- Details
- Category: กลต.
- Published: Thursday, 10 July 2014 21:09
- Hits: 3665
ก.ล.ต.เล็งปรับเกณฑ์ บล.ที่ NCR ต่ำกว่าเกณฑ์ ห้ามค้ำประกันนิติกรรม ห้ามปล่อยมาร์จิ้น พร้อมลดระยะเวลาแก้ไขฐานะเหลือ 90 วัน เพื่อป้องกันความเสี่ยง
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดรับฟังความคิดเห็น การแก้ไขหลักเกณฑ์เกี่ยวกับข้อกำหนดสำหรับบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ที่ดำรงเงินกองทุนสภาพคล่องสุทธิ (NCR) ไม่ได้ตามที่ประกาศกำหนด ซึ่ง ก.ล.ต.เล็งเห็นว่า หลักเกณฑ์ดังกล่าวใช้บังคับมาระยะหนึ่งแล้ว จึงมีข้อกำหนดบางอย่างไม่เป็นปัจจุบันและอาจขาดความสอดคล้องทางการปฏิบัตของ บล. และไม่ครอบคลุมประเภทธุรกิจที่สามารถดำเนินการได้ จึงเห้นควรให้มีการพิจารณาให้ทบทวนหลักเกณฑ์อีกครั้ง ดังนี้
1.ให้ระยะเวลาในการแก้ไขเงินกองทุนเป็น 90 วัน จาก 120 วัน นับจากวันที่ดำรงเงินกองทุนไม่ได้ เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจกระทบต่อลูกค้าและขยายวงกว้างไปยังผู้ร่วมตลาดได้
2.ปรับการห้ามขยายยอดหนี้คงค้างของลูกค้าบัญชีมาร์จิ้นหรือลูกค้าบุคคลที่ยืมหลักทรัพย์ จากเดิมที่กำหนดให้ห้ามขยายแก่นักลงทุนสถาบันเพียงอย่างเดียว
3.ให้ บล.สามารถเพิ่มเงินลงทุนของบริษัทเพื่อป้องกันความเสี่ยงที่เกิดจากผลิตภัณฑ์ทาการเงินที่ บล.เป็นผู้ออก ซึ่งจากเดิมห้ามไว้ ทั้งนี้เพื่อให้เพิ่มความยืดหยุ่นให้กับ บล.
4.เพิ่มธุรกรรมที่ห้ามไว้หาก NCR ไม่ถึงกำหนด ยกเว้นแต่ได้ป้องกันความเสี่ยงจากธุรกรรมดังกล่าวโดยมีการวางเงินสดเป็นหลักประกันไว้เต็มจำนวน ได้แก่ การรับรอง การรับอาวัลและการสลักหลังตั๋วเงิน, การค้ำประกันในนิติกรรมต่างๆ ซึ่งสามารถทำได้หากลูกค้าได้วางเงินสดไว้เป็นหลักประกันกับ บล.เต็มจำนวน
5.กรณีที่ไม่สามารถแก้ไข NCR ได้ จากหลักเกณฑ์ปัจจุบันที่ให้ล้างออปชั่นที่มีไว้เพื่อตนเอง ให้เปลี่ยนเป็น ล้างฐานะสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่มีไว้เพื่อตนเอง เว้นแต่ฐานะสัญญาดังกล่าวมีไว้เพื่อป้องกันความความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของราคาหรือทรัพย์สิน หนี้สินหรือภาระผูกพันธ์ที่ บล.มีอยู่ หรือจะมีภายในระยะเวลาไม่เกิน 90 วันที่ NC ไม่เป้นไปตามกำหนด รวมไปถึงหากสัญญาซื้อขายล่วงหน้านั้นมิได้ก่อให้เกิดภาระผูกพัน เช่น การมีฐานะซื้อใน call หรื put option ซึ่งการปรับปรุงข้อนี้เพื่อไม่ให้จำกyดฐานะออปชั่น แต่ให้รวมถึงฐานะสัญญาทุกประเภท และกำหนดเพิ่มข้อยกเว้นหากการมีไว้ซึ่งฐานะสัญญาดังกล่าวมิได้มีความเสี่ยงต่อฐานะ บล. คู่สัญญา และตลาดทุนโดยรวม เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นให้สามารถมีไว้ซึ่งฐานะสัญญาที่มีความเสี่ยงกำกัดเท่ากับมูลค่าเงินลงทุนที่ได้จ่ายไปแล้ว ซึ่งปัจจุบันไม่สามารถทำได้
ก่อนหน้านี้ นางดวงมน จึงเสถียรทรัพย์ ผู้ช่วยเลขธิการ ก.ล.ต. ระบุว่า การดำรง NCR ของ บล.เฉลี่ยทั้งกลุ่มอุตสาหกรรมสูงถึง 40% จากที่ ก.ล.ต.กำหนดไว้เพียง 7% ขณะที่ฐานะทางการเงินของ บล.ไทยก็ยังถือว่าแข็งแกร่งสามารถรองรับปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันได้มากกว่า 8 หมื่นล้านบาท โดยไม่จำเป็นต้องเพิ่มทุนจดทะเบียน โดยปัจจุบันทุนจดทะเบียนของบริษัทหลักทรัพย์กำหนดไว้ที่ขั้นต่ำ 500 ล้านบาทนั้น ถือว่ามีความเหมาะสมและยังไม่จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนแต่อย่างใด ด้านเงินให้กู้ยืมเพื่อซื้อขายหลักทรัพย์ (Margin Loan) ขณะนี้ยังไม่น่ากังวลเนื่องจากแต่ละบริษัทมีกลยุทธ์และกฎเกณฑ์เพื่อใช้ในการบริหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ก.ล.ต. ได้ให้โบรกเกอร์แต่ละแห่งทำ Stress Test อย่างสม่ำเสมออยู่แล้ว
สำหรับ ผู้ที่ประสงค์จะแสดงความคิดเห็นสามารถส่งความคิดเห็นและข้อเสนอแนะต่อสำนักงานได้ทั้งในรูปแบบเอกสารหรือ e-mail ติดต่อสอบถาม นายเก่งกาจ อิ่มสัมฤทธิ์ ฝ่ายกำกับและพัฒนาธุรกิจหลักทรัพย์ โทรศัพท์ 0-29659929 e-mail address: [email protected] รายละเอียเพิ่มเติม คลิ๊กที่นี่
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย