WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

รัฐจ่อมอบของขวัญปีใหม่ ชู4มาตรการช่วยคนจน พาณิชย์เร่งเสริมอาชีพ

   Gสมชย สจจพงษ copy  ไทยโพสต์ : กรุงเทพฯ * คลังเตรียมถกความคืบหน้าสวัสดิการอุ้มผู้มีรายได้น้อย เฟส 2 งัด 4 มาตรการย่อย "สร้างงาน เข้าถึงแหล่งเงินทุน หนุนการศึกษา ชูเป็นของขวัญปีใหม่ ด้านพาณิชย์จับมือ กทม.ช่วยพัฒนาอาชีพ สศค.เร่งตั้ง กบช. คาดเริ่มใช้ปี 2562

      นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัด กระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 1 ธ.ค.ที่ผ่านมา ได้มี การหารือร่วมกับหน่วยงานใน กระทรวงการคลัง เกี่ยวกับความ คืบหน้าการจัดทำโครงการสวัสดิการ ผู้มีรายได้น้อย ระยะที่ 2 เพื่อช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยที่ลงทะเบียนในโครงการลงทะเบียนเพื่อรับสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2560 จำนวน 11.4 ล้านราย จากก่อน หน้านี้ได้มีการหารือร่วมกับกระทรวงแรงงาน กระทรวงพา ณิชย์ และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ไปแล้วถึงแพ็กเกจเพื่อช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยในระยะต่อไป

       ทั้งนี้ เบื้องต้นจะมี 4 มาตร การย่อย เพื่อเป็นสวัสดิการต่อ ยอดในการให้ความช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยในระยะที่ 2 ได้แก่ 1.มาตรการสร้างงาน สร้างอาชีพให้ผู้มีรายได้น้อยที่มาลงทะเบียน โดยกลุ่มเป้าหมายสำคัญ คือช่วงอายุ 18-60 ปี ให้มีรายได้เพิ่มขึ้น สามารถพึ่งพาตนเองได้ โดยเบื้องต้นได้ให้กระทรวงแรงงานไปสำรวจความต้องการในการใช้แรงงานในกลุ่มธุรกิจต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ เพื่อนำความคืบหน้ามาหารือถึงแนวทางการดึงผู้มีรายได้น้อยเข้าสู่ตลาดแรง งานอย่างตรงจุด

       2.มาตรการส่งเสริมการ เข้าถึงแหล่งเงินทุนสำหรับผู้มีราย ได้น้อยที่ต้องการทำธุรกิจส่วนตัว 3.มาตรการส่งเสริมให้ผู้มีรายได้ น้อยได้รับการศึกษา ยกระดับความรู้ การอบรมทักษะแรงงาน และ 4.มาตรการส่งเสริมให้มีการดำรงชีวิตอย่างเหมาะสม

       "คาดว่าจะได้ข้อสรุปและสามารถประกาศรายละเอียดของโครงการสวัสดิการรัฐ ระยะที่ 2 ได้ภายในเดือน ธ.ค.2560 และจะเริ่มดำเนินการได้ตั้งแต่ต้นปี 2561 เป็นต้นไป เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้แก่ผู้มีรายได้น้อยทั่วประเทศ"นายสมชัยกล่าว

       ด้านนางกุลณี อิศดิศัย อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า กรมเตรียมจับมือกับกรุงเทพมหานคร (กทม.) และกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ต่อ ยอดโครงการสร้างอาชีพให้ผู้มีรายได้น้อยในเขตกรุงเทพฯ โดยจะทำการบูรณาการหลักสูตรการฝึกอาชีพด้านต่างๆ ที่ทั้ง 2 หน่วยงานดำเนินการอยู่ ซึ่งมีทั้งหลักสูตรระยะสั้นและระยะยาว อาทิ การประกอบอาหาร เสริมสวย ศิลปะประดิษฐ์ นวดแผนโบราณ ตัดเสื้อ แปรรูปอาหารและสมุนไพร หัวหน้าแม่บ้าน ช่าง ซ่อมอุปกรณ์ไฟฟ้า-ประปา-อิเล็ก ทรอนิกส์ประเภทต่างๆ เป็นต้น

     นางสาวสุปาณี จันทรมาศ ผู้เชี่ยวชาญด้านการออมการลง ทุน และพัฒนาตลาดทุน สำนัก งานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิด เผยว่า ขณะนี้ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กองทุนบำเหน็จบำนาญแห่งชาติ (กบช.) ได้ผ่านการพิจารณาของสำนักงานกฤษฎีกาทั้ง 3 วาระแล้ว และอยู่ระหว่างเสนอกระทรวงการคลังยืนยัน เพื่อ เสนอต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ตั้งกรรมาธิการพิจารณา คาดว่าจะมีผลบังคับใช้ปี 2561 และบริษัทเอกชนมีเวลา 1 ปี เพื่อ เตรียมตัว ก่อนที่นายจ้างและลูก จ้างจะต้องเริ่มส่งเงินสมทบเข้ากองทุนไตรมาส 1-2 ในปี 2562 ในอัตราเริ่มต้นที่ 3% แต่ไม่เกิน 15% โดยจะมีการปรับเพิ่มเงินสมทบเป็นขั้นบันได.

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!