- Details
- Category: กรมศุลกากร
- Published: Wednesday, 29 October 2014 21:29
- Hits: 3229
กรมศุลกากรย้าย 5 นายด่านสำคัญ มอบภารกิจเก็บภาษีเพิ่ม 5%
แนวหน้า : กรมศุลกากรย้าย5นายด่านสำคัญ มอบภารกิจเก็บภาษีเพิ่ม 5% ปีงบ’58 ตั้งเพดาน 1.12 แสนล.
นายสมชัย สัจจพงษ์ อธิบดีกรมศุลกากรเปิดเผยว่า การจัดเก็บรายได้เดือนตุลาคมปีงบประมาณ 2558 เป็นไปตามเป้าหมาย และคาดว่าทั้งปีงบประมาณ 2558 จัดเก็บได้ไม่ต่ำกว่า 1.12 แสนล้านบาท ตามเป้าที่วางไว้ แต่ยังต้องติดตามการนำเข้าอย่างใกล้ชิด เนื่องจากที่ผ่านมาการนำเข้ายังไม่ฟื้นดีเท่าที่ควร ทำให้กระทบการจัดเก็บภาษีของกรม แต่ทางกรมได้เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเจ้าหน้าที่ โดยเฉพาะใน 5 ด่านใหญ่ที่มีสัดส่วนการเก็บภาษีเป็น 80% ของกรม ซึ่งได้ตั้งเป้าการจัดเก็บภาษีนี้เพิ่ม 5%
ทั้งนี้ กรมได้มีคำสั่งย้ายผู้อำนวยการสำนักงานทั้ง 5 ด่าน ให้สามารถรับนโยบายของฝ่ายบริหารลงไปปฏิบัติได้ เพื่อเป็นการป้องกันการทุจริต เกิดความโปร่งใสมากขึ้น โดยทั้ง 5 ด่าน ประกอบด้วย 1.สำนักงานกรมศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง ซึ่งเป็นการเก็บภาษีมากที่สุดของกรม 2.สำนักงานกรมศุลกากรท่าเรือกรุงเทพ 3.สำนักงานศุลกากรกรุงเทพ ซึ่งดูแลการเก็บภาษีของกรุงเทพฯทั้งหมด โดยเฉพาะการเก็บภาษีรถยนต์ 4.สำนักงานกรมศุลกากรตรวจสินค้าลาดกระบัง 5.สำนักงานตรวจสินค้า ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
นอกจากนี้ ยังได้เปลี่ยนแปลงนายด่านอื่นๆ ให้มีการเก็บภาษีเพิ่มขึ้นจากเก็บภาษีได้เพียง 40-50 ล้านบาทต่อเดือน ให้เพิ่มเป็น 20% ซึ่งมองว่าเป็นเรื่องที่สามารถทำได้ ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือด่านอรัญประเทศ จากเดิมที่เก็บได้วันละ 1 แสนบาท หลังจากเปลี่ยนนายด่านทำให้การบริหารงานชัดเจนขึ้นส่งผลให้จัดเก็บภาษีเพิ่มขึ้นเป็นวันละ 4 ล้านบาท และคาดว่าช่วงฤดูหนาวจะเก็บได้เพิ่มขึ้นวันละ 5 ล้านบาท เพราะมีการนำเข้าเครื่องนุ่งห่มมากกว่าปกติ
“การเก็บภาษีกรมศุลกากรสามารถเพิ่มประสิทธิภาพได้อีก เนื่องจากยังมีไขมันอีกมาก การย้ายผู้อำนวยการสำนักและนายด่านไม่ใช่เพราะคนเก่ามีปัญหาและทุจริต เพียงแต่ย้ายคนใหม่เข้าไปเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บภาษีได้มากขึ้น” นายสมชัย กล่าว
นายสมชัย กล่าวว่า นอกจากการโยกย้ายบุคลากรแล้ว กรมศุลกากรยังได้ดำเนินการดูแลสินค้าอ่อนไหว เช่น รถหรู ให้มีการเสียภาษีให้ถูกต้อง มีการเข้มงวดกับเขตปลอดอากร และคลังสินค้าทัณฑ์บน ไม่ให้เกิดช่องโหว่ให้มีการหลบเลี่ยงภาษี รวมถึงต้องดูแลสินค้าที่ละเมิดลิขสิทธิ์ด้วย
สำหรับ กรณีรถหรูหายจากคลังทัณฑ์บนและเขตปลอดอากร 500 คันนั้น ขณะนี้ได้มีการนำรถมาคืนและเสียภาษีอย่างถูกต้องแล้ว 200 คัน โดยยังมีอีกจำนวนประมาณ 300 คัน ที่ยังไม่มีการนำกลับมาคืน ทำให้ทางกรมได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาเจ้าของคลังสินค้าทัณฑ์บน และเขตปลอดอากรแล้ว พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงกับเจ้าหน้าที่กรมที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องในกรณีดังกล่าวด้วย
อธิบดีกรมศุลกากร กล่าวว่า ในสัปดาห์หน้ากรมศุลจะเสนอร่างการแก้ไขพ.ร.บ.ศุลกากรทั้งฉบับให้กระทรวงการคลังพิจารณา ซึ่งเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บของกรมมากขึ้น และเป็นการอำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกอบการ โดยคาดว่าจะเสนอเข้าคณะรัฐมนตรี(ครม.) และผ่านสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ออกมาบังคับใช้เป็นกฎหมายได้ภายในปี 2558
สำหรับ ร่างพ.ร.บ.ศุลกากรใหม่นี้เสนอให้แก้ไขเรื่องรางวัลสินบนนำจับ จากปัจจุบันสินบนได้ 30% สำหรับผู้แจ้งเบาะแส และรางวัล 25% สำหรับเจ้าหน้าที่ และไม่มีการกำหนดเพดาน เป็นสินบน 30% แต่ไม่เกิน 10 ล้านบาท กับผู้ที่แจ้งเบาะแสส่วนรางวัลสำหรับเจ้าหน้าที่ลดเหลือ 15% แต่ไม่เกิน 5 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังแก้ไขในส่วนของบทลงโทษ และเรื่องการอุทธรณ์ภาษีของผู้ประกอบการ รวมถึงยังให้อำนาจเจ้าหน้าที่ประเมินราคาและสำแดงพิกัดอัตราภาษีล่วงหน้า พร้อมมอบอำนาจให้เจ้าหน้าที่ติดตามตรวจสอบผู้ประกอบการย้อนหลังภายใน 5 ปี นับตั้งแต่มีการปลดปล่อยสินค้า
กรมศุลขันนอตจัดเก็บภาษี
บ้านเมือง : นายสมชัย สัจจพงษ์ อธิบดีกรมศุลกากร กล่าวถึงการจัดเก็บรายได้ของกรมศุลกากร ว่า ได้สั่งเพิ่มประสิทธิภาพหน่วยงานจัดเก็บโดยเฉพาะ 5 สำนักงานศุลกากร คือ สำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง, สำนักงานศุลกากรท่าเรือกรุงเทพ, สำนักงานศุลกากรกรุงเทพ, สำนักงานศุลกากรลาดกระบัง และสำนักงานศุลกากรตรวจสินค้าสุวรรณภูมิ เนื่องจากทั้ง 5 สำนักงานศุลกากรเป็นหน่วยจัดเก็บรายได้หลักถึงร้อยละ 80 ของรายได้ศุลกากรทั้งหมด โดยสั่งให้เพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บเพิ่มขึ้นอย่างน้อยร้อยละ 5 พร้อมกันนี้ได้มีการเปลี่ยนผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรทั้ง 5 แห่ง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บรายได้มากขึ้น
ทั้งนี้ กรมศุลกากรยังคงเป้าหมายการจัดเก็บรายได้ปีงบประมาณ 2558 ไว้ที่ 112,800 ล้านบาท โดยต้องติดตามภาวะการนำเข้าที่ยังไม่ฟื้นตัวตามภาวะเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทย โดยคาดว่าปี 2558 การนำเข้าจะปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้รายได้จากการจัดเก็บของกรมศุลกากรเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน พร้อมกันนี้กรมศุลกากรจะดูแลเรื่องสินค้าลิขสิทธิ์ โดยเน้นย้ำไม่ให้มีการละเมิดสินค้าลิขสิทธิ์ ดูแลคลังสินค้าทัณฑ์บน อุดการรั่วไหลโดยเฉพาะการนำเข้ารถยนต์หรู และเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บสินค้าตามหน้าด่านชายแดนต่างๆ เช่น ด่านอรัญประเทศ
นายสมชัย เปิดเผยความคืบหน้ากรณีมีรถยนต์หายไปจากคลังทัณฑ์บนของกรมศุลกากร ไม่ยอมมาเสียภาษีอย่างถูกต้องกว่า 500 คัน ว่า เจ้าหน้าที่กรมศุลกากรที่เกี่ยวข้องได้เรียกคืนรถดังกล่าวกลับคืนมาแล้วประมาณกว่า 300 คัน ยังเหลือรถยนต์หายอีก 100-200 คัน และมีบางส่วนยอมเสียภาษีครบถ้วน