- Details
- Category: กลต.
- Published: Monday, 10 August 2020 17:58
- Hits: 7706
การเปิดเผยข้อมูลด้านความยั่งยืน....สำคัญจริงแท้
โดยฝ่ายส่งเสริมธรรมาภิบาลและความยั่งยืน สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)
เมื่อไม่นานมานี้ Measuring Sustainability Disclosure 2019* เปิดเผยผลการจัดอันดับตลาดหลักทรัพย์ที่มีจำนวนบริษัทจดทะเบียนที่เปิดเผยข้อมูลด้านความยั่งยืนที่มีความครบถ้วนและมีประสิทธิภาพมากที่สุด ประจำปี 2562 โดยเน้นปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมเป็นสำคัญ ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางการส่งเสริมของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และเป็นเรื่องน่ายินดีกับข่าวดีของตลาดทุนไทยที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยติดอันดับ Top 10 โดยอยู่ลำดับที่ 9 จากตลาดหลักทรัพย์ 49 แห่งทั่วโลกและเป็นแห่งเดียวในเอเชียที่อยู่ใน 10 อันดับแรก** สะท้อนถึงพัฒนาการที่ดีของบริษัทจดทะเบียนไทยในการดำเนินงานด้านความยั่งยืนและการเปิดเผยข้อมูลที่ได้มาตรฐานสากล
ก.ล.ต. ในฐานะที่เป็นหน่วยงานกำกับดูแลและพัฒนาตลาดทุนไทยได้ร่วมมือกับหน่วยงานและองค์กรต่างๆ อาทิ
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย และสมาคมที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ในตลาดทุนไทย ในการดำเนินนโยบายด้านการส่งเสริมการเปิดเผยข้อมูลของบริษัทจดทะเบียนโดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อมูลด้านความยั่งยืนมาโดยตลอด เริ่มจากการกำหนดให้มีการเปิดเผยข้อมูลความรับผิดชอบต่อสังคม (CSR) และส่งเสริมจัดทำรายงานความยั่งยืนต่อสาธารณชนในรายงานประจำปี ตั้งแต่ปี 2557 เพื่อให้สะท้อนถึงแนวนโยบายและทิศทาง ตลอดจนความมุ่งมั่นในการดำเนินการด้านความยั่งยืนด้วยความรับผิดชอบต่อสังคม สิ่งแวดล้อม และการกำกับดูแลกิจการที่ดี (ESG) อย่างเป็นระบบและเป็นรูปธรรมควบคู่กับการดำเนินธุรกิจ ซึ่งเป็นกลไกหนึ่งที่นำไปสู่เป้าหมายการเป็นตลาดทุนที่ยั่งยืน
Measuring Sustainability Disclosure 2019 เป็นรายงานการจัดอันดับของการเปิดเผยข้อมูลด้านความยั่งยืนของบริษัทจดทะเบียนทั่วโลก ซึ่งจัดทำขึ้นเป็นประจำทุกปี ตั้งแต่ปี 2555 โดย Corporate Knights สื่อด้านความยั่งยืนจากประเทศแคนาดา และได้รับการสนับสนุนทุนวิจัยจาก AVIVA ผู้ลงทุนสถาบันระดับโลก โดยได้ติดตามการเปิดเผยข้อมูลของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของประเทศที่เป็นสมาชิกองค์การสหประชาชาติ ซึ่งพิจารณาจากจำนวนบริษัทจดทะเบียนที่มีรายได้ขั้นต่ำ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ อย่างน้อย 10 บริษัท เพื่อสำรวจข้อมูลด้านความยั่งยืนจากตัวชี้วัด 7 ด้าน ได้แก่ อัตราการลาออกของพนักงาน การใช้พลังงาน การปล่อยก๊าซเรือนกระจก ความปลอดภัยในการทำงาน ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพนักงาน การจัดการของเสีย และการบริหารการใช้น้ำ
จากรายงานของปี 2019 ข้างต้น มีการเก็บข้อมูลการเปิดเผยข้อมูลของบริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่จำนวน 6,261 บริษัท จากตลาดหลักทรัพย์ทั่วโลก 49 แห่ง แบ่งเป็น 68% เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ที่พัฒนาแล้ว และอีก 32% เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เกิดใหม่ โดยใช้ฐานข้อมูลที่เน้นการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมเป็นหลักจาก 4 แหล่ง*** มาประเมินและประมวลเพื่อให้คะแนนการเปิดเผยข้อมูลด้านความยั่งยืนใน 3 ประเด็น ได้แก่ (1) อัตราการเปิดเผยข้อมูลตัวชี้วัด 7 ด้าน (Disclosure Rate) จากผลประเมินพบว่าตลาดหลักทรัพย์ Nasdaq Helsinki มีอัตราการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวสูงที่สุดที่ 80.6%
สำหรับ ตลาดหลักทรัพย์ไทยอยู่ที่ 60.3% (2) การเพิ่มขึ้นของการเปิดเผยข้อมูลด้าน ESG ของบริษัทจดทะเบียนเมื่อเทียบกับช่วงก่อนหน้า (2013 - 2017) โดย Bolsa de Comercio de Buenos Aires มีอัตราการเพิ่มขึ้นสูงสุดที่ 40.9% สำหรับตลาดหลักทรัพย์ไทยมีอัตราการเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 8.5% และ (3) การเปิดเผยข้อมูลที่เหมาะสมต่อเวลาของบริษัทจดทะเบียน (Timeliness) โดยดูจากจำนวนวันที่บริษัทเปิดเผยข้อมูลด้าน ESG ในรายงานความยั่งยืนหลังจากสิ้นสุดปีงบประมาณ ซึ่ง Nasdaq Copenhagen ใช้เวลาเฉลี่ยน้อยที่สุดที่ 73 วัน ส่วนตลาดหลักทรัพย์ไทยใช้เวลาเฉลี่ยอยู่ที่ 105 วัน
นอกจากนี้ ในรายงานยังเปิดเผยประเด็นที่น่าสนใจ เช่น แนวโน้มของผู้ลงทุนและผู้มีส่วนได้เสียในปัจจุบันที่ให้ความสำคัญกับข้อมูลเกี่ยวกับนโยบายการดำเนินงานด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมมากขึ้น อีกทั้งมีหน่วยงาน กำกับดูแลในหลายประเทศได้ออกกฎเกณฑ์ให้มีการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวเพิ่มขึ้นทั้งแบบสมัครใจ และภาคบังคับแต่การเปิดเผยข้อมูลใน 7 ตัวชี้วัดไม่ได้มีอัตราเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ชี้ให้เห็นว่าจำเป็นต้องมีแนวทางใหม่ๆ (new approach) ที่มาส่งเสริมเรื่องการเปิดเผยข้อมูลให้เป็นที่แพร่หลายเพิ่มขึ้นอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับบริษัทที่ยังไม่เคยเปิดเผยข้อมูลผลการดำเนินงานด้านความยั่งยืน
สำหรับ แนวทางการส่งเสริมด้านการเปิดเผยข้อมูลของบริษัทจดทะเบียนนั้น ล่าสุด สำนักงาน ก.ล.ต. กำหนดให้มีการรวมแบบแสดงรายการข้อมูลประจำปี (แบบ 56-1) และรายงานประจำปี (แบบ 56-2) ให้เหลือเพียงรายงานเดียว (56-1 One report) ที่ได้ปรับปรุงให้มีการเปิดเผยข้อมูลด้านความยั่งยืนที่รวมอยู่ในกระบวนการทางธุรกิจ (ESG in-process) โดยจะร่วมมือกับตลาดหลักทรัพย์ฯ จัดอบรมการจัดทำแบบ 56-1 One report ให้แก่บริษัทจดทะเบียน รวมทั้งได้เตรียมจัดทำโครงสร้างข้อมูล (structured data) เพื่อใช้ในการวิเคราะห์และติดตามข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว สำหรับบริษัทจดทะเบียน ให้เปิดเผยข้อมูลการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การเคารพสิทธิมนุษยชน และการมีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพในแบบ 56-1 One report ตั้งแต่รอบปีบัญชีสิ้นสุด 31 ธันวาคม 2564 ส่วนบริษัทที่ออกและเสนอขายหลักทรัพย์ต่อประชาชนครั้งแรก (IPO) ให้เริ่มเปิดเผยข้อมูลในแบบ 69-1 ที่ยื่นตั้งแต่ 1 มกราคม 2565 เป็นต้นไป นอกเหนือจากเพื่อลดภาระการรายงานของบริษัทจดทะเบียนแล้ว ผู้ลงทุนสามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลทั้งในเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพประกอบการตัดสินใจ
อีกทั้ง แนวการเปิดเผยข้อมูลที่ปรับปรุงนี้ยังส่งผลต่อการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนตามแผนยุทธศาสตร์ของสำนักงาน ก.ล.ต. แผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติอีกด้วย
การเปิดเผยข้อมูลด้านความยั่งยืนจึงถือเป็นหนึ่งในภารกิจหลักที่สำนักงาน ก.ล.ต. ให้ความสำคัญโดยได้พัฒนาแนวทางส่งเสริมและบูรณาการกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง เพื่อขับเคลื่อนให้ตลาดทุนไทยบรรลุเป้าหมายการเป็นตลาดทุนที่ยั่งยืน อันเป็นส่วนหนึ่งของการนำไปสู่ความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจของประเทศ
__________________________
หมายเหตุ :
* https://www.aviva.com/content/dam/aviva-corporate/documents/socialpurpose/pdfs/corporate-knights-stock-exchange- ranking-2020.pdf
** ตลาดหลักทรัพย์มาเลเซีย สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย อยู่ในลำดับที่ 22 24 30 และ 36 ตามลำดับ
*** ฐานข้อมูล 4 แหล่ง ได้แก่ Carbon Disclosure Project (CDP), Corporate Knights, Global Reporting Initiative (GRI) และ Refinitiv
Appendix
Executive Summary:
Measuring Sustainability Disclosure 2019, Ranking the World’s Stock Exchanges
- • ผู้จัดทำ: Corporate Knights (สื่อด้านความยั่งยืนจากประเทศแคนาดา) และได้รับการสนับสนุนทุนวิจัย
จาก AVIVA (ผู้ลงทุนสถาบันระดับโลก)
- • หน่วยในการวิเคราะห์ (Unit of analysis): ตลาดหลักทรัพย์ของประเทศที่เป็นสมาชิกองค์การสหประชาชาติ
ที่มีจำนวนบริษัทจดทะเบียนอย่างน้อย 10 บริษัทที่มีรายได้ขั้นต่ำ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ จากเกณฑ์ดังกล่าว
ทำให้มีบริษัทจำนวน 6,261 บริษัท จาก 49 ตลาดหลักทรัพย์ทั่วโลก
- • ฐานข้อมูลที่ใช้ในการประเมิน: ประเมินจากข้อมูล 4 แหล่ง ได้แก่ 1) Carbon Disclosure Project (CDP) เป็นแหล่งข้อมูลด้านการจัดการสิ่งแวดล้อมของบริษัท ได้แก่ การปล่อยก๊าซเรือนกระจก การใช้ทรัพยากรน้ำและป่าไม้ สำหรับการประเมินในรายงานฉบับนี้ จะใช้ข้อมูลในเรื่องการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเท่านั้น 2) Corporate Knights แหล่งข้อมูลเกี่ยวกับความยั่งยืนของบริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่ทั่วโลก 3) Global Reporting Initiative (GRI) เป็นข้อมูลการรายงานในมิติเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมของบริษัทจดทะเบียน
และ 4) Refinitiv เป็นผู้ให้บริการระดับโลกด้านข้อมูลตลาดการเงินและโครงสร้างพื้นฐาน
- • เกณฑ์การประเมิน: ให้คะแนนการเปิดเผยข้อมูลด้านความยั่งยืนใน 3 ประเด็น ได้แก่
1) อัตราการเปิดเผยข้อมูลตัวชี้วัด 7 ด้าน (Disclosure Rate) ได้แก่ (1) อัตราการลาออกของพนักงาน (2) การใช้พลังงาน (3) การปล่อยก๊าซเรือนกระจก (4) ความปลอดภัยในการทำงาน (5) ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพนักงาน (6) การจัดการของเสีย และ (7) การบริหารการใช้น้ำ
2) การเพิ่มขึ้นของการเปิดเผยข้อมูลด้าน ESG ของบริษัทจดทะเบียนเมื่อเทียบกับช่วงก่อนหน้า
(2013 - 2017) (Disclosure Growth)
3) การเปิดเผยข้อมูลที่เหมาะสมต่อเวลาของบริษัทจดทะเบียน (Timeliness)
- • ผลการประเมิน: ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยอยู่อันดับที่ 9 และเป็นตลาดหลักทรัพย์แห่งเดียวในเอเชีย
ที่ติด Top 10 โดยมีตลาดหลักทรัพย์มาเลเซีย สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย อยู่ในลำดับที่ 22 24 30 และ 36 ตามลำดับ
- • ตลาดหลักทรัพย์ 10 อันดับแรก: ได้แก่ 1. ตลาดหลักทรัพย์เฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ 2. ตลาดหลักทรัพย์สเปน 3. ตลาดหลักทรัพย์ยูโรเน็กซ์-ลิสบอน ประเทศโปรตุเกส 4. ตลาดหลักทรัพย์ยูโรเน็กซ์-ปารีส ประเทศฝรั่งเศส 5. ตลาดหลักทรัพย์โจฮันเนสเบิร์ก ประเทศแอฟริกาใต้ 6. ตลาดหลักทรัพย์อิตาลี 7. ตลาดหลักทรัพย์ยูโรเน็กซ์-อัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ 8. ตลาดหลักทรัพย์โคลัมเบีย ประเทศโคลอมเบีย 9. ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 10. ตลาดหลักทรัพย์แนสแด็ก สตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน และ ตลาดหลักทรัพย์แนสแด็ก โคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก
ข้อคิดเห็นที่ปรากฏในบทความนี้เป็นความเห็นของผู้เขียน ซึ่งไม่จำเป็นต้องสอดคล้องกับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ