- Details
- Category: กลต.
- Published: Friday, 30 May 2014 21:53
- Hits: 4255
ก.ล.ต. เร่งสร้างความรู้ทางการเงินแก่คนวัยทำงานผ่านองค์กรนายจ้างทั่วประเทศ
ก.ล.ต. เดินหน้าเสริมสร้างความรู้และทักษะทางการเงินให้แก่ประชาชนผ่านองค์กรนายจ้างกว่า 100 แห่งทั่วประเทศ ด้วย 'โครงการความรู้การเงินในที่ทำงาน'เพื่อช่วยองค์กรนายจ้างสร้างกระบวนการถ่ายทอดความรู้การจัดการการเงินส่วนบุคคลให้แก่พนักงาน นำไปสู่การแก้ปัญหาและวางแผนการเงินของพนักงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถบรรลุเป้าหมายชีวิตและมีความมั่นคงทางการเงิน
นายวรพล โสคติยานุรักษ์ เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า ก.ล.ต. ดำเนิน “โครงการความรู้ทางการเงินในที่ทำงาน” เพื่อสนับสนุนให้นายจ้างจัดโปรแกรมให้ความรู้ด้านการจัดการการเงินแก่พนักงานอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะทำให้เกิดกระบวนการถ่ายทอดความรู้อย่างยั่งยืน ภายหลังผลวิจัยของหน่วยงานหลายแห่งพบว่าคนไทยออมน้อย ออมช้า และออมไม่ลงทุน จึงมีเงินไม่พอใช้ในวัยเกษียณ ในปีนี้ ก.ล.ต. ตั้งเป้าจะเปิดรับสมัครองค์กรนายจ้างเข้าร่วมโครงการจำนวน 100 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งที่ผ่านมาได้รับการตอบรับอย่างดีจากองค์กรนายจ้างที่สมัครเข้าโครงการและส่งผู้บริหารและเจ้าหน้าที่เข้ารับการอบรมความรู้ทางการเงิน เพื่อนำไปถ่ายทอดต่อหรือจัดกิจกรรม หรือคลีนิคแนะนำส่งเสริมความรู้ในองค์กรของตน จำนวน 60 แห่งซึ่งมีพนักงานรวมกันทั้งสิ้นประมาณ 90,000 คน เป็นทั้งหน่วยงานภาครัฐ บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และบริษัททั่วไป จากธุรกิจหลายประเภท เช่น ปิโตรเลียม สาธารณูปโภค ธนาคาร โรงแรม สถาบันการศึกษา
ในการดำเนินโครงการดังกล่าว ก.ล.ต. ได้รับความร่วมมือและช่วยเหลือจากองค์กรพันธมิตรหลายแห่ง รวมถึงธนาคารพัฒนาเอเชีย ในการเตรียมหลักสูตร จัดอบรม และส่งผู้แทนร่วมให้ความรู้ โดยมีเนื้อหาครอบคลุม 5 ด้าน ได้แก่ การบริหารรายรับรายจ่ายระยะสั้น การจัดการข้อมูลการเงินส่วนตัว การวางแผนทางการเงิน การเลือกผลิตภัณฑ์ทางการเงิน และการแก้ปัญหาและการหาข้อมูลทางการเงิน พร้อมกันนี้ ก.ล.ต. ได้จัดเตรียมคู่มือและเครื่องมือตัวช่วย (Toolkits) ให้แก่ผู้อบรมเพื่อให้สามารถจัดกิจกรรมในองค์กรและประเมินผลได้ รวมทั้งเปิดให้มีการแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับบริษัทที่ประสบความสำเร็จในการจัดกิจกรรมอบรมให้ความรู้แก่พนักงาน ทั้งนี้ การอบรมรุ่นที่ 1 จะมีขึ้นในวันที่ 2-3 มิถุนายน 2557 นี้ สำหรับองค์กรที่สนใจสามารถสมัครเข้าโครงการเพิ่มเติมได้ที่ www.start-to-invest.com หรือโทรศัพท์ 0-2695-4646 และ 0-2695-9506