- Details
- Category: กลต.
- Published: Thursday, 19 November 2015 22:39
- Hits: 7370
ก.ล.ต. กล่าวโทษผู้กระทำผิด 3 ราย กรณีประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าโดยไม่ได้รับอนุญาต
ก.ล.ต. กล่าวโทษบุคคล 3 ราย ได้แก่ (1) นายสายเพชร ทองเงา (2) นางสาวสุรีรัตน์ อาจปักษา และ (3) นายวรพล หมื่นบวร กรณีร่วมกันประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าโดยไม่ได้รับอนุญาต ต่อกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ปอศ.)
ก.ล.ต. ได้รับแจ้งเบาะแสและตรวจสอบพบว่า บุคคลทั้งสามประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าโดยไม่มีใบอนุญาตตามกฎหมาย โดยได้ร่วมกันจัดการเงินทุนให้แก่บุคคลอื่น เพื่อแสวงหาประโยชน์จากสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ผ่านการชักชวนและให้ผู้ที่ต้องการลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าฝากเงินเข้าบัญชีธนาคารของบริษัทหลักทรัพย์ 2 แห่ง เพื่อบัญชีซื้อขายสัญญาฯ ของนางสาวสุรีรัตน์
การกระทำข้างต้นเป็นความผิดตามมาตรา 16 แห่งพระราชบัญญัติสัญญาซื้อขายล่วงหน้า พ.ศ. 2546 มีโทษตามมาตรา 125 แห่งพระราชบัญญัติฉบับเดียวกันคือ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และปรับอีกไม่เกินวันละ 10,000 บาท ตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืน ก.ล.ต. จึงได้กล่าวโทษบุคคลทั้งสามต่อ ปอศ. เพื่อดำเนินคดีต่อไป
ก.ล.ต. ขอให้ผู้ที่ได้รับความเสียหายจากการลงทุนกับบุคคลกลุ่มนี้แจ้งข้อมูลเพิ่มเติมไปยัง ปอศ. ที่โทรศัพท์ 0-2237-1199 เพื่อประโยชน์ในการสอบสวนดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
นายวสันต์ เทียนหอม รองเลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า “ก.ล.ต. ขอให้ผู้ลงทุนใช้ความระมัดระวังในการตรวจสอบผู้ชักชวนให้ไปลงทุนในหลักทรัพย์หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ว่าได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจอย่างถูกต้องหรือไม่ เพราะในปัจจุบัน ก.ล.ต. พบว่ามีกลเม็ดการหลอกลวงที่หลากหลาย โดยมักมีการอ้างถึงผลตอบแทนว่ามีความแน่นอนและอยู่ในอัตราที่สูงกว่าการลงทุนปกติทั่วไป มีการรับประกันเงินลงทุน และยังพบว่ามีกรณีที่แอบอ้างว่าเป็นบริษัทที่ได้รับอนุญาตอย่างถูกกฎหมาย หรืออ้างว่าเป็นเครือข่ายของบริษัทต่างประเทศจึงไม่จำเป็นต้องได้รับอนุญาตจาก ก.ล.ต. ซึ่งไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด
ผู้ลงทุนสามารถตรวจสอบว่าผู้ชักชวนได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังหรือ ก.ล.ต. หรือไม่ ที่เว็บไซต์ของ ก.ล.ต. www.sec.or.th ภายใต้หัวข้อ License Check และหากพบบุคคลที่น่าสงสัยว่าทำธุรกิจโดยไม่ได้รับอนุญาต ขอให้แจ้งเบาะแสมาที่ ก.ล.ต. ที่โทร. 1207 เพื่อดำเนินการตรวจสอบต่อไป”