- Details
- Category: กรมสรรพสามิต
- Published: Friday, 24 March 2017 22:34
- Hits: 18800
อธิบดีสรรพสามิต มั่นใจปีงบ 60 จัดเก็บได้ตามเป้าที่ 5.5 แสนลบ. ยันภาษีเหล้า บุหรี่ใหม่ ไม่กระทบผู้บริโภค เริ่มใช้ ก.ย. นี้
อธิบดีสรรพสามิต ชี้ 6 เดือนแรกปีงบ 60 จัดเก็บรายได้เกินเป้าแล้ว 1 พันลบ. มั่นใจทั้งปีจัดเก็บได้ตามเป้าที่ 5.5 แสนลบ. ส่วนภาษีเหล้า บุหรี่ใหม่ ย้ำ ไม่กระทบผู้บริโภค ชี้ทำให้เกิดความเป็นธรรม และสากล พร้อมออกกฎหมายลูก 80 ฉบับ ให้สอดคล้องกับกฎหมายแม่ คาดบังคับใช้ใน 180 วัน หลังลงราชกิจจาฯ หรือประมาณ 16 ก.ย.นี้
นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า ในปีงบประมาณ 2560 คาดว่ากรมฯจะจัดเก็บรายได้ได้ตามเป้าหมายที่ 550,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นเป้าหมายที่เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ 499,000 ล้านบาท เนื่องจากมีการปรับเพิ่มขึ้นของอัตราภาษีน้ำมัน ขณะเดียวกันในช่วง 6 เดือนแรกของปีงบประมาณ (ตุลาคม-มีนาคม) สามารถจัดเก็บรายได้เกินกว่าเป้าหมายที่วางไว้แล้ว 1,000 ล้านบาท และเฉพาะในเดือนมีนาคมเพียงเดือนเดียวสามารถจัดเก็บรายได้เกินกว่าเป้าหมายแล้ว 4,000 ล้านบาท
“เฉพาะเดือนมีนาคมเพียงเดือนเดียวเราเก็บรายได้เกินกว่าเป้าหมายแล้ว 4,000 กว่าล้านบาท เพราะถือว่าช่วงเวลาดังกล่าวมันเป็นช่วงซีซั่นของกรมสรรพสามิต ทั้งจากการบริโภคเบียร์ และเครื่องดื่มต่างๆ นอกจากนี้สถานการณ์รถยนต์ยอดขายก็เริ่มปรับตัวดีขึ้น มีทั้งจากมอเตอร์โชว์ และในปีนี้คาดว่ายอดขายรถยนต์ก็ยังจะสูงขึ้นมาที่ 800,000 คัน จากปีที่ผ่านมา 790,000 คันด้วย เชื่อว่าการจัดเก็บรายได้ของกรมฯคงไม่มีปัญหาอะไรแน่นอน”นายสมชาย กล่าว
ทั้งนี้ กรมสรรพสามิตได้ปฏิรูปโครงสร้างภาษีสรรพสามิต โดยมีการจัดเก็บภาษีแบบใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน ซึ่งกฎหมายดังกล่าวนั้นได้ประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาแล้วเมื่อวันที่ 20 มีนาคมที่ผ่านมา และคาดว่าจะมีผลบังคับใช้เมื่อพ้น 180 วัน หรือประมาณวันที่ 16 กันยายน 2560 โดยยืนยันว่าการปฏิรูปภาษีใหม่นั้น จะมีการกำหนดอัตราภาษีจริงไว้ในกฎหมายลูกที่จะจัดทำขึ้น เนื่องจากเพดานที่กำหนดไว้มีอัตราสูง และการจัดเก็บภาษีนั้นจะไม่ให้กระทบกับผู้บริโภคแน่นอน
สำหรับ กฎหมายดังกล่าวนั้น เป็นการรวมกฎหมาย 7 ฉบับ ประกอบด้วย กฎหมายว่าด้วยภาษีสรรพสามิต กฎหมายว่าด้วยพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต กฎหมายว่าด้วยสุรา กฎหมายว่าด้วยยาสูบ กฎหมายว่าด้วยไพ่ กฎหมายว่าด้วยการจัดสรรเงินภาษีสรรพสามิต และกฎหมายว่าด้วยการจัดสรรเงินภาษีสุรา ซึ่งเป็นกฎหมายที่บังคับใช้มาเป็นเวลานาน และมองว่า ไม่สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน
“การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของระบบกฎหมายภาษีสรรพสามิตและแนวทางการจัดเก็บภาษีแบบใหม่ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม โปร่งใสเป็นสากล และลดการใช้ดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ ส่งผลให้กฎหมายสรรพาสามิตสามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในการบริหารการจัดเก็บภาษีได้ทั้งระบบ และทำให้การจัดเก็บภาษีเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และหลังจากนี้กรมฯจะต้องออกกฎหมายรองประมาณ 80 ฉบับ เพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายแม่บท โดยเฉพาะอัตราการจัดเก็บภาษีสินค้าและบริการต่างๆ เนื่องจากกฎหมายที่ออกมานั้น เป็นการปรับขยายเพดานอัตราภาษีสรรพสามิต ซึ่งเพดานใหม่จะใช้ถึงปี 2580”นายสมชาย กล่าว
ในส่วนของอัตราภาษีที่จะจัดเก็บจริงนั้น จะถูกกำหนดไว้ในกฎหมายลำดับรองอีกครั้ง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาโดยอัตราภาษีที่จะจัดเก็บจริงนั้นจะลดลงจากเพดานลงมา เนื่องจากเพดานในกฎหมายนั้นกำหนดไว้สูง เพราะมองถึงอนาคตอีก 20 ปี สำหรับการกำหนดอัตราจัดเก็บภาษีจริง ในหลักการจะอ้างอิงจากภาระภาษีที่จัดเก็บอยู่ในปัจจุบัน เพื่อไม่ให้กระทบต่อผู้บริโภคและผู้ประกอบการ
สำหรับ สาระสำคัญของร่างนั้น ได้เพิ่มเติมบทนิยาม เช่น คำว่า ราคาขายปลีกแนะนำ ผลิต สุรา ยาสูบ และไพ่ ปรับปรุงวิธีการจัดเก็บภาษีจากจัดเก็บในอัตราตามมูลค่า หรือตามปริมาณ แล้วแต่อย่างใดจะคิดเป็นเงินสูงกว่า เป็น การจัดเก็บทั้งตามมูลค่าและตามปริมาณ เปลี่ยนฐานในการคำนวณภาษีตามมูลค่า จากเดิม สินค้าที่ผลิตในราชอาณาจักรใช้ราคาขาย ณ โรงอุตสาหกรรม และสินค้านำเข้าใช้ราคา ซี.ไอ.เอฟ. หรือกรณีสินค้าสุรา ใช้ราคาขายส่งช่วงสุดท้าย เป็น ราคาขายปลีกแนะนำ ปรับปรุงกำหนดระยะเวลาการประเมินภาษีจากเดิม 2 ปี เป็นกำหนดเวลา 2 ปี ขยายได้อีก 3 ปี เป็น 5 ปี
นอกจากนี้ ยังปรับปรุงขั้นตอนการโต้แย้งการประเมินภาษี ปรับปรุงการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไขการนำเข้าสินค้าสุรา ยาสูบ และไพ่ เป็นต้น รวมถึงปรับปรุงบทกำหนดโทษให้เหมาะสมกับปัจจุบัน และปรับปรุงเพดานอัตราค่าธรรมเนียมต่างๆและเพดานอัตราภาษีให้เหมาะสมกับสภาวการณ์ในปัจจุบัน เป็นต้น
ขณะเดียวกัน หลังจากนี้ กรมฯจะประชุมชี้แจงกับภาคเอกชน สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย รวมถึงหอการค้าต่างประเทศในไทย และจะจัดพิมพ์พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต ทั้งภาษีไทยและอังกฤษเพื่อแจกจ่ายให้แก่เอกชนและผู้ที่สจใน เพื่อชี้แจงและทำความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมายฉบับใหม่ต่อไป
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย