- Details
- Category: CSR
- Published: Saturday, 06 December 2014 20:26
- Hits: 4257
มูลนิธิเอสซีจี เปิดตัวเพชรเม็ดงามแห่งวงการศิลปะ เวที Young Thai Artist Award 2014 สร้างยุวศิลปินเลือดใหม่ประดับวงการศิลปะไทย
มูลนิธิเอสซีจี เปิดตัวสุดยอดยุวศิลปินเลือดใหม่ ดาวรุ่งแห่งวงการศิลปะที่เต็มเปี่ยมด้วยพลังสร้างสรรค์และรังสรรค์ผลงานศิลปะฉีกกรอบคิดแบบคนรุ่นใหม่ในโครงการประกวด ‘รางวัลยุวศิลปินไทย’ ประจำปี 2557 หรือ Young Thai Artist Award 2014 เวทีการประกวดศิลปะระดับเยาวชนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ ที่เปิดพื้นที่ให้เด็กศิลป์วัยมันได้ปลดปล่อยพลังและจินตนาการอย่างไร้ขีดจำกัด ซึ่งจัดต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 10 โดยในปีนี้มีผู้ร่วมส่งผลงานเข้าชิงชัยกว่า 400 ชิ้น และได้รับการกลั่นกรองจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิระดับประเทศจนเหลือ 36 ชิ้น ซึ่งผลงานคุณภาพเหล่านี้จะได้รับเกียรติให้จัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ หอศิลป์กรุงเทพฯ
สุวิมล จิวาลักษณ์ กรรมการและผู้จัดการมูลนิธิเอสซีจี กล่าวถึงจุดเริ่มต้นของโครงการว่า
“รางวัลยุวศิลปินไทย หรือ Young Thai Artist Award เริ่มจัดขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อมี 2547 ซึ่งในสมัยนั้นเยาวชนไทยที่มีความสามารถทางด้านศิลปะยังขาดพื้นที่ในการแสดงออก มูลนิธิเอสซีจีจึงได้ร่วมมือกับสถาบันการศึกษาและองค์กรชั้นนำของประเทศจัดการประกวดขึ้นเพื่อให้เป็นเวทีแห่งโอกาสให้เยาวชนผู้รักงานศิลป์จากทั่วประเทศ ได้ส่งผลงานสร้างสรรค์เข้าแข่งขันถึง 6 สาขา ได้แก่ สาขาศิลปะ 2 มิติ ศิลปะ 3 มิติ ภาพถ่าย ภาพยนตร์ วรรณกรรม และการประพันธ์ดนตรี โดยดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องเพื่อ มุ่งเจียระไนเพชรเม็ดงามประดับวงการศิลปะมาตลอด 1 ทศวรรษ ตามพันธกิจของมูลนิธิเอสซีจีที่มุ่งมั่นในการพัฒนา ‘คน’ โดยมุ่งเน้นที่เด็กและเยาวชน ผู้ซึ่งเป็นกำลังสำคัญของการพัฒนาชาติในอนาคต เพราะเราเชื่อว่าไม่มีการสร้างใดจะยั่งยืนไปกว่าการสร้างคน เพราะมูลนิธิเอสซีจีเชื่อมั่นในคุณค่าของคน”
มูลนิธิฯ ดำเนินโครงการรางวัลยุวศิลปินไทยอย่างจริงจังและต่อเนื่อง และสร้างมาตรฐานการประกวดด้านศิลปะในประเทศให้มีระดับสูงทัดเทียมกับนานาชาติ ซึ่งทุกผลงานได้รับการการันตีคุณภาพจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิระดับประเทศกว่า 80 ชีวิต อาทิ ศาสตราจารย์เกียรติคุณพิษณุ ศุภนิมิตร ครูสังคม ทองมี อ.เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ และคุณนนทรีย์ นิมิบุตร เป็นต้น โดยในปีนี้ มูลนิธิฯ ประกาศผลการตัดสินรางวัลยุวศิลปินไทยทั้ง 6 สาขา โดยผลงานทุกชิ้นที่ได้รับรางวัลยอดเยี่ยมได้รับการยอมรับว่าเปี่ยมเสน่ห์ มีอัตลักษณ์ โดดเด่นด้วยพลังสร้างสรรค์ ดังนี้
ศิลปะ 2 มิติ (Two-Dimensional Art) ได้แก่ เดอะ เกรท พรอพากานดา
โดย ภูริธิป สุริยภัทรพันธ์
กรรมการสาขาศิลปะ 2 มิติ ได้ให้ความเห็นถึงผลงานยอดเยี่ยมว่า “เป็นผลงานที่บอกความหมายในเชิงสัญลักษณ์ได้อย่างชัดเจน ใช้เรื่องราวที่สะท้อนเหตุการณ์ทางสังคมการเมืองได้อย่างทันสมัย และเหมาะสมกับวัยที่ให้ความสนใจประเด็นทางสังคม ด้วยการตัดสินความชอบและไม่ชอบด้วยการมองเห็นความเป็นไปของสถานการณ์ วิเคราะห์ไปตามความคิดของตนเอง
โทรโข่งที่เห็นอยู่เป็นเครื่องมือของการสื่อสารในรูปแบบของการปลุกระดม หรืออีกนัยหนึ่งก็คือสัญลักษณ์ของอิสรภาพ เสรีภาพ และเครื่องมือของการโฆษณาชวนเชื่อ (Propaganda) แต่โทรโข่งก็เป็นเพียงเครื่องมือ เมื่อถูกละเลยจากผู้ใช้หรือหมดวาระที่เป็นอยู่ ก็ถูกวางลงทั้งๆ ที่เคยเป็นผู้ยิ่งใหญ่ เหล่านี้ได้สะท้อนความจริงทางการเมืองของเราที่ผ่านมา
ผลงานชิ้นนี้ มีความโดดเด่นทั้งความหมายสัญลักษณ์ การแสดงออกด้วยรูปแบบที่ตรง รวมถึงมีการอธิบายความคิดของผู้สร้างได้อย่างชัดเจน”
- ศิลปะ 3 มิติ (Three-Dimension Art) ได้แก่ วัตถุกับความทรงจำ
โดย ปุญญิศา ศิลปรัศมี
กรรมการสาขาศิลปะ 3 มิติ ได้ให้ความเห็นถึงผลงานยอดเยี่ยมว่า“ศิลปินได้นำเอาความคิดความทรงจำในวัยเด็กมาแสดงออกสื่อความหมายถึงความโดดเดี่ยว ไร้อิสรภาพ บ่งบอกว่ามนุษย์ทุกผู้ทุกนามล้วนถูกกักขังอยู่ด้วยกรงขังแห่งความทรงจำ ด้วยการสร้างรูปทรงขึ้นจากชิ้นส่วนของไม้เก่าและบานพับ ตะปู น็อต ต่อประกอบเป็นการสร้างรูปของเล่นพัฒนาจินตนาการของเด็ก ยิ่งไปกว่านั้นศิลปินได้กำหนดการต่อรูปแห่งความทรงจำของเขาเป็นเรื่องราวของกรงนก และชิงช้าแขวนบนสนามหญ้า เป็นสัญลักษณ์ของความโดดเดี่ยว การถูกบังคับจองจำ มิสามารถจะหลุดพ้นไปจากพันธนาการที่ไร้แห่งหนตัวตน แต่แข็งแรงดุจปราการแห่งจิตวิญญาณ ซึ่งสะท้อนปัญหาสังคมยุคปัจจุบัน ในเรื่องปัญหาของเด็กไร้โอกาส ถูกทารุณกรรม และการใช้แรงงานเด็ก
เทคนิคในการสร้างงานประติมากรรมเป็นเทคนิคง่ายๆ การติด การประกอบ การก่อตัวขึ้นตามจินตนาการนี้กดดันภายใน ด้วยความทรงจำอันเลือนลางต่อตัวเป็นรูปทรง ที่มีความอิสระโปร่งเบา”
- ภาพถ่าย (
โดย ชลารักษ์ เรือนชุ่มเชย
กรรมการสาขาภาพถ่าย ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับผลงานยอดเยี่ยมว่า “ผลงานชุด ‘ยังไม่ลืม’ มีความโดดเด่นในแง่ของกระบวนการการทำงานของ ‘กล้อง’ ที่สามารถตอบโจทย์กับเรื่องที่เลือกมาทำงานได้ นอกจากนี้ภาพชุดนี้ยังเปิดโอกาสให้ผู้ชมรับรู้ผ่านภาพบันทึกที่ประกอบไปด้วยตัวหนังสือ (Text) และ Image ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ หรือร่างกายที่มีความสัมพันธ์กับเวลาและความทรงจำที่หายไป”
- วรรณกรรม (โดย ปลายฝน อรุณรัตนา
กรรมการสาขาวรรณกรรม ได้ให้ความเห็นถึงผลงานยอดเยี่ยมว่า “นวนิยายเรื่อง ‘เด็กชาย แมงมุม ชายหนุ่มสีเทา ยายเฒ่ามะขามหวาน’ ของ ปลายฝน อรุณรัตนา เป็นนวนิยายที่นำเสนอแนวคิด ถึงสังคมในอุดมคติ มีความงดงาม เผื่อแผ่ และมีน้ำใจของผู้คน ซึ่งเป็นภาพที่ย้อนแย้งกับความเป็นจริงของสังคมร่วมสมัย ผู้เขียนแสดงให้เห็นว่าสังคมในอุดมคติดังกล่าวไม่ใช่ดินแดนแห่งความเพ้อฝันไปทั้งหมด หากแต่ยังดำรงอยู่ในโลกแห่งความจริง ในลักษณะของ ‘เมืองบังบด’ ที่ถูกบดบัง ด้วยสายตาอัน ชาเฉยและฉาบฉวยของผู้คนในโลกสมัยใหม่
ผู้เขียนมีกลวิธีในการวางโครงเรื่อง สร้างตัวละคร และฉากบรรยากาศที่มีความสัมพันธ์สอดคล้องกันกับแนวคิดสำคัญที่ต้องการนำเสนอ ชวนอ่านและติดตามตั้งแต่ต้นจนจบ”
- การประพันธ์ดนตรี (Music Composition) ได้แก่ ฟองเวลา
โดยอรรถกร ศุขแจ้ง
กรรมการสาขาการประพันธ์ดนตรี ได้ให้ความเห็นถึงผลงานยอดเยี่ยมว่า “ผลงานประพันธ์ดนตรีชิ้นนี้มีความชัดเจน สามารถควบคุมกระบวนการและเทคนิคทางดนตรีได้เป็นอย่างดี เมื่อฟังไปจะเห็นว่ามีพัฒนาการของผลงาน นอกจากนี้โดยรวมแล้วผู้ประพันธ์ยังแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจจริงที่จะสร้างผลงานที่ดีและมีความไพเราะ โดยมิได้สนใจเพียงว่าจะส่งผลงานเข้าประกวดแต่เพียงอย่างเดียว เป็นงานที่ใส ควบคุมได้ทุกรายละเอียดของผลงาน ชัดเจนและตั้งใจ”
สำหรับการประกวดสาขาภาพยนตร์ เวที Young Thai Artist Award ในปีนี้ไม่มีผู้ได้รับรางวัล ยอดเยี่ยม
มูลนิธิเอสซีจียังคงมุ่งพัฒนาศักยภาพและความสามารถของเยาวชนอย่างต่อเนื่องไม่หยุดนิ่ง โดยนอกจากยุวศิลปินผู้รับรางวัลยอดเยี่ยมในแต่ละสาขาจะได้รับเงินรางวัล 150,000 บาท แล้ว ยังมีโอกาสได้เดินทางทัศนศึกษาสัมผัสศิลปะระดับโลก เพื่อเปิดโลกทัศน์ เพิ่มพูนทักษะความรู้ทางศิลปะ เก็บเกี่ยวประสบการณ์และสร้างแรงบันดาลใจในการรังสรรค์ผลงานศิลปะต่อไปในอนาคต อย่างผู้ชนะการประกวดเวทีรางวัล ยุวศิลปินไทยประจำปี 2556 ได้เดินทางไปชมศิลปะและวัฒนธรรมที่ประเทศฝรั่งเศสดินแดนที่ได้รับการ ยกย่องจากทั่วโลกว่าเป็นประเทศที่มีความมั่นคั่งทางศิลปะเป็นเวลา 10 วัน และสำหรับผู้ได้รับรางวัลดีเด่นได้รับเงินรางวัล 50,000 บาท
เพื่อเป็นเกียรติประวัติและเผยแพร่ผลงานศิลปะของน้องๆ ยุวศิลปินไทยทั้งด้านทัศนศิลป์ วรรณศิลป์ คีตศิลป์ และภาพยนตร์ จำนวน 36 ผลงาน ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังความคิดสร้างสรรค์ของคนรุ่นใหม่ ตลอดจนให้ประชาชนชาวไทยได้มีความรู้ ความเข้าใจ และมีโอกาสชื่นชมความงดงามของศิลปะ มูลนิธิฯ จึงได้จัดแสดงนิทรรศการผลงานยอดเยี่ยมและผลงานดีเด่นรางวัลยุวศิลปินไทย ณ บริเวณหน้าห้อง Grand Hall และ Sky Lounge ชั้น P10 อาคารอเนกประสงค์ เอสซีจี บางซื่อ ระหว่างวันที่ 27 พฤศจิกายน 2557- 4 ธันวาคม 2557 เวลา 09.00-16.00 น. และจัดแสดงอีกครั้งระหว่างวันที่ 11-28 ธันวาคม 2557 ระหว่างเวลา 9.00 – 16.00 น.ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป (หอศิลปเจ้าฟ้า) กรุงเทพฯ) ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 02 586 5214 หรือ www.scgfoundation.orgและร่วมติดตามความคืบหน้าได้ที่www.facebook.com/YoungThaiArtistAward