- Details
- Category: กรมศุลกากร
- Published: Monday, 29 December 2014 19:45
- Hits: 2684
กรมศุลปฏิรูปการสำแดงราคานำเข้า สกัดพวกแจ้งต่ำเกินจริงทำรายได้รัฐรั่วไหล
แนวหน้า : นายสมชัย สัจจพงษ์ อธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยว่า ในปี 2558 กรมศุลกากรจะปฏิรูปการสำแดงราคานำเข้าหรือซีไอเอฟครั้งใหญ่โดยจะไม่กระทบกับข้อตกลงการค้าโลก เนื่องจากที่ผ่านมาตรวจพบว่ามีการสำแดงราคาต่ำกว่าเป็นจริงเป็นอย่างมากโดยที่เจ้าหน้าที่ของกรมศุลกากรก็ยอมรับในราคาไม่มีข้อสงสัยใดๆ ทำให้กรมศุลกากรต้องสูญเสียเงินภาษีจากการสำแดงราคาต่ำไปเป็นจำนวนมาก
สำหรับ สินค้าอ่อนไหวที่มีการสำแดงต่ำ มีทั้งสินค้าจากจีน เช่น ชุดชั้นในผู้หญิงมีการสำแดงราคาตัวละ 1 บาท และเสื้อแจ๊กเกตสำแดงราคาตัวละ 15 บาท ซึ่งเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ นอกจากนี้ ยังมีสินค้ารถยนต์หรู เหล็ก อะไหล่รถยนต์ ที่มีการสำแดงราคาต่ำกว่าเป็นจริง จะต้องมีการดำเนินการให้ผู้นำเข้าสำแดงราคาให้สะท้อนความเป็นจริงมากที่สุด
“กรมศุลกากรจะเพิ่มเขี้ยวเล็บในการตรวจสอบสินค้านำเข้ามากขึ้น ทั้งการใช้เครื่องเอกซเรย์ การติดกล้องซีซีทีวีเพิ่มในด่านต่างๆ รวมถึงการเริ่มใช้เครื่องเอกซเรย์ขบวนตู้รถไฟที่ท่าเรือแหลมฉบัง ซึ่งจะทำให้เกิดความรวดเร็วและตรวจสอบสินค้าในตู้ได้มากขึ้น ว่ามีการสำแดงสินค้าและราคาตรงกับความเป็นจริงหรือไม่” นายสมชัยกล่าว
นอกจากนี้ กรมศุลกากรจะใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์ติดตามการขนสินค้า หรือ RFID กับสินค้าอ่อนไหวทั้งหมด ทั้งรถหรู ตู้สินค้าจากประเทศจีน สินค้าเหล็ก และอะไหล่รถยนต์ เพื่อจะได้ติดตามการเคลื่อนย้ายสินค้าว่ามีการนำไปใช้ตรงกับวัตถุประสงค์ที่แจ้งไว้ เพราะที่ผ่านมีปัญหา เช่น นำเข้าเหล็กเข้ามาเพื่อไปใช้ในอุตสาหกรรมรถยนต์เพราะเสียภาษีต่ำ แต่ปรากฏว่านำไปใช้อุตสาหกรรมอื่นซึ่งต้องเสียภาษีนำเข้าที่สูงกว่า หรือกรณีของรถหรูที่มีการขออนุญาตนำออกไปแสดงและยังไม่เสียภาษีไว้ แต่ปรากฏว่านำรถออกไปแอบขายโดยไม่ยอมเสียภาษีให้ถูกต้อง
นายสมชัย กล่าวว่า กรมศุลกากรยังได้ปรับปรุงกฎหมายและระเบียบต่างๆ ให้การเก็บภาษีมีประสิทธิภาพมากขึ้น เรื่องของการแก้กฏหมายได้เสนอกระทรวงการคลังไปแล้ว คาดว่าจะเสนอให้คณะรัฐมนตรีเห็นชอบปีหน้า นอกจากนี้จะมีการแก้ไขระเบียบของการขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มจากวัตถุดิบที่นำเข้ามาเพื่อผลิตสินค้าส่งออก (19 ทวิ) รวมถึงการขอเปิดคลังสินค้าทัณฑ์บน เขตปลอดอากร เพื่อไม่ให้การเก็บภาษีรั่วไหล
สำหรับ การจัดเก็บภาษีของกรมเดือนธันวาคม 2557 ว่า จะได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ 9,600 ล้านบาท หลังจากที่ 2 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2558 ต่ำกว่าเป้า 1,300 ล้านบาท คาดว่าตั้งแต่เดือน มกราคม 2558 ไปจนถึงสิ้นปีงบประมาณ 2558 กรมศุลกรจะเก็บภาษีเกินเป้าทุกเดือน ทำให้การเก็บภาษีได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ 1.12 แสนล้านบาท เนื่องจากมีการเพิ่มประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา
