WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

คลังรื้อกม.'ก.ล.ต.'คุมกติกาหุ้น

  SEC copy ไทยโพสต์ * ขุนคลังสั่งเร่ง ก.ล.ต.คลอดกฎหมาย คุมตลาดหุ้นมีประสิทธิภาพเพิ่ม เน้นปรับโครงสร้าง องค์กร และ จัดตั้งกองทุนพัฒนาตลาดทุน

    รายงานข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่านายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.การคลัง ได้สั่งการเร่งรัดหน่วยงานของกระทรวงการคลังดำเนินการเสนอการออก กฎหมายสำคัญที่ยังค้างอยู่ให้ทันภายในรัฐบาลชุดนี้ โดยเฉพาะ การแก้ไขกฎหมาย เพื่อปรับโครง สร้างของสำนักงานคณะกรรม การกำกับหลักทรัพย์และตลาด หลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อที่จะทำให้การพัฒนาและกำกับดูแลตลาดทุนของไทยมีประสิทธิภาพและเป็นสากลมากขึ้น

    สำหรับ การแก้ไขดังกล่าวประกอบด้วย การแก้ไขพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งประกอบด้วย 2 เรื่องสำคัญคือ การยกระดับการกำกับดูแลตลาดทุนของ ก.ล.ต. และการจัดตั้งกองทุนส่งเสริมการพัฒนาตลาดทุน (ซีเอ็มดีเอฟ) โดยที่ผ่านมา กระทรวงการคลังได้หารือกับทาง ก.ล.ต.เบื้องต้นได้ข้อสรุปว่า การยกระดับการกำกับดูแลของ ทาง ก.ล.ต.จะต้องเพิ่มความรับผิดชอบและบทบาทในฐานะผู้กำกับให้มากขึ้นกว่าที่ผ่านมา เพื่อให้ตลาดทุนของไทยมีความน่าเชื่อถือเพิ่มขึ้น

     นอกจากนี้ การแก้ไขกฎ หมายดังกล่าว จะกำหนดให้ชัด เจนว่าการเก็บค่าปรับทางปก ครองให้จัดเก็บเป็นรายได้ของรัฐโดยตรง เช่น เดียวกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ซึ่งจะทำให้การทำงานมีความชัดเจนและโปร่งใสมากขึ้น ส่วนการจัด ตั้งกองทุนพัฒนาตลาดทุน ใน ส่วนของสำนักเลขานุการของ กองทุนให้เป็นที่กระทรวงการคลังประกาศกำหนด และกำ หนดให้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) จัดสรรเงิน ปันผลจากกำไรสุทธิของ ตลท. ให้กับกองทุนตามอัตราที่กระทรวงการคลังจะกำหนด เพื่อใช้ดำเนินการด้านต่างๆ

   ทั้งนี้ รมว.การคลังได้ให้ ความสำคัญกับการแก้ไขกฎ หมายของ ก.ล.ต. เพราะจะเป็น การยกระดับการพัฒนาตลาดทุนไทย ซึ่งให้กระทรวงการคลังติดตามเรื่องดังกล่าว เพื่อเสนอให้ ครม. เห็นชอบเร็วที่สุด เพื่อให้แน่ใจว่ากฎหมายดังกล่าวจะเข้าสู่การพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และออกมาบังคับเป็นกฎหมายใช้ได้ภายในรัฐบาลชุดนี้บริหารงานอยู่

คลังยกเครื่องมาตรการกำกับตลาดทุน

      แนวหน้า : แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า นายอภิศักดิ์ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง ให้กระทรวงการคลังเร่งเสนอการออกกฎหมายสำคัญที่ยังค้างอยู่ให้ทันภายในรัฐบาลชุดนี้โดยเฉพาะการแก้ไขกฎหมายเพื่อปรับโครงสร้างของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) เพื่อให้การพัฒนาและกำกับดูแลตลาดทุนของไทยมีประสิทธิภาพและเป็นสากลมากขึ้น

       ทั้งนี้ ต้องแก้ไขพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.) หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ประกอบด้วย 2 เรื่องสำคัญ คือ การยกระดับการกำกับดูแลตลาดทุนของก.ล.ต. และการจัดตั้งกองทุนส่งเสริมการพัฒนาตลาดทุน (CMDF)

      โดยกระทรวงการคลังได้หารือกับก.ล.ต. เบื้องต้นได้ข้อสรุปว่าการยกระดับการกำกับดูแลของก.ล.ต.ต้องเพิ่มความรับผิดชอบและบทบาทในฐานะผู้กำกับเพื่อให้ตลาดทุนไทยมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น

      นอกจากนี้จะกำหนดให้ชัดเจนว่าการเก็บค่าปรับทางปกครองให้จัดเก็บเป็นรายได้ของรัฐโดยตรง เช่น เดียวกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ซึ่งจะทำให้การทำงานมีความชัดเจนและโปร่งใสมากขึ้น

      สำหรับ การจัดตั้งกองทุนพัฒนาตลาดทุนในส่วนของการสำนักเลขานุการของกองทุนให้กระทรวงการคลังประกาศและกำหนดให้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) จัดสรรเงินปันผลจากกำไรสุทธิของ ตลท. ให้กับกองทุนตามอัตราที่กระทรวงการคลังจะกำหนด เพื่อใช้ดำเนินการด้านต่างๆ

    ทั้งนี้ นายอภิศักดิ์ได้ให้ความสำคัญกับการแก้ไขกฎหมายของก.ล.ต. เพราะจะเป็นการยกระดับการพัฒนาตลาดทุนไทย โดยให้กระทรวงการคลังติดตามเรื่องเพื่อ เสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบเร็วที่สุด เพื่อให้แน่ใจว่ากฎหมายจะเข้าสู่การพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และออกมาบังคับเป็นกฎหมายใช้ได้ภายในรัฐบาลชุดนี้บริหารงานอยู่

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!