- Details
- Category: CSR
- Published: Monday, 19 May 2014 23:31
- Hits: 4112
กฟผ.เปิดโลกการเรียนรู้ 'เยาวชน' คิดนอกกรอบ
ไทยโพสต์ : หลากหลายปัญหาของวัยรุ่นในปัจจุบัน ทั้งการติดเกม การเข้าสังคมไม่เป็น ผลการเรียนตกต่ำ การทะเลาะวิวาทยกพวกตีกัน ล้วนสร้างความกังวลใจให้กับสังคมและผู้ปกครองมากมาย แต่ปัญหาดังกล่าวไม่ใช่เครื่องชี้วัดว่าเด็กไทยเป็นเด็กที่โง่หรือฉลาด เพราะหากเด็กวัยรุ่นเหล่านี้ได้รับโอกาสในการพัฒนาระบบการคิดที่สร้างสรรค์ ย่อมนำไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและวิธีคิดได้อย่างน่าอัศจรรย์
ดังจะเห็นได้จากความร่วมมือของกลุ่มภาคีผู้ร่วมจัดโครงการ Move World Together หรือ "เคลื่อนโลกไปด้วยกัน" ซึ่งจะนำเยาวชน วัยรุ่น มาออกค่าย ปรับเปลี่ยนวิธีการคิดแบบนอกกรอบและสร้างสรรค์ รวมทั้งมีสำนึกความรับผิดชอบต่อสังคม แบบเชื่อมโยงหลายมิติ พร้อมกระตุ้นให้เกิดการคิดประดิษฐ์สิ่งใหม่ๆ จนถึงขั้นจดสิทธิบัตรได้ไม่แพ้ผู้ใหญ่เลยทีเดียว แต่การปรับเปลี่ยนกระบวนการคิดอยู่ภายใต้การทำงานเป็นทีม เพื่อให้เด็กเกิดการพัฒนาด้านการยอมรับเหตุผลของผู้อื่นและกล้าแสดงเหตุผลของตัวเอง ซึ่งนำไปสู่การเรียนรู้การเข้าสังคมอย่างเหมาะสม จึงนับเป็นการเปิดโลกทัศน์การเรียนรู้ในรูปแบบใหม่ในสังคมไทย ที่จะดึงศักยภาพของเด็กออกมาใช้อย่างเต็มที่
โดยกลุ่มภาคีที่จัดโครงการดังกล่าว ล้วนเป็นบุคลากรระดับแนวหน้าเมืองไทยที่ถูกคัดมาจากหน่วยงานที่สำคัญ ได้แก่ อาจารย์คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, สมาคมพัฒนาศักยภาพและอัจฉริยภาพมนุษย์, สำนักงานส่งเสริมสวัสดิภาพและพิทักษ์เด็กเยาวชนผู้ด้อยโอกาสและผู้สูงอายุ และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยภาคีดังกล่าวร่วมกันดึงเยาวชนมาร่วมออกค่ายอบรม ซึ่งในปี 2557 นี้เป็นโครงการที่จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 3 ภายใต้การสนับสนุนของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)
นางยุวดี ธงสุวรรณ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์การ กฟผ. กล่าวว่า การออกค่ายเยาวชนในปี 2557 นี้ ใช้หัวข้อเรื่องพลังงานและสิ่งแวดล้อม ซึ่งนำเด็กอายุ 15-21 ปี ที่เรียนระดับมัธยมปลายมาวัดแววอัจฉริยภาพและการทดลองทางวิทยาศาสตร์ เพื่อกระตุ้นการคิดนอกกรอบและเสริมสร้างจินตนาการ ให้สามารถคิดประดิษฐ์สิ่งใหม่ๆ ด้านพลังงานออกมา ซึ่งสิ่งประดิษฐ์นั้นในอนาคตอาจเป็นประโยชน์ต่อชุมชนหรือระดับประเทศก็ได้ พร้อมกันนี้เด็กๆ จะได้เรียนรู้และเข้าใจเรื่องพลังงานซึ่งเป็นสิ่งใกล้ตัวของทุกคน และมีส่วนร่วมในการใช้อย่างมีประสิทธิภาพและตระหนักต่อสิ่งแวดล้อมต่อไป
นายจิตติ มงคลชัยอรัญญา อาจารย์ประจำคณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า เยาวชนเป็นกลุ่มที่มีพลังความคิดสร้างสรรค์ในตัวเอง แต่การเรียนการสอนในสังคมไทยไม่ได้ดึงศักยภาพด้านนี้ของเด็กออกมา ส่วนใหญ่จะตีกรอบให้เด็กทำตามเท่านั้น ดังนั้น การออกค่ายครั้งนี้จึงเปลี่ยนวิธีคิดให้ออกนอกกรอบแบบสร้างสรรค์โครงงาน ที่สามารถต่อยอดไปเป็นสิ่งประดิษฐ์ใหม่สามารถจดสิทธิบัตรได้ ที่ผ่านมามีเด็กคิดโครงการที่เป็นประโยชน์ต่อชุมชนได้หลากหลายแบบ อาทิ เตาประหยัดพลังงาน ฝายกั้นไฟไหม้ป่า และเปลือกทุเรียนทำเป็นสิ่งทอ เป็นต้น และรุ่นที่ 1 และ 2 ที่ผ่านมา ปัจจุบันได้จดสิทธิบัตรโครงงานกันไปแล้วถึง 3 โครงงาน
อย่างไรก็ตาม ในปี 2557 นี้ ได้เริ่มนำเด็กมาออกค่ายโดยเริ่มจากเยาวชนภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคตะวันตก และจะจัดสัญจรให้ครบทั้ง 4 ภาค ได้แก่ ภาคเหนือ ที่ศูนย์ฝึกอบรม กฟผ.แม่เมาะ จ.ลำปาง, ภาคใต้ที่เขื่อนรัชชประภา จ.สุราษฎร์ธานี และค่ายสุดท้ายที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในวันที่ 3-7 พ.ค.2557 ที่เขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น
แม้การสอนให้เด็กคิดนอกกรอบจะเป็นเรื่องใหม่ของสังคมไทย และการอบรมแต่ละครั้งรองรับเยาวชนได้ไม่กี่ร้อยคน แต่เป็นส่วนเล็กๆ ของสังคมที่ตั้งใจจะพัฒนาเด็กไทยให้สามารถดึงศักยภาพในตัวเองออกมาใช้อย่างถูกทาง ซึ่งเด็กบางคนถึงกับเปลี่ยนพฤติกรรมเป็นผู้มีเหตุผลรับฟังความคิดของผู้อื่น และเปิดใจยอมรับความรู้ใหม่ๆ จากอาจารย์ผู้สอน ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ก่อเกิดการพัฒนาของเด็กคนหนึ่งไปสู่การเป็นผู้ใหญ่ที่มีศักยภาพในอนาคตและจะกลายเป็นพลังสำคัญของสังคมไทยต่อไป.