- Details
- Category: กลต.
- Published: Tuesday, 31 October 2017 22:25
- Hits: 20907
ก.ล.ต. เปิดเผยแนวการปรับปรุงกฎเกณฑ์เงินกองทุนสภาพคล่องสุทธิของผู้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า เพื่อให้สอดคล้องกับความเสี่ยงในการทำธุรกิจมากยิ่งขึ้น
ก.ล.ต. เปิดรับฟังความคิดเห็นร่างประกาศเกี่ยวกับเงินกองทุนสภาพคล่องสุทธิ (Net Capital: NC) เพื่อให้ผู้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ดำรงเงินกองทุนโดยสอดคล้องกับระดับความเสี่ยงในการประกอบธุรกิจมากยิ่งขึ้น และเพิ่มความยืดหยุ่นในการบริหารจัดการ NC ด้วยหนี้สินที่มีลักษณะคล้ายทุน โดยไม่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อตลาดทุนโดยรวมมากเกินไปในการประกอบธุรกิจหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ผู้ประกอบธุรกิจมีหน้าที่ต้องดำรงเงินกองทุน
ซึ่งประกอบด้วยสินทรัพย์สภาพคล่องอย่างเพียงพอ เพื่อให้สามารถรองรับความเสี่ยงจากการประกอบธุรกิจและสามารถชำระหนี้สินทั้งหมดหากต้องมีการเลิกกิจการได้ โดยไม่ส่งผลกระทบต่อตลาดทุนโดยรวม อย่างไรก็ดี
เนื่องจากหลักเกณฑ์การดำรงเงินกองทุนในปัจจุบันได้ใช้บังคับมาระยะหนึ่งแล้ว จึงควรมีการปรับปรุงเพื่อให้เหมาะสมกับความเสี่ยงและสภาพการประกอบธุรกิจในปัจจุบันมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการบริหารความเสี่ยง ลดต้นทุนของผู้ประกอบธุรกิจ และเอื้อให้เกิดรูปแบบการดำเนินธุรกิจใหม่ในอนาคต
ก.ล.ต. จึงอยู่ระหว่างปรับปรุงหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง โดยนำข้อเสนอแนะและแนวทางที่ได้รับจากผู้เกี่ยวข้องในภาคธุรกิจตลาดทุนในการเปิดรับฟังความเห็นในระดับหลักการไปเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา แล้วยกร่างเป็นประกาศ ซึ่งมีเนื้อหาส่วนใหญ่เป็นไปตามหลักการที่ได้รับฟังความเห็นในครั้งก่อน คือ การลด NC ขั้นต่ำเพื่อให้สอดคล้องกับความเสี่ยงและลักษณะการประกอบธุรกิจของผู้ประกอบธุรกิจที่มีความเสี่ยงต่ำมากยิ่งขึ้น
การปรับปรุงเงื่อนไขหนี้สินด้อยสิทธิและหนี้สินที่มีหลักประกัน สำหรับสาระสำคัญที่มีการปรับปรุงตามความเห็นของผู้ประกอบธุรกิจ คือ การลดค่าความเสี่ยงของหลักประกันประเภทสิทธิเรียกร้องในลูกหนี้มาร์จิ้น และการปรับปรุงการคำนวณค่าความเสี่ยงจากการเป็นตัวแทนสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ให้สอดคล้องกับวิธีปฏิบัติงานของผู้ประกอบธุรกิจมากยิ่งขึ้น
ก.ล.ต. เผยแพร่เอกสารรับฟังความคิดเห็นร่างประกาศดังกล่าวไว้ที่เว็บไซต์ ก.ล.ต. (http://capital.sec.or.th/webapp/phs/upload/phs150780709430_60hearing.pdf ) ผู้ที่เกี่ยวข้องและผู้สนใจสามารถแสดงความคิดเห็นได้ที่เว็บไซต์ หรือโทรศัพท์/โทรสาร ที่ โทร. 0-2263-6257หรือทาง e-mail [email protected] จนถึงวันที่ 13 พฤศจิกายน 2560