WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

Gกลยาคลังขยายระยะเวลาการจดทะเบียนนิติบุคคลรับสิทธิประโยชน์ ยกเว้นภาษีเงินได้กลุ่ม SME อีก 1 ปี จนถึง 31 ธ.ค.61

       คลังขยายระยะเวลาการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลเพื่อให้ได้รับสิทธิประโยชน์ ยกเว้นภาษีเงินได้ เพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมรายใหม่ อีก 1 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2561 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2561

        นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2560 เห็นชอบให้ขยายระยะเวลาการให้สิทธิประโยชน์ยกเว้นภาษีเงินได้ เพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมรายใหม่ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอออกไปอีก 1 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2561 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2561

   ปัจจุบัน กระทรวงการคลังได้ให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีเพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมรายใหม่ โดยยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับกำไรสุทธิของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่จดทะเบียนจัดตั้งขึ้นตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2560 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2560 ที่มีคุณสมบัติและปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ตามพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 637) พ.ศ. 2560 ซึ่งจะได้รับสิทธิยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับกำไรสุทธิ 5 รอบระยะเวลาบัญชี นับแต่วันถัดจากวันที่ได้รับอนุมัติจากอธิบดี ดังนั้นเพื่อสร้างความเข้มแข็งและเพิ่มขีดความสามารถให้แก่ผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมรายใหม่อย่างต่อเนื่อง คณะรัฐมนตรีจึงเห็นชอบให้มีการขยายระยะเวลาการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลเพื่อให้ได้รับสิทธิประโยชน์ยกเว้นภาษีเงินได้ออกไปอีก 1 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2561 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2561 ซึ่งบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลต้องมีคุณสมบัติและเป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนดตามพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว โดยสรุปดังนี้

   1.บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลต้องจดทะเบียนจัดตั้งขึ้นตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2561 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2561

   2.มีทุนที่ชำระแล้วในวันสุดท้ายของรอบระยะเวลาบัญชีไม่เกิน 5 ล้านบาท และมีรายได้จากการขายสินค้าและการให้บริการในรอบระยะเวลาบัญชีไม่เกิน 30 ล้านบาท

   3.มีรายได้จากการขายสินค้าและการให้บริการของกิจการที่ประกอบอุตสาหกรรมเป้าหมายตามหลักเกณฑ์ที่สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ กำหนดและได้ให้การรับรอง หรือรายได้เกี่ยวเนื่องกับการประกอบกิจการ อย่างใดอย่างหนึ่งหรือรวมกันไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของรายได้ทั้งหมดในรอบระยะเวลาบัญชีของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนั้น

สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย.

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!