- Details
- Category: กลต.
- Published: Tuesday, 13 September 2016 18:42
- Hits: 11090
ก.ล.ต. ลงโทษผู้บริหารบริษัทหลักทรัพย์ฐานละเลยการตรวจสอบดูแลตามสมควร ดร.ประสิทธิ์ ศรีสุวรรณ ออกจดหมายเปิดผนึก
ก.ล.ต. ลงโทษนายประสิทธิ์ ศรีสุวรรณ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ แอพเพิล เวลธ์ จำกัด (มหาชน) เนื่องจากละเลยการตรวจสอบดูแลระบบงานในการทำความรู้จักลูกค้าและตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลูกค้า
และการกำกับดูแลการทำธุรกรรมของลูกค้า ซึ่งเป็นระบบงานหลักที่สำคัญและมีผลต่อความเชื่อมั่นในตลาดทุนโดยรวม โดยพักการให้ความเห็นชอบเป็นบุคลากรในธุรกิจตลาดทุน 2 ปี นอกจากนี้ จะเสนอต่อคณะกรรมการเปรียบเทียบเพื่อพิจารณาเปรียบเทียบความผิดนายประสิทธิ์ต่อไป
ก.ล.ต. พบการกระทำผิดดังกล่าวจากการเข้าตรวจสอบบริษัทหลักทรัพย์ แอพเพิล เวลธ์ จำกัด (มหาชน) ตามแผนงานตรวจสอบตามปกติ (routine inspection) โดยพบความบกพร่องในระบบงานการทำความรู้จักลูกค้าและตรวจสอบเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลูกค้า (Know Your Customer / Customer Due Diligence : KYC/CDD) และการกำกับดูแลการทำธุรกรรมของลูกค้าที่ยังไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอจะระบุตัวตนหรือผู้รับประโยชน์ที่แท้จริงของลูกค้า รวมถึงยังไม่สามารถป้องกันการกระทำที่อาจไม่เหมาะสมของลูกค้าได้ และหากลูกค้าดังกล่าวมีการกระทำที่ผิดกฎหมาย บริษัทอาจมีความเสี่ยงที่จะถูกพิจารณาได้ว่ามีส่วนสนับสนุนหรือมีส่วนร่วมในการกระทำดังกล่าวของลูกค้า
นายประสิทธิ์ มีส่วนในการกระทำผิดของบริษัทและละเลยการตรวจสอบดูแลตามสมควร (fail to supervise) โดยเป็นผู้อนุมัติการเปิดบัญชีและเพิ่มวงเงินให้กับลูกค้าหลายราย ทั้งที่ลูกค้าดังกล่าวมีเอกสารทางการเงินไม่ครบถ้วน ข้อมูลไม่สอดคล้องกับมูลค่าธุรกรรมของลูกค้าอย่างมีนัยสำคัญ และไม่เพียงพอที่จะรู้ข้อเท็จจริงของลูกค้า นอกจากนี้ นายประสิทธิ์ซึ่งเป็นประธานคณะกรรมการป้องกันการฟอกเงินของบริษัท มิได้สั่งการให้มีการกระทำการใดเพิ่มเติม เมื่อพบว่าลูกค้ามีการทำธุรกรรมที่ไม่สอดคล้องกับศักยภาพทางการเงินอย่างมีสาระสำคัญหรือพบลูกค้าทำรายการที่โดยปกติแล้วต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงเชิงลึกกับลูกค้า แต่บริษัทภายใต้การดูแลของนายประสิทธ์ ไม่ได้มีการสั่งการให้ต้องดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงเชิงลึกดังกล่าว รวมถึงมีรายการของลูกค้าที่มีลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีก
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ก.ล.ต. ให้ความสำคัญกับระบบงาน KYC/CDD ซึ่งเป็นระบบงานหลักที่สำคัญ และมีผลต่อความเชื่อมั่นในตลาดทุนโดยรวม โดยได้สื่อสารกับสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย หน่วยงาน Compliance และบริษัทหลักทรัพย์ทุกแห่งอย่างต่อเนื่อง สำหรับบริษัทหลักทรัพย์ แอพเพิล เวลธ์ จำกัด (มหาชน)
ก.ล.ต. เคยพบความผิดในลักษณะนี้และได้ดำเนินการตามกฎหมาย รวมทั้งสั่งการให้บริษัทระมัดระวังและแก้ไขให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ในการตรวจสอบปี 2557 มาแล้ว
การที่บริษัทกระทำผิดดังกล่าว เข้าข่ายกระทำผิดมาตรา 113 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535[1] โดยนายประสิทธิ์ในฐานะผู้บริหารสูงสุดของบริษัท ซึ่งรับผิดชอบในการดำเนินงานของบริษัท มีส่วนในการกระทำผิดของบริษัทและละเลยการตรวจสอบดูแลตามสมควร จึงมีความผิดตามมาตรา 283 แห่ง พ.ร.บ. เดียวกัน ก.ล.ต. จะเสนอการกระทำผิดต่อคณะกรรมการเปรียบเทียบเพื่อพิจารณาเปรียบเทียบความผิด ซึ่งหากนายประสิทธิ์ไม่ยินยอมเข้ารับการเปรียบเทียบ จะดำเนินการกล่าวโทษต่อไป
นอกจากนี้ นายประสิทธิ์ยังมีลักษณะต้องห้ามในการเป็นบุคลากรในธุรกิจตลาดทุนตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ที่ ทลธ. 8/2557 เรื่อง หลักเกณฑ์เกี่ยวกับบุคลากรในธุรกิจตลาดทุนลงวันที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2557 ก.ล.ต. จึงสั่งพักการให้ความเห็นชอบเป็นบุคลากรในธุรกิจตลาดทุนของนายประสิทธิ์เป็นเวลา 2 ปี มีผลตั้งแต่วันที่ 14 กันยายน 2559โดยในช่วงดังกล่าว นายประสิทธิ์จะไม่สามารถปฏิบัติงานเกี่ยวกับการบริหารงานหรือการเป็นที่ปรึกษาของบริษัท และการปฏิบัติงานอื่นที่อยู่ในขอบเขตการปฏิบัติหน้าที่ของบุคลากรในธุรกิจตลาดทุน[2]
นางทิพยสุดา ถาวรามร รองเลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า “ก.ล.ต. คาดหวังให้ผู้บริหารของบริษัทหลักทรัพย์ มีการกำกับดูแลกิจการตามแนวทางการกำกับดูแลกิจการที่ดี โดย ก.ล.ต. เห็นว่า การมีระบบการทำ KYC/CDD ที่ดี จะช่วยลดโอกาสในการกระทำที่ไม่เหมาะสม อันอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงแก่ลูกค้าหรือตัวบริษัทหลักทรัพย์เอง รวมถึงกระทบต่อความเชื่อมั่นของตลาดทุนโดยรวม”
________________
[1]ความผิดของบริษัท เป็นการกระทำผิดมาตรา 113 ซึ่งต้องระวางโทษตามมาตรา 282 แห่ง พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ คณะกรรมการเปรียบเทียบจึงได้เปรียบเทียบปรับเป็นเงิน 2.27 ล้านบาท เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2559
2ลักษณะต้องห้ามของบุคลากรในธุรกิจตลาดทุนตามข้อ33(2)(3) และข้อ 35(2) ประกอบข้อ 30(5) และข้อ 31(4) แห่งประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ที่ ทลธ. 8/2557 เรื่อง หลักเกณฑ์เกี่ยวกับบุคลากรในธุรกิจตลาดทุน
จดหมายเปิดผนึก โดย ดร.ประสิทธิ์ ศรีสุวรรณ
ดร.ประสิทธิ์ ศรีสุวรรณ ประธานกรรมการบริหาร บมจ.หลักทรัพย์ แอพเพิลเวลธ์ เปิดใจถึงกรณีที่มีคำสั่งลงโทษโดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) ว่าได้รับทราบถึงคำสั่งดังกล่าวแล้ว และจะขอใช้สิทธิตามพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.2539 เพื่อยื่นอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวต่อไป และพร้อมที่จะต่อสู้ทุกชั้นศาลเพื่อเรียกสิทธิความเป็นธรรมกลับมา
ดร.ประสิทธ์ กล่าวว่า
เมื่อได้รับจดหมายจาก กลต. ถึงกับ งง ? ทำโทษหนักไปมั้ย ? และตั้งสติกลับมา คิด.......
อันดับแรก) โทรหาแม่ บอกว่าถ้ามีข่าวอะไร ไม่ต้องกลัวนะ ขอให้เชื่อมั่นว่าลูกคือคนดี และทำงานอย่างมีระบบ สุจริต และถูกกฎหมาย
2) เรียกคุยกะทีมผู้บริหาร Apple wealth ถึงแผนงานในอนาคต ตอบได้เต็มปากเลยว่า บริษัทฯของเราดำเนินการโดยใช้ระบบ ใช้มาตรฐานของระเบียบบริษัทฯนำ ยังไงเราเดินไปข้างหน้าได้อย่างเต็มที่ เพราะ เราขับเคลื่อนด้วยตัวนโยบาย ไม่ใช่ CEO พร้อมแต่งตั้งรักษาการแทนทันที
3) พูดคุยกับพนักงานทั้งบริษัทฯ พนักงานน่ารักมาก รักผมด้วยหัวใจ และผมก็ใช้หัวใจในการทำงานด้วยความรักเช่นกัน สัจธรรม ได้ยศเสื่อมยศ ได้ลาภเสื่อมลาภ ทุกข์ สุข นินทา สรรเสริญ ของเหล่านี้มีจริง ขอให้เราตั้งมั่นทำความดีและยืนอยู่บนความดีและถูกต้อง ไม่ต้องกลัวจะไม่มีอะไรทำร้ายเราได้ ขอบคุณพนักงานทุกคนที่รักและเชื่อใจในการทำงานบนความซื่อสัตย์สุจริตของผม และรักผมอย่างมาก เราจะเดินไปด้วยกันบนเส้นทางแห่งความถูกต้อง ยึดมั่นบทหลักนโยบาย และกรอบที่ทาง กลต. สมาคมฯ และตลท. กำหนดไว้
4) กว่า15 ปีในวงการผมไม่เคยทำให้บริษัทเสียหาย ผมสร้างผลงานและกำไรให้องค์กร มาโดยตลอด และมั่นใจว่า สิ่งที่ กลต. ให้ผมแก้ไข ผมได้แก้ไขมาตลอด ไม่เคยไม่ทำ ผมมั่นใจที่ผมโตขึ้นมาด้วยทุกวันนี้ เพราะผมใช้ความซื่อสัตย์นำ ในการทำงานวงการหลักทรัพย์ วงการหลักทรัพย์ คือ ความซื่อสัตย์สามารถสร้างเงินได้ เงินอย่างเดียวไม่สามารถสร้างเงินได้ นี่คือสิ่งที่ผมทำมาโดยตลอด
สำหรับสิ่งที่ผมโดนกล่าวหา...
*** การโอนหุ้นข้ามชื่อ*** หลักการทำงาน คือ ผมทำตามความประสงค์ของลูกค้า ซึ่ง 40 โบรกเกอร์ทำเหมือนกัน เกณฑ์การปฏิบัติเรื่องนี้ พร้อมสมาคม Hearing มากว่า 1 ปีละ ยังไม่ได้ออกมาตรการจนถึงทุกวันนี้ ผมได้ทำตามความประสงค์ของลูกค้า และในฝ่ายตรวจสอบได้มีการตรวจสอบ หากพบว่ามีเข้าข่ายเป็นการทำธุรกรรมที่มีเหตุอันควรสงสัยก็จะรายงาน STR (รายงานธุรกรรมที่มีเหตุอันควรสงสัย) ต่อ ปปง. (คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน) ตามขั้นตอน ผมถือว่า หลักการทำงานผม ครบถ้วน ในหน้าที่ของ CEO ที่พึงกระทำ ธุรกรรมใดที่น่าสงสัย ผมส่ง ปปง. ครบ
ถามว่าผม แอคชั่นต่อมั้ย ผมแอคชั่นต่อ คือ ไม่ให้โอนข้ามชื่อเกิน 5 รายต่อวัน และผมประกาศมาตรการ ในเรื่อง ห้ามโอนหุ้นต่างชื่อ ซึ่งทำให้การทำงานเสียเปรียบคู่แข่งทั้งที่ทุก บล. โอนข้ามชื่อได้ ผมอยากให้ทาง กลต. หรือ สมาคม ประกาศห้ามโอนข้ามชื่อ ผมจะได้ทำตาม และทุกคนจะได้สิทธิ์ เสรีภาพ เท่ากัน ในการแข่งขันทางธุรกิจ ผมมั่นใจว่าผมแอคชั่นสูงกว่าทุกโบรค
การเปิดบัญชี วงเงิน 8 บาท ผมได้เปิดบัญชีวงเงิน 8 บาท กับลูกค้าทุกท่านที่เอกสารไม่ครบ เช่น STATEMENT ไม่ครบ ผมได้ทำ แบบนี้มากว่า 15 ปี เพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้า โดยใน 15 ปีที่ผ่านมา ทาง กลต. ที่เคยมาตรวจ ในอดีตไม่เคยมีการติติงประเด็นนี้ และถ้าเป็นกรณี เพิ่มวงเงิน ลูกค้าก็นำเอกสารมาเพิ่ม STATEMENT เพื่อเข้าสู่การคำนวณวงเงิน ตามมาตราฐานที่สมาคมกำหนดไว้ ผมทำและแถม KYC ทุกบัญชี เมื่อ กลต. แนะนำ ว่าคนไหนให้ทำเพิ่ม ผมจะทำเพิ่มแบบเข้มข้น หากเป็นธุรกรรมที่มีเหตุอันควรสงสัยก็พร้อมรายงานต่อ ปปง. ผมมั่นใจในนโยบายของบริษัทฯ ที่มีการทำไม่น้อยกว่าหลักเกณฑ์ที่ทางสมาคมและทางการกำหนดไว้
ขอชื่นชม ทีมงานตรวจสอบ กลต. นำโดย ผู้นำตรวจ คุณ ฉ.......
จากทีมงาน กลต ที่ เข้ามาตรวจสอบบริษัทฯ ผมขอชื่นชมด้วยหัวใจนะครับ คุณ ฉ ได้ตรวจสอบอย่างเข็มงวด สิ่งไหนผิด สิ่งไหนไม่ดี เค้าจะบอกให้เราแก้ไข ในเชิงปฏิบัติ ผมทำงานตามระเบียบของสมาคมมาตลอด และไม่เคยมีสิ่งใดเลย ที่เค้าบอกและไม่เคยทำ ผมพร้อมทำเพื่อให้องค์กร และ บริษัทฯดีขึ้นมาตลอด แม้กระทั่งวันสุดท้ายผมโดนทำโทษ ทั้งที่ทำงานในหน้าที่และตามสมาคมฯกำหนด ไหนจะ STR ปปง. หรือ หยุดธุรกรรมของลูกค้าบางราย ที่ไม่ครบ คุณ ฉ ก้อมีดวงตาที่เมตตา พร้อมให้กำลังใจ นี้คือ คนที่เหมาะ ที่เรียกว่า หน่วยงานกำกับดูแลและพัฒนา เพราะช่วยแนะนำ เพิ่มเติม พร้อมพัฒนาธุรกิจที่เรารักเติบโตต่อไป
ขอต่อสู้กับคณะกรรมการพิจารณาลงโทษของ กลต. โดยเข้าสู่กระบวนการยื่นอุทธรณ์ และกระบวนการในชั้นศาลทุกชั้นศาล เพื่อเรียกร้องศักดิ์ศรีและความยุติธรรมของผม พร้อมให้ทนาย เตรียมขอใช้สิทธิ์ทราบรายชื่อ คณะกรรมการที่พิจารณาลงโทษผม ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ ที่ให้สิทธิ์กับผู้ถูกกล่าวหา
หลักในการทำโทษ คือ การกล่าวหาว่าละเลย และไม่กำกับดูแล จากการใช้ดุลยพินิจในการทำโทษผม ทั้งที่หน้าที่ของบริษัทฯหลักทรัพย์ คือ ทำอยู่ในระบบภายใต้ที่สมาคมฯกำหนดไว้และถูกต้องตามกฏ กลต. ผมมั่นใจว่า สิ่งที่ผมทำมากกว่า มาตราฐานที่กำหนดไว้ของสมาคมฯ ผมได้เก็บหลักฐานทุกอย่าง ในเรื่องการกล่าวโทษ ผมมั่นใจว่า ไม่เป็นธรรมสำหรับผม ยกตัวอย่าง ทั้งที่อื่นมีความเสียหายกับลูกค้า มีการฟ้องร้อง คดีอาญา หรือ บางบริษัทฯ ที่มีระบบงานความเสี่ยงในระดับที่สูง ก็โดนโทษ น้อยกว่าผม หรือ บางรายไม่โดนทำโทษเลย วันนี้ผมได้คุยกับทนาย และมั่นใจในการเตรียมข้อมูลหลักฐาน เพื่อนำสู่กระบวนการพิจารณาของศาล ทุกศาลในเรื่องของบทกำหนดโทษที่ไม่เป็นธรรมต่อไป
ขอเป็นตัวแทน CEO ทั้งหมดในธุรกิจหลักทรัพย์ ในการเรียกร้องความชอบธรรมในการดำเนินธุรกิจที่โบรกเกอร์ได้ขับเคลื่อนภายใต้นโยบายและกฎเกณฑ์ของ กลต. สมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย และตลาดหลักทรัพย์ หากการบริหารงานของ CEO ได้กระทำบนพื้นฐานของความถูกต้อง ชอบธรรม และเป็นไปตามกฎเกณฑ์ที่หน่วยงานกำกับดูแลกำหนดแล้ว การลงโทษ ขอให้เป็นไปตามหลักการที่มีเหตุผลอธิบายได้โดยปราศจากข้อสงสัย
เรียน นายกสมาคม บริษัทหลักทรัพย์ฯ
ขอให้ นายกสมาคม (คุณอู้ ภัทธีรา ) ซึ่งเป็นคนขยันในการทำงานให้สมาชิก โปรดช่วยดูแลสมาชิกในเรื่องหลักการโอนหุ้นข้ามชื่อ เพราะอยู่ในระหว่างสูญญากาศ และยังไม่มีประกาศจากสมาคม (Hearing มามากกว่า 1 ปี) ช่วยเป็นเสียงเรียกร้องต่อ กลต. ที่ลงโทษสมาชิกเกี่ยวกับการโอนหุ้นข้ามชื่อให้เร็วที่สุดนะครับ ขอฝากนะครับ...
บริษัทหลักทรัพย์ APPLE WEALTH ยังคงดำเนินการต่อไปภายใต้การใช้ระบบนำพร้อม โดยแต่งตั้งคุณเดชา แปงคำ รักษาการ CEO พร้อมทีม ผู้บริหารคุณภาพ ที่มีประสบการณ์กว่า 15 ปี มาร่วมกันขับเคลื่อนต่อไปสำหรับ FERRUM ผมยังคงดำเนินงานเหมือนเดิมครับ พร้อมทีมงานที่มีคุณภาพต่อไป…
สุดท้าย ขอขอบคุณกำลังใจจากทุกท่าน ผมยืนยัน และมั่นใจการทำงานของผม สุจริต และถูกต้องตามกฎหมาย และผมพร้อมต่อสู้เรียกร้องความเป็นธรรมในกับตัวเองอย่างแน่นอน