- Details
- Category: คลัง
- Published: Saturday, 11 November 2017 11:14
- Hits: 3230
คลังอุ้มคนจนอีกให้สวัสดิการ 4 ด้านต้นปีหน้า
แนวหน้า : นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในวันที่ 20 พฤศจิกายน 2560 จะมีการหารือร่วมสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ถึงแนวทางในการจัดทำโครงการพัฒนาตนเองให้กับผู้มีรายได้น้อยที่ผ่านเกณฑ์ในโครงการ ลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 11.4 ล้านคน เพื่อให้มีการยกระดับรายได้ให้มากกว่า 1 แสนบาทต่อปี ซึ่งจะทำให้ผู้มีรายได้น้อยกลุ่มดังกล่าวหลุดพ้นจากเส้นความยากจน และมีความเป็นอยู่ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวถือเป็นระยะที่ 2 ของสวัสดิการที่รัฐบาลจะมอบให้กับผู้มีรายได้น้อย โดยโจทย์สำคัญ ที่มอบหมายให้ สศค. ไปเร่งศึกษาใน 4 ด้าน เพื่อเพิ่มโอกาสให้กับผู้มีรายได้น้อย ได้แก่ 1. โอกาสในการเข้าถึงแหล่ง เงินทุนในระบบ 2. โอกาสในการศึกษา 3. โอกาสในการ หางานทำ และ 4. โอกาสในการเข้าถึงหรือเป็นเจ้าของปัจจัยพื้นฐานที่จำเป็นกับชีวิต
สำหรับ โครงการพัฒนาตนเองให้กับผู้มีรายได้น้อย ระยะที่ 2 ของสวัสดิการที่รัฐจะมอบให้ จะมีความชัดเจนในเดือนธันวาคม 2560 นี้ โดยต้องมีการหารือกับเจ้าหน้าที่ เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวเนื่องกับหลายหน่วยงาน อาทิ กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงแรงงาน กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงอุตสาหกรรม และภาคเอกชน เพื่อสรุปมาตรการ คาดว่าจะเริ่มดำเนินโครงการเฟส 2 ช่วงต้นปี 2561
ขณะที่แนวทางเบื้องต้นจะศึกษารูปแบบจากประเทศจีน แต่จะปรับให้เหมาะสมกับประเทศไทย คือ จะส่งคนไปถามผู้ที่มีรายได้น้อยว่าต้องการสิ่งใด ซึ่งคนในเมืองหรืออยู่ในเขตกรุงเทพมหานคร กับคนที่อยู่ชนบท กับต่างจังหวัด ความต้องการแตกต่างกัน
นายสมชัย กล่าวว่า ที่ผ่านมา ยังมีข้อผิดพลาดในเรื่องการลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อย จนทำให้เกิดเป็น ข้อวิพากษ์วิจารณ์ในช่วงที่ผ่านมาว่า อาจจะมีผู้ที่มีคุณสมบัติไม่ตรงกับโครงการสวัสดิการแห่งรัฐ โดยตรงนี้ มีสัดส่วนไม่ถึง 1% ของผู้ที่ผ่านเกณฑ์ทั้งหมด ซึ่งได้เร่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ เพราะในท้ายเอกสารการลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อย ได้มีการระบุชัดเจนว่าหากมีการให้ข้อมูลที่เป็นเท็จกับทางราชการก็จะดำเนินการตามกฎหมาย และหลังจากนี้กระทรวง การคลังจะพิจารณาเพื่อเงื่อนไขการลงทะเบียนของผู้มีรายได้น้อยรอบใหม่ ในปี 2562 ให้มีความเข้มข้น และเข้มงวด มากขึ้น
"ในการเปิดรับลงทะเบียน รอบใหม่ในปี 2562 จะมาดูจุดบอดจาก ที่ผ่านมา แล้วนำมาปรับแก้ไข เพิ่มเงื่อนไข มาดูว่าเงื่อนไขเพียงพอหรือไม่ ส่วนเหตุผล เปิดรับลงทะเบียนปีเว้นปีนั้น เพื่อให้ระบบนิ่ง ไม่ใช่ลงทะเบียนไป หรือออก สวัสดิการอะไรเพิ่ม ถ้าไม่ใช่ก็ออกมาเปลี่ยน เพราะเป็นโครงการระยะยาว มองให้เป็นระยะยาว" นายสมชัย กล่าว
คลังเตรียมออกโครงการสวัสดิการภาครัฐ เฟส 2 พัฒนาผู้มีรายได้น้อยเพิ่มโอกาสเข้าถึงเงินทุน-การศึกษา-งาน-ปัจจัย 4
นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในวันที่ 20 พ.ย.60 จะมีการหารือร่วมสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ถึงแนวทางในการจัดทำโครงการพัฒนาตนเองให้กับผู้มีรายได้น้อยที่ผ่านเกณฑ์ในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 11.64 ล้านคน เพื่อให้มีการยกระดับรายได้ให้มากกว่า 1 แสนบาทต่อปี ซึ่งจะทำให้ผู้มีรายได้น้อยกลุ่มดังกล่าวหลุดพ้นจากเส้นความยากจน และมีความเป็นอยู่ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวถือเป็นระยะที่ 2 ของสวัสดิการที่รัฐบาลจะมอบให้กับผู้มีรายได้น้อย 11.64 ล้านคน โดยโจทย์สำคัญที่มอบหมายให้ สศค.ไปเร่งศึกษาใน 4 ด้านเพื่อเพิ่มโอกาสให้กับผู้มีรายได้น้อย คือ 1.โอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบ 2.โอกาสในการศึกษา 3.โอกาสในการหางานทำ และ 4.โอกาสในการเข้าถึงหรือเป็นเจ้าของปัจจัยพื้นฐานที่จำเป็นกับชีวิต (ปัจจัย 4)
"โครงการพัฒนาตนเองให้กับผู้มีรายได้น้อย 11.64 ล้านคน ซึ่งถือเป็นระยะที่ 2 ของสวัสดิการที่รัฐจะมอบให้นั้น จะมีความชัดเจนในเดือน ธ.ค.นี้ โดยต้องมีการหารือกันอีกมาก เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวเนื่องกับหลายหน่วยงาน ทั้งกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงอุตสาหกรรม เป็นต้น ซึ่งตอนนี้ยังไม่ตกผลึก แต่ก็จะเร่งดำเนินการเพื่อให้เป็นรูปเป็นร่างเร็วที่สุด เพราะโครงการนี้ตั้งเป้าว่าจะเริ่มดำเนินการในต้นปี 2561" ปลัดกระทรวงการคลังกล่าว
พร้อมยอมรับว่า ที่ผ่านมา ยังมีข้อผิดพลาดในเรื่องการลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อย จนทำให้เกิดเป็นข้อวิพากษ์วิจารณ์ว่าผู้ที่ได้รับบัตรสวัสดิการฯ ไปแล้วบางรายขาดคุณสมบัติ หรือมีคุณสมบัติไม่ตรงตามหลักเกณฑ์ที่วางไว้ โดยกลุ่มนี้มีสัดส่วนไม่ถึง 1% ของผู้ที่ผ่านเกณฑ์ทั้งหมด ซึ่งเรื่องนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็เร่งดำเนินการตรวจสอบ โดยในท้ายเอกสารการลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อย ได้มีการระบุชัดเจนว่าหากมีการให้ข้อมูลที่เป็นเท็จกับทางราชการก็จะดำเนินการตามกฎหมาย และหลังจากนี้กระทรวงการคลังจะพิจารณาในการเพื่อเงื่อนไขการลงทะเบียนของผู้มีรายได้น้อยรอบใหม่ในปี 2562 ให้มีความเข้มข้นและเข้มงวดมากขึ้น
อินโฟเควสท์