WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

SEC copyก.ล.ต. ขอให้พนักงานอัยการฟ้องผู้กระทำความผิด 1 ราย ฐานสร้างราคาหุ้น PICO พร้อมส่งเรื่องต่อ ปปง.

     ก.ล.ต. เปิดเผยการดำเนินการตามกฎหมายกับผู้กระทำความผิด รายนายสุรินทร์ บรรยงพงศ์เลิศ กรณีสร้างราคาหุ้นบริษัท ปิโก (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) (PICO) ด้วยการฟ้องคดีต่อศาลแพ่งเพื่อขอให้กำหนดมาตรการลงโทษทางแพ่งในอัตราโทษสูงสุดตามกฎหมาย พร้อมรายงานการดำเนินการต่อสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินเพื่อพิจารณาดำเนินการต่อ

     ก.ล.ต. ได้รับข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จึงตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่า ระหว่างวันที่ 25 กรกฎาคมถึงวันที่ 9 สิงหาคม 2560 (รวม 11 วันทำการ) นายสุรินทร์ซื้อขายหุ้น PICO อย่างต่อเนื่องผ่านบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของตนเองจำนวน 4 บัญชี โดยมีพฤติกรรมของการส่งคำสั่งซื้อขายหุ้นในลักษณะผลักดันราคาให้ปรับตัวสูงขึ้น ด้วยการส่งคำสั่งซื้อเข้ามาในระบบเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ราคาและปริมาณการซื้อขายหุ้น PICO ผิดไปจากสภาพปกติของตลาด และทำให้นักลงทุนทั่วไปเข้าใจว่า ในช่วงเกิดเหตุมีผู้สนใจซื้อหุ้น PICO เป็นจำนวนมาก โดยนายสุรินทร์ได้รับประโยชน์จากการขายหุ้นและทำกำไรจากส่วนต่างของราคาที่ปรับสูงขึ้น ทำให้มีผู้ลงทุนได้รับความเสียหาย

      ทั้งนี้ ในช่วงเกิดเหตุ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ตรวจพบการส่งคำสั่งในลักษณะข้างต้น และแจ้งเตือนไปยังบริษัทหลักทรัพย์ 4 แห่ง ที่นายสุรินทร์ใช้ซื้อขายหุ้นดังกล่าวแล้ว แต่นายสุรินทร์ยังคงส่งคำสั่งซื้อขายหุ้นในลักษณะเดิม

      การกระทำของนายสุรินทร์เป็นการฝ่าฝืนมาตรา 244/3 และมีระวางโทษตามมาตรา 296 มาตรา 296/1 และมาตรา 296/2 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2559

     คณะกรรมการพิจารณามาตรการลงโทษทางแพ่ง (ค.ม.พ.) มีมติให้ ก.ล.ต. นำมาตรการลงโทษทางแพ่งมาใช้บังคับกับผู้กระทำความผิด อย่างไรก็ตาม นายสุรินทร์ไม่ยินยอมปฏิบัติตามมาตรการลงโทษทางแพ่งที่ ค.ม.พ. กำหนด ก.ล.ต. จึงมีหนังสือขอให้พนักงานอัยการดำเนินการฟ้องคดีต่อศาลแพ่ง เพื่อขอให้กำหนดมาตรการลงโทษทางแพ่งในอัตราโทษสูงสุดตามกฎหมาย โดยขอให้ชำระค่าปรับทางแพ่ง ส่งคืนผลประโยชน์ที่ได้รับจากการกระทำความผิด และชดใช้ค่าใช้จ่ายในการตรวจสอบของ ก.ล.ต. รวมเป็นเงิน 24.54 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังขอให้ศาลสั่งห้ามนายสุรินทร์ซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์หรือศูนย์ซื้อขายหลักทรัพย์ หรือเข้าผูกพันตามสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในศูนย์ซื้อขายสัญญาซื้อขายเป็นเวลา 5 ปี และห้ามนายสุรินทร์เป็นกรรมการและผู้บริหารในบริษัทที่ออกหลักทรัพย์และบริษัทหลักทรัพย์เป็นเวลา 10 ปี ซึ่งเป็นระยะเวลาสูงสุดตามที่กฎหมายกำหนด

      นอกจากนี้ ก.ล.ต. ยังได้รายงานการดำเนินการดังกล่าวต่อสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เนื่องจากความผิดเกี่ยวกับการกระทำอันไม่เป็นธรรมเกี่ยวกับการซื้อขายหลักทรัพย์ดังกล่าวเป็นความผิดมูลฐานตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542

      ชื่อภาษาอังกฤษนายสุรินทร์ บรรยงพงศ์เลิศ : MR. SURIN BANYONGPONGLERT

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!