วิทยาลัยเทคโนโลยีปัญญาภิวัฒน์ (Panyapiwat Technological College) สถาบันการศึกษาเพื่อสังคมในกลุ่มซีพี ออลล์ เตรียมเปิดรับนักศึกษาใหม่ประจำปีการศึกษา 2558 จำนวน 880 คนในปลายเดือนพฤศจิกายนนี้ พร้อมตั้งงบกว่า 40 ล้านบาทมอบเป็นทุนการศึกษาสำหรับนักเรียน เดินหน้ามุ่งสร้างเยาวชนสู่มืออาชีพสู่สังคมอย่างต่อเนื่องครบ 10 ปีในปีนี้ โดยตลอด 10 ปี มีนักเรียนที่จบการศึกษาไปแล้วกว่า 3,000 คน รวมเป็นทุนการศึกษากว่า 620 ล้านบาท

       นายสุวิทย์ กิ่งแก้ว รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บมจ.ซีพี ออลล์ ผู้บริหารเซเว่น อีเลฟเว่น ร้านอิ่มสะดวกของคนไทย เปิดเผยว่า วิทยาลัยเทคโนโลยีปัญญาภิวัฒน์ (Panyapiwat Technological College) เปิดสอนในหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ประกอบด้วยสาขาวิชาธุรกิจค้าปลีก, สาขาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ, สาขาวิชาช่างไฟฟ้ากำลัง เพื่อให้เยาวชนไทยได้เรียนรู้การทำงานจริง โดยสาขาธุรกิจค้าปลีกเรียน 3 เดือน สลับกับภาคปฏิบัติ 3 เดือน ตลอดระยะเวลา 3 ปี ทำให้นักเรียนสามารถทำงานได้จริงทันทีหลังจากที่จบการศึกษา พร้อมมีรายได้ตามมาตรฐานแรงงานระหว่างฝึกปฏิบัติงาน ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายของผู้ปกครอง พร้อมรับประกันจบแล้วมีงานทำทุกคน ล่าสุดได้เตรียมเปิดรับนักศึกษาใหม่ในปลายเดือนพฤศจิกายน 2557 – เมษายน 2558 ประจำปีการศึกษา 2558 ในสาขาธุรกิจค้าปลีกจำนวน 800 คน, คอมพ์พิวเตอร์ธุรกิจและสาขาช่างไฟฟ้ากำลังรวม 80 คน โดยบริษัทเตรียมงบสนับสนุนการศึกษากว่า 40 ล้านบาท เพื่อเป็นทุนและค่าธรรมเนียมการศึกษาให้กับเยาวชนไทย การก่อตั้งวิทยาลัยเทคโนโลยีปัญญาภิวัฒน์เป็นไปตามนโยบายส่งเสริมการศึกษา พัฒนาเยาวชนซึ่งเป็นนโยบายหลักและสำคัญของซีพี ออลล์

        นายสุวิทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กว่า 25 ปี ที่ร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ภายใต้การบริหารงานของบริษัท ซีพี ออลล์ อยู่เคียงคู่กับสังคมไทย  บริษัทมุ่งมั่นสร้างสังคม “แบ่งปัน” ด้วยการส่งต่อองค์ความรู้สู่สังคมทั้งในรูปแบบที่เป็นสถาบันการศึกษาและที่เป็นการเรียนรู้เพิ่มทักษะทางปัญญาให้แก่เยาวชนอย่างต่อเนื่อง โดยในปีพ.ศ. 2547 บริษัทได้เริ่มต้นลงทุนด้านการศึกษาด้วยระบบทวิภาคีหรือการเรียนทฤษฎีควบคู่ไปกับการฝึกปฏิบัติงาน (Work Based Learning) ภายใต้ชื่อ 'วิทยาลัยเทคโนโลยีปัญญาภิวัฒน์' (Panyapiwat Technological College) เปิดสอนในหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ(ปวช.)ประกอบด้วยสาขาวิชาธุรกิจค้าปลีก, สาขาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ, สาขาวิชาช่างไฟฟ้ากำลัง เพื่อให้เยาวชนไทยได้เรียนรู้การทำงานจริง โดยสาขาธุรกิจค้าปลีกเรียน 3 เดือน สลับกับภาคปฏิบัติ 3 เดือน ตลอดระยะเวลา 3 ปี ทำให้นักเรียนสามารถทำงานได้จริงทันทีหลังจากที่จบการศึกษา พร้อมมีรายได้ตามมาตรฐานแรงงานระหว่างฝึกปฏิบัติงาน ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายของผู้ปกครอง พร้อมรับประกันจบแล้วมีงานทำทุกคน 

       หลังจากนั้นในปี 2549 บริษัทได้เปิดศูนย์การเรียนปัญญาภิวัฒน์ (Panyapiwat Learning Center) 20 ศูนย์ ทั่วประเทศ เพื่อรองรับนักเรียนที่อยู่ตามภูมิภาคต่างๆให้ได้มีโอกาสเรียนอย่างเท่าเทียมกันผ่านการสอนในระบบ VDO Conference เป็นการออกอากาศสด ณ ห้องส่งส่วนกลางจากวิทยาลัยเทคโนโลยีปัญญาภิวัฒน์เป็นการเรียนการสอนแบบสื่อสาร 2 ทาง คือ อาจารย์และนักเรียนสามารถคุยโต้ตอบกันได้ตลอดเวลาโดยแต่ละศูนย์ฯจะมีอาจารย์และเจ้าหน้าที่ประจำอยู่คอยกำกับดูแลการเรียนการสอนและช่วยทบทวนบทเรียนให้นักเรียนในช่วงท้ายคาบเรียนเพื่อให้มีความเข้าใจในบทเรียนอย่างลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น แบ่งเป็นในกรุงเทพมหานคร 10 ศูนย์ ได้แก่ ศูนย์ฯสุขุมวิท, ลาดพร้าว, รังสิต, เพชรเกษม, สำโรง, คลองสาน, สะพานควาย, บางกะปิ, จรัญสนิทวงศ์ และพระราม 2 ในภูมิภาค 10 ศูนย์ ได้แก่ ศูนย์ฯอยุธยา, ชลบุรี, ลำปาง, นครสวรรค์, อุดรธานี, ขอนแก่น, นครราชสีมา, เพชรบุรี, สุราษฎร์ธานี และ หาดใหญ่ ปัจจุบันมีนักเรียนที่กำลังศึกษา ณ ศูนย์การเรียนปัญญาภิวัฒน์จำนวนกว่า 4,000 คน

      นอกจากนี้ นายสุวิทย์ ยังกล่าวอีกว่าในปี 2551 บริษัทได้ประสานความร่วมมือกับวิทยาลัยเทคโนโลยีอาชีวศึกษาเอกชนในความร่วมมือ เปิดสอนหลักสูตรปวช.สาขาธุรกิจค้าปลีก เพื่อขยายโอกาสผ่านการศึกษาสู่ชุมชนอย่างทั่วถึงเป็นหลักสูตรที่เปิดขึ้นเพื่อให้ผู้เรียนได้มีความรู้ในด้านการค้าปลีกอย่างครอบคลุมและครบวงจรมีความพร้อมและความสามารถเป็นเจ้าของธุรกิจส่วนตัว วิชาที่สอนในหลักสูตรนี้ จึงครอบคลุมในหลายๆด้าน เช่น บัญชี การขาย ธุรกิจค้าปลีก คอมพิวเตอร์เพื่องานอาชีพ ศิลปการขายการจัดแสดงสินค้า การบริหารงานคุณภาพและเพิ่มผลผลิต ด้วยมาตรฐานและหลักสูตรเดียวกันกับวิทยาลัยเทคโนโลยีปัญญาภิวัฒน์ ปัจจุบันมีวิทยาลัยเทคโนโลยีอาชีวศึกษาเอกชนในความร่วมมือจำนวน 61 วิทยาลัย

     “จากการสอนในระบบทวิภาคีหรือการเรียนทฤษฎีควบคู่ไปกับการฝึกปฏิบัติงาน (Work Based Learning) นี้ ส่งผลให้ ในปี 2550 วิทยาลัยฯได้รับรางวัลรองชนะเลิศนวัตกรรมแห่งชาติด้านสังคม ชื่อผลงาน“นวัตกรรมการเรียนรู้จากภาคทฤษฎีสู่การปฏิบัติจริง” จากกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และ ในปี 2555  ได้รับรางวัลชนะเลิศเหรียญทองหลักสูตรฐานสมรรถนะ จากคุรุสภา กระทรวงศึกษาธิการ เป็นต้น” 

      ตลอดเวลากว่า 10 ปีที่ผ่านมา วิทยาลัยเทคโนโลยีปัญญาภิวัฒน์, ศูนย์การเรียนปัญญาภิวัฒน์ ,วิทยาลัยเอกชนในความร่วมมือ ได้ผลิตนักเรียนที่เก่งและดีไปแล้วรวมกว่า 12,000 คน ผู้ปกครองหรือนักเรียนที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลด้านทุนการศึกษาได้ที่สไมล์ เซ็นเตอร์ โทร. 02-711-7677 นายสุวิทย์ กล่าวทิ้งท้าย

      เข้าชมเว็บไซต์และติดตามความเคลื่อนไหววิทยาลัยเทคโนโลยีปัญญาภิวัฒน์ ได้ที่  www.panyapiwat.ac.th