WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

5511 CPF SBTi

SBTi ประกาศรับรองเครือซีพีตั้งเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกระยะสั้นภายในปี พ.ศ. 2573 อิงหลักวิทยาศาสตร์ตรงตามมาตรฐานสากล ตอกย้ำความมุ่งมั่นสู่องค์กร Net Zero Emissions

          นายสมเจตนา ภาสกานนท์ ผู้อำนวยการด้านพัฒนาความยั่งยืน สำนักบริหารความยั่งยืน ธรรมาภิบาลและสื่อสารองค์กร เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) เปิดเผยว่า โครงการริเริ่มเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่อิงกับหลักวิทยาศาสตร์ (Science Based Targets Initiative) หรือ SBTi ได้ตรวจสอบและประกาศให้การรับรองเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกระยะสั้นภายในปี พ.ศ. 2573 ของเครือเจริญโภคภัณฑ์ ในฐานะองค์กรที่มีการกำหนดเป้าหมายสอดคล้องกับเกณฑ์การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตามมาตรฐานสากลที่ SBTi กำหนด โดยเครือซีพีได้รับการรับรองเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกภายในปี พ.ศ. 2573 ทั้งทางตรง (Scope 1) และทางอ้อมจากการใช้พลังงาน (Scope 2) ลงร้อยละ 42 ของปริมาณการปล่อยทั้งหมด รวมถึงการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางอ้อมตลอดห่วงโซ่คุณค่าขององค์กร (Scope 3) ลงร้อยละ 25 นอกจากนี้ทางทีมผู้เชี่ยวชาญของ SBTi ยังได้มีการตรวจสอบการจัดทำบัญชีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของเครือซีพี ว่าเครือฯ มีการจัดทำบัญชีที่ครอบคลุมการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างถูกต้อง น่าเชื่อถือเป็นไปตามหลักมาตรฐานสากล และยังพบว่าเครือฯ ต้องให้ความสำคัญในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางอ้อม โดยร่วมมือกับคู่ค้าและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องตลอดห่วงโซ่คุณค่าของเครือฯ เพื่อร่วมกันลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้ได้มากที่สุด 

          “การได้รับรองเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกระยะสั้นที่อิงกับหลักวิทยาศาสตร์จาก SBTi นับเป็นสิ่งสะท้อนความมุ่งมั่นของกลุ่มธุรกิจในเครือซีพีที่พร้อมร่วมมือกับทุกภาคส่วนช่วยกันลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของโลกลงครึ่งหนึ่งภายในปี พ.ศ. 2573 และบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions)ภายในปี พ.ศ. 2593 เพื่อจำกัดการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิโลกไม่ให้เกิน 1.5 องศาเซลเซียลให้ได้ ซึ่งถือเป็นวาระเร่งด่วนที่เราไม่สามารถทำเพียงลำพังได้ ต้องอาศัยความร่วมมือเชื่อมโยงทุกคนต้องช่วยกัน”

          นายสมเจตนา กล่าวต่ออีกว่า เครือซีพีได้วางแนวทางสำคัญ 5 ด้านเพื่อบรรลุเป้าหมายลดก๊าซเรือนกระจกในปี พ.ศ. 2573 คือ 1.การใช้พลังงานอย่างยั่งยืน (Sustainable Energy) คือ การอนุรักษ์และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน การใช้พลังงานทางเลือกและพลังงานหมุนเวียน 2. การดำเนินงานที่ยั่งยืน (Sustainable Operation) คือ การใช้ทรัพยากรในกระบวนการผลิต ขนส่งและโลจิสติกส์อย่างมีประสิทธิภาพ การลดของเสียไปสู่หลุมฝังกลบให้เป็นศูนย์ และการทำความเย็นที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เป็นต้น 3.เกษตรกรรมที่ยั่งยืน (Sustainable Agriculture) คือ การใช้เทคโนโลยีในการเพิ่มผลผลิต ลดการปล่อยและเพิ่มการกักเก็บก๊าซเรือนกระจกในการเกษตรกรรม รวมถึงการใช้และผลิตพลังงานหมุนเวียนจากของเสียการเกษตร 4.การจัดหาวัตถุดิบและการผลิตสินค้าและบริการที่ยั่งยืน (Sustainable Consumption) คือ การจัดหาวัตถุดิบสำหรับการผลิตสินค้า หรือการจัดหาสินค้าเพื่อจัดจำหน่าย จากแหล่งผลิตที่ยั่งยืน รวมถึงการผลิตสินค้าและบริการที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในขั้นตอนของการใช้งาน และ 5.การกำจัดคาร์บอน (Carbon Removal) ทั้งด้วยวิธีทางธรรมชาติอย่างการปลูกและอนุรักษ์ต้นไม้ ป่าไม้ และวิธีทางวิศวกรรม 

          สำหรับ SBTi เป็นโครงการที่ก่อตั้งเพื่อช่วยให้องค์กรธุรกิจทั่วโลกเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ปัญหาวิกฤตการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ผ่านการตั้งเป้าหมายและดำเนินการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่อิงกับหลักวิทยาศาสตร์ โครงการดังกล่าวเป็นความร่วมมือกันระหว่างองค์กร CDP ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรระหว่างประเทศซึ่งสนับสนุนการเปิดเผยข้อมูลสิ่งแวดล้อม องค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล (World Wide Fund for Nature Inc.), สถาบันทรัพยากรโลก (World Resources Institute) และข้อตกลงโลกแห่งสหประชาชาติ (United Nations Global Compact)

 

 

A5511

Click Donate Support Web  

MTL 720x100

kasat 720x100

QIC 720x100

วิริยะ 720x100

AXA 720 x100

aia 720 x100

BKI 720 x 100

PTG 720x100ais 720x100 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!