแสดงดีๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของจินตนาการ ความรู้ หรือกีฬาระดับโลกเข้ามานำเสนอสู่สายตาคนไทยได้มากขึ้น และครั้งนี้เราตั้งใจมากอยากจะแบ่งปันโอกาสในการชมการแสดงกายกรรมดีๆระดับโลกแบบนี้ให้กับเด็กๆในชนบทที่ห่างไกลได้เข้ามาสัมผัสด้วยตนเองจริงๆ เพื่อจุดประกายความฝันให้กับพวกเขา”
ด้านอาจารย์วิจิตรวงศ์ ชนะรัตน์ ผู้บริหารอาวุโส ประจำสำนักประธานกรรมการ เครือเจริญโภคภัณฑ์ ในฐานะผู้แลงานโครงการด้านการศึกษาของเครือเจริญโภคภัณฑ์ กล่าวว่า การแสดงในรอบพิเศษนี้ ได้นำเด็กนักเรียนในชนบทจากทั่วประเทศ จำนวน 1,000 คน เข้าร่วมชม เป็นนักเรียนที่มาจากโรงเรียนในชนบทที่ห่างไกลที่อยู่ภายใต้การสนับสนุนของเครือเจริญโภคภัณฑ์ ได้แก่ นักเรียนโรงเรียนเจียรวนนท์อุทิศ 6 แห่ง โดยตั้งอยู่ในจังหวัดนครราชสีมา 2 แห่ง เลย 2 แห่ง สกลนคร 1 แห่ง และนราธิวาส 1 แห่ง โรงเรียนมิตรมวลชนเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ และโรงเรียนบ้านอ่างกะป่อง จ.ตราด และยังมีนักเรียนในโครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียนจากโรงเรียน ตชด.ในจังหวัดจันทบุรี สระแก้ว กาญจนบุรี ราชบุรี ประจวบคีรีขันธ์
“กว่า 40 ปี ที่เครือเจริญโภคภัณฑ์มุ่งมั่นให้การสนับสนุนด้านการศึกษาแก่เยาวชนไทยมาโดยตลอดจวบจนถึงปัจจุบัน ต่อไปเรามีแนวทางในการพัฒนาเด็กๆโดยจะเน้นเรื่องทางด้านวิชาการและการพัฒนาสมอง การที่เด็กได้เข้ามาชมการแสดงในกรุงเทพฯ เป็นการเปิดโลกทัศน์กับพวกเขานับตั้งแต่ก้าวแรกที่มาถึง ซึ่งอาจเป็นครั้งแรกในชีวิต ทุกคนต่างก็ตื่นเต้นที่ได้พบสิ่งแปลกใหม่แตกต่างจากท้องถิ่นที่ตัวเองอาศัยอยู่ การนำเด็กๆมาครั้งนี้ไม่ได้มุ่งหวังว่าให้มาดูการแสดงเพียงอย่างเดียว เพราะสิ่งที่พวกเขาจะได้รับนับตั้งแต่ก้าวแรกที่มาถึง ถือว่าเป็นประสบการณ์ชีวิตได้เหมือนกัน จึงเป็นเรื่องที่คุ้มค่ามากกับการให้โอกาส สานฝันของเด็กๆ ให้เป็นจริง อยากจะเห็นว่าการแสดงครั้งนี้ช่วยปลุกเร้าใจ สร้างจินตนาการ ได้รู้สึกสัมผัสถึงฝันที่เป็นจริง เป็นโอกาสที่ดีสำหรับเด็กๆ ซึ่งทางซีพีมีความภูมิใจมากที่ได้มอบสิ่งนี้ให้”
เสียงเล็กๆจากเด็กในชนบทที่ห่างไกล
โรงเรียนมิตรมวลชนเชียงใหม่ หนึ่งในโรงเรียนที่มีโอกาสนำเด็กนักเรียนมาชมการแสดงครั้งนี้ นักเรียนทั้งหมดเป็นเด็กชาวเขาในหมู่บ้านห้วยลึก อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ส่วนใหญ่เป็นเด็กที่ขาดโอกาส เพราะอาศัยอยู่ไกลจากตัวเมือง ไม่เคยเดินทางมากรุงเทพฯ หรือแม้กระทั่งในตัวเมืองเชียงใหม่เองยังไม่มีโอกาสได้มาสัมผัส หลายคนไม่มีพ่อ แม่ เลี้ยงดู ต้องอยู่กับญาติพี่น้อง ในหมู่บ้าน
ด.ญ. ลัดดา ยืนยงคีรีมาศ-น้องไหม อายุ 14 ปี นักเรียนชั้น ม.1 โรงเรียนมิตรมวลชนเชียงใหม่ ครอบครัวทำเกษตรอยู่ที่โครงการหลวงห้วยลึก จังหวัดเชียงใหม่ มีความใฝ่ฝันว่าโตขึ้นอยากจะเป็นทหาร เพราะชอบในความแข็งแรง แข็งแกร่ง และเสียสละเพื่อประเทศชาติ เธออยากที่จะเป็นแบบนั้น น้องไหมเป็นเด็กนักเรียนดีเด่นของโรงเรียน สอบได้ที่ 1 มาโดยตลอด ทางโรงเรียนก็สนับสนุนให้น้องศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้นเพื่อให้เป็นไปตามที่ฝันไว้
น้องไหมเล่าว่า รู้สึกตื่นเต้นมากที่ได้มาดูการแสดงระดับโลกในครั้งนี้ เพราะตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยมีโอกาสมากรุงเทพเลย ถือเป็นครั้งแรกในชีวิต เมื่อมาถึงก็รู้สึกว่ากรุงเทพใหญ่มาก มีตึกสูง และใหญ่โตมากไม่เคยเห็นมาก่อน ยิ่งได้มาดูการแสดงโชว์แล้วชอบมาก สนุก ตื่นเต้น ไม่เคยคิดว่าการแสดงจะยอดเยี่ยมขนาดนี้ ชอบชุดการแสดงที่มีการกระโดดเชือกพร้อมกันหลายๆ เส้น เพราะตัวเองก็ชอบกระโดดเชือก แต่นักแสดงเล่นกันหลายคน กระโดดไปมากับเชือกหลายเส้น ต้องเก่งมากถึงทำได้
สิ่งที่ได้จากการดูการแสดงครั้งนี้อีกอย่างหนึ่ง คือ ความมีระเบียบวินัย ทั้งตัวผู้ชมและนักแสดง ไม่อย่างนั้นการแสดงจะเกิดขึ้นไม่ได้ นักแสดงต้องมีสติ สมาธิ และความสามัคคีในการแสดง ทำให้คิดถึงตัวเองว่าการจะทำให้ตัวเองประสบความสำเร็จตามความฝัน ก็ต้องมีความพยายามยาม มุ่งมั่นเหมือนกับนักแสดงเหล่านี้
เมื่อกลับมาถึงบ้านก็อยากมาเล่าให้พี่น้อง และครอบครัวได้รับรู้ถึงสิ่งที่ได้เห็นในกรุงเทพ ทั้งเรื่องตึกสูง อาคารหลังใหญ่ ว่าเป็นอย่างไร การแสดงสนุกสนานตื่นเต้นอย่างไร และอยากบอกผู้อำนวยการโรงเรียนว่า น่าจะให้โอกาสกับรุ่นน้อง ที่เป็นเด็กดอยเหมือนกัน ได้มีโอกาสอย่างนี้บ้าง
ด.ญ.ธิดารัตน์ โกวิทพนาดร-น้องหญิง นักเรียนชั้น ม. อายุ 15 ปีบอกเล่าความรู้สึกแรกเมื่อรู้ว่าจะได้มาดูการแสดงที่กรุงเทพฯว่าตื่นเต้นมาก เมื่อได้มาดูแล้วก็ชอบ สนุก และอยากให้น้อง ๆ ที่อยู่บ้านห้วยลึกได้มาดูเหมือนกัน ในฐานะที่ครอบครัวของเธอเป็นครอบครัวใหญ่ เพราะพ่อรับอุปการะลูกของน้องชายที่เสียชีวิต จึงมีลูกพี่ลูกน้องที่ต้องช่วยพ่อดูแล การแสดงช่วยให้น้องหญิงได้ข้อคิดในเรื่องของความตั้งใจ ความสามัคคี ความเชื่อมั่นซึ่งกันและกัน จากชุดการแสดงที่คนต้องต่อตัวกันขึ้นไปสูงๆ หลายๆ คนเพราะหากไม่มีความเชื่อมั่น ของนักแสดงด้วยกัน ก็จะเล่นออกมาให้ดูไม่ได้
ความใฝ่ฝันของเธอนั้นอยากเป็นพยาบาล เพื่อจะได้รักษาประชาชนที่เจ็บป่วย และพ่อแม่ ปู่ ย่า ตา ยายที่บ้านห้วยลึก และคิดว่าถ้าฝันอยากเป็นแล้ว ต้องไม่ทิ้งความพยายาม ต้องตั้งใจทำให้ถึงฝันให้ได้ ที่ประทับใจมากอีกอย่างคือ การได้พบนักแสดงหลังเวที เพราะรู้สึกว่าพี่ๆ นักแสดงน่ารัก ไม่ค่อยได้พูดคุยมาก แต่ก็สนุก และภูมิใจ เพราะได้ถ่ายรูปร่วมกับนักแสดง ได้เจอนักแสดงหลายคน รวมถึงตัวนำของเรื่อง”โซอี้”
ด.ญ.พิมพ์วิภา เลาจาง-น้องช๊ะ ซึ่งมีความหมายในภาษาชนเผ่าว่า “ใหม่” นักเรียนชั้น ม. 1 อายุ 13 ปี อาศัยอยู่ในหมู่บ้านห้วยลึก คุณพ่อ คุณแม่ มีอาชีพค้าขายของชำให้กับคนในหมู่บ้าน มากรุงเทพเป็นครั้งแรกเช่นกัน เมื่อได้เห็นตึกสูง สะพานลอย ถนนที่มีรถเยอะ และคนจำนวนมากก็ตื่นเต้นกับประสบการณ์ใหม่มากเพราะที่ผ่านมาเคยเห็นแต่ในรูป กับในทีวี ตอนรู้ว่าจะได้มาก็ตื่นเต้นมาก พ่อแม่ก็ดีใจ และสนับสนุน
เธอมีความฝันว่า เมื่อโตขึ้นอยากเป็นแพทย์ เพราะเป็นอาชีพที่ช่วยเหลือคนได้ทุกเพศ ทุกวัย มีจิตใจดี ถ้าได้เป็นก็จะกลับมารักษาคนที่หมู่บ้าน รวมถึงพ่อ แม่
ชุดการแสดงที่ชอบที่สุดคือชุดต่อตัว เพราะนักแสดง ใช้ความสามารถ และต้องมีความสามัคคี ดูแล้วนักแสดงมีความพยายามมากที่จะแสดงออกมาให้ดีที่สุด ดังนั้นจิตใจจึงมุ่งมั่นจดจ่อกับสิ่งที่ทำ เมื่อได้พบตัวจริงนักแสดงที่หลังเวทีก็ดีใจ ได้กอดพี่ๆ ทุกคนน่ารักมาก เธอมีโอกาสถามชื่อนักแสดงหญิงคนหนึ่ง แต่ด้วยความตื่นเต้นทำให้ลืมชื่อไปแล้ว แต่ก็ดีใจตรงที่เป็นกันเอง เมื่อกลับบ้านก็จะมาเล่าให้คนในครอบครัวกับน้องๆที่โรงเรียนว่าได้เห็นอะไรมาบ้าง การแสดงโชว์ระดับโลกเป็นอย่างไร ยิ่งใหญ่อย่างไร อยากให้น้องคนอื่นในโรงเรียนได้มีโอกาสดูแสดงโชว์ระดับโลกแบบนี้ ให้ทางโรงเรียนให้โอกาสนี้กับน้องคนอื่นด้วย
โรงเรียนบ้านป่าไผ่ อำเภอศรีสาคร จังหวัดนราธิวาส ซึ่งอยู่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเด็ก ๆ ไม่เคยมีโอกาสเดินทางจากบ้านมาไกลๆ นักเรียนที่มาได้มีเพียง 20 คน
ด.ญ.นูรีฮัน บือราเฮง นักเรียนชั้นป. 6 อายุ 11 ปี ตัวแทนนักเรียนพื้นที่ห่างไกลมอบช่อดอกไม้ ให้กับนักแสดงด้านหลังเวที เธอบอกว่า ดีใจ และตื่นเต้นตั้งแต่ที่รู้ว่าจะได้เดินทางมากรุงเทพฯเพื่อดูการแสดงโชว์ แม้จะไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับการแสดงชุดนี้มาก่อน พ่อแม่มีอาชีพกรีดยาง ปกติได้ดูแต่ทีวี คุณพ่อ คุณแม่ ก็ดีใจและยินดีให้เดินทางมา แม้ระยะทางจะไกลจากบ้านมาก พอได้ดูก็รู้สึกสนุกมาก เพราะนักแสดงทุกคนเก่งมาก ชอบนักแสดงหญิง เพราะทั้งสวย ทั้งเก่ง กลับไปบ้าน คงไปเล่าเรื่องเล่านี้ให้พ่อแม่และเพื่อนๆ ฟังอย่างสนุก
ด.ช.มูฮัมหมัดไฟซอน ยะหริ่ง อายุ 12 ปี บอกว่าการแสดงนี้สนุกมาก ชอบมาก ยิ่งได้มีโอกาสไปเห็นนักแสดงหลังเวทีอย่างใกล้ชิด ยิ่งรู้สึกตื่นเต้น ดีใจ ยิ่งกว่าตอนแรกที่ทราบข่าวว่าทางโรงเรียนจะให้มาดูการแสดงที่กรุงเทพ สถานที่ที่ไม่เคยไปมาก่อน รู้สึกว่านักแสดงทุกคนเก่งมาก ตั้งใจทำการแสดงโชว์ออกมาอย่างดีที่สุด ที่บ้านมีพี่เรียนอยู่ ม.5 น้องสาว เรียนอยู่ ป. 1 ก็ไม่เคยมากรุงเทพเหมือนกัน กลับไปก็คงจะไปเล่าให้พี่น้องฟังเรื่องการแสดงครั้งนี้ ส่วน ด.ช.บุกรี ลาแม อายุ 12 ปี บอกว่าเป็นครั้งแรกที่มากรุงเทพ การแสดงสนุกมาก และได้มีโอกาสไปเจอนักแสดงตัวจริง ดีใจ และตื่นเต้น ชอบนักแสดงชายที่ใส่ชุดสีน้ำเงิน
การแสดงชุด มนตรามายาพิศวง Quidam Live in Bangkok 2015 เรื่องของชายไร้ศรีษะไม่มีโอกาสใส่หมวก คีดาม มอบหมวกให้สาวน้อยช่างฝัน โซอี้ ผู้เดียวดาย และเหงาหงอยเพราะไม่ได้รับการเหลียวแลจากพ่อแม่ แต่หมวกใบนั้น พาเธอล่องลอยสู่มิติแห่งจินตนาการ ทั้งน่าตื่นเต้น สนุกสนาน โศกเศร้า และน่าหวาดกลัว แต่เธอก็ไม่โดดเดี่ยวอีกต่อไป เพราะได้พบมิตรภาพจากเพื่อน ๆต่างมิติ มากหน้าหลายตา และจบลงอย่างอบอุ่น สะท้อนให้เห็นว่า “จินตนาการ” กับ “ชีวิตจริง” เป็นสิ่งที่สอดประสานกัน ความฝันจะเป็นพลังสำคัญที่ทำให้เด็กก้าวไปสู่อนาคตที่สดใสได้