- Details
- Category: คลัง
- Published: Friday, 03 November 2017 22:52
- Hits: 14049
รมว.คลังแย้มจีดีพี Q3/60 มีโอกาสโตถึง 4% ยังอุบมีช้อปช่วยชาติช่วงปลายปีหรือไม่
รมว.คลังแย้มจีดีพี Q3/60 มีโอกาสโตถึง 4% ยังอุบมีช้อปช่วยชาติช่วงปลายปีหรือไม่ ยอมรับกังวลประชาชนชะลอใช้จ่ายช่วงนี้เพื่อรอนโยบาย สั่งห้ามร้านค้าสวัสดิการรัฐจัดของรวมชุดขาย ห้ามเจ้าของบัตรคนจนห้ามให้ผู้อื่นใช้บัตรแทน เผยคมนาคมรายงานเบิกจ่ายงบลงทุนปี 60 ต่ำเป้า 50,000 ลบ. เชื่อปี 61 จะลงทุนต่อเนื่อง
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนของประเทศ ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะมีมาตรการช้อปช่วยชาติ ที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายไว้หรือไม่ ซึ่งคงไม่สามารถเปิดเผยในรายละเอียดได้ ซึ่งที่ผ่านมานั้นการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต้องพิจารณาดูถึงสถานการณ์ โดยปีนี้คาดการณ์ว่าอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ หรือ จีดีพี จะขยายตัวได้ 3.8-3.9% ขณะที่ไตรมาส 3/2560 มีโอกาสที่จะแตะ 4% พร้อมเดินหน้ากระตุ้นศก.ให้โตถึงศักยภาพ 4-5%
“สิ่งที่เราทำในช่วงที่ผ่านมา มันเริ่มออกดอกออกผลแล้ว จากเศรษฐกิจที่โต 0.8% ก็มีโอกาสที่จะโตได้ถึง 3.8-3.9% ในปีนี้ แต่เราก็ยังต้องทำอะไรต่อ เพื่อให้เศรษฐกิจโตได้เต็มศักยภาพที่ 4-5% ถามว่าจำเป็นต้องมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในเวลานี้ไหม ก็ต้องบอกว่า ถ้าคิดว่าทำแล้วเศรษฐกิจดีขึ้นก็ต้องมี”นายอภิศักดิ์ กล่าว
นายอภิศักดิ์ กล่าวถึงกรณีช้อปช่วยชาติ ยอมรับว่า เป็นมาตรการที่ดีที่ช่วยทำให้เกิดการจับจ่ายใช้สอนของภาคประชาชน แต่สิ่งที่กังวลใจ คือ กลัวประชาชนจะมองว่า เป็นมาตรการประจำที่ทำทุกปี อาจทำให้เกิดการชะลอการใช้จ่าย และไปซื้อช่วงปลายปีได้ ซึ่งยืนยันว่า ตอนนี้คงไม่สามารถระบุได้ว่าจะมีหรือไม่ โดยแต่ละมาตรการต่าง หากจะมีก็ต้องรอคณะรัฐมนตรี หรือ ครม. พิจารณาด้วย
“2 ปีที่ผ่านมา เราทำช้อปช่วยชาติ เพราะมันจำเป็นตอนนั้นเศรษฐกิจมันต้องการแรงส่ง เรากังวลว่าหากทำก็อาจจะมองว่าเป็นสิ่งที่ต้องทำทุกปี แต่ในอีกแง่หนึ่งหากทำก็จะช่วยกระตุ้นการใช้จ่าย หลังจากในช่วงที่ผ่านมา มีการไว้ทุกข์ 1 ปี และมีพระราชพิธี ซึ่งทำให้ประชาชนส่วนมากไม่ได้จับจ่ายใช้สอยมากนัก”นายอภิศักด์ กล่าว
นายอภิศักดิ์ กล่าวถึงความคืบหน้าของบัตรสวัสดิการของผู้มีรายได้น้อยนั้น พบว่า มีปัญหาหลายเรื่อง โดยล่าสุด พบว่า ร้านค้าบางร้านได้นำสินค้าจัดเป็นชุดแบบสังฆาน ซึ่งยืนยันว่า ห้ามทำแบบดังกล่าว เนื่องจากนโยบายนี้ ออกมาเพื่อให้ประชาชนซื้อสินค้าที่จำเป็นต้องการใช้จริงๆ นอกจากนี้ยังพบว่า บางร้านงดรับบัตร เนื่องจากมีการซื้อของมากแล้ว หากมากกว่านี้อาจทำให้ต้องเสียภาษีมากขึ้น
ขณะที่ประชาชนนั้น ขอย้ำว่า ห้ามให้บัตรคนอื่นใช้โดยเด็ดขาด เพราะบัตรสวัสดิการถือเป็นสิทธิ์เฉพาะตัว เฉพาะบุคคลเท่านั้น โดยหากพบว่าให้บัตรคนอื่นใช้ ถือว่า ผิดเงื่อนไข และจะถูกริบบัตรทันที
นายอภิศักดิ์ กล่าวถึงการผลการดำเนินงานของโครงการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน ด้านคมนาคม พบว่า ในปี 2560 คาดว่าการเบิกจ่ายรวมจะอยู่ที่ 100,000 ล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายที่วางไว้ประมาณ 50,000 ล้านบาท หรือที่ 150,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลจากการปรัยบลดโครงการก่อสร้างรถไฟทางทางคู่จิระ ขอนแก่น โครงการหัวหินประจวบคีรีขันธ์ ปรับแผนโครงการเบิกจ่ายให้เป็นไปตามแผนการดำเนินงาน เนื่องจากติดปัญหาการเข้าใช้พื้นที่ก่อสร้างบางส่วน ประชาชนคัดค้านการก่อสร้างและบางโครงการมีกาปรับปรุงแก้ไข ทีโออาร์ของโครงการ
สำหรับ ผลการเบิกจ่ายรวมไตรมาส 1-3 ของปี 2560 สามารถเบิกจ่ายได้รวม 68,387.17 ล้านบาท และในไตรมาส 4 นี้คาดว่าจะเบิกจ่ายได้ 38,591.53 ล้านบาท
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย
รมว.คลัง คาด GDP ไตรมาส 4/60 โตกว่า 4% จากไตรมาส 3/60 โตราว 4% ส่งผลทั้งปีโตราว 3.8-3.9%
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง คาดว่าอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย (GDP) ในไตรมาส 4/60 จะเติบโตได้สูงกว่า 4% จากไตรมาส 3/60 ที่คาดว่าจะเติบโตราว 4% ทำให้ภาพรวมทั้งปี 60 น่าจะขยายตัวได้ที่ 3.8-3.9% ถือเป็นการเติบโตที่ใช้ได้
รมว.คลัง เปิดเผยว่า นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้มอบนโยบายและเน้นย้ำเกี่ยวกับแนวทางการดำเนินงานของกระทรวงการคลังใน 2-3 เรื่อง โดยได้ให้เร่งพิจารณาแนวทางในการให้ความช่วยเหลือสนับสนุนประชาชนผู้มีรายได้น้อยให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ซึ่งเป็นโครงการที่ต่อเนื่องจากโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2560
ขณะนี้ปลัดกระทรวงการคลังอยู่ระหว่างการพิจารณาโครงการเพื่อให้ความช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยทั้งในภาคเกษตรและชุมชนเมือง โดยจะร่วมมือกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และธนาคารออมสิน เน้นการฝึกอบรม การเพิ่มทักษะแรงงานเพื่อให้ตรงกับความต้องการของตลาดแรงงานมากขึ้น โดยคาดว่าโครงการดังกล่าวจะออกมาเป็นรูปเป็นร่างที่ชัดเจนในเดือน ธ.ค.60
นอกจากนี้ ในกลุ่มผู้สูงอายุนั้น ได้มอบหมายให้กระทรวงการคลังและสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ไปหาแนวทางในการเพิ่มโอกาสให้กับผู้สูงอายุในการทำงานในระบบเพิ่มขึ้น โดยก่อนหน้านี้กรมสรรพากรมีมาตรการด้านภาษีสำหรับผู้ประกอบการที่จ้างแรงงานสูงอายุเข้าทำงานแล้ว แต่ในส่วนนี้เป็นโจทย์ที่กระทรวงการคลังและ สศค. ต้องไปพิจารณาต่อ
ขณะเดียวกัน ในการประชุม ครม.วันพรุ่งนี้ (7 พ.ย.)จะมีการเสนอให้เห็นชอบมาตรการให้ผู้สูงอายุสามารถยกเลิกรับเบี้ยผู้สูงอายุได้ โดยมาตรการจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.2560 เป็นต้นไป โดยสามารถสละสิทธิได้ไม่มีกำหนดเวลา
รมว.คลัง กล่าวอีกว่า รองนายกรัฐมนตรียังได้ฝากการบ้านให้กรมธนารักษ์ในการจัดทำโครงการบ้านประชารัฐ ซึ่งเป็นการรองรับการเคหะแห่งชาติ (กคช.) ซึ่งเป็นหน่วยงานหลัก โดยปัจจุบันยังมีผู้มีรายได้น้อยที่ไม่มีที่อยู่อาศัยเป็นจำนวนมาก ดังนั้นการเคหะแห่งชาติคงดำเนินการเรื่องนี้หน่วยงานเดียวไม่ได้ ซึ่งเรื่องนี้กรมธนารักษ์พร้อมจะดำเนินการ และมีแนวคิดว่าเมื่อมีการสร้างที่อยู่อาศัยแล้ว จะมีพื้นที่ว่างเหลืออยู่ก็จะมีการสร้างตลาดเพื่อให้ชุมชนได้เข้ามาค้าขายสินค้าทำให้มีรายได้
สำหรับ ในปีงบประมาณ 2561 ในส่วนของ 3 กรมจัดเก็บภาษี ยืนยันว่าจะสามารถจัดเก็บรายได้ได้ตามเป้าหมายที่คาดการณ์ไว้ พร้อมทั้งมอบหมายให้กรมภาษีเข้าไปให้ความรู้กับประชาชนเกี่ยวกับภาษีที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดความเข้าใจในการเสียภาษีอย่างถูกต้อง
อินโฟเควสท์