- Details
- Category: คลัง
- Published: Thursday, 07 September 2017 07:43
- Hits: 5418
รมว.คลัง คาดอัตราภาษีเหล้า บุหรี่ใหม่เข้าครม. 12 ก.ย. นี้ มั่นใจเวิลด์แบงก์เพิ่มอันดับความยากง่ายในการทำธุรกิจของไทยดีขึ้น
รมว.คลัง คาดอัตราภาษีเหล้า บุหรี่ใหม่เข้าครม. 12 ก.ย. นี้ ก่อนพ.ร.บ.สรรพสามิตมีผลบังคับใช้16 ก.ย.นี้ มั่นใจอันดับความยากง่ายในการทำธุรกิจของไทยจากของธนาคารโลกปีนี้ดีขึ้น จากเดิมที่อันดับ 46 หลังเร่งปฏิรูปแผนอำนวยความสะดวกในการทำธุรกิจ
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงความคืบหน้าของอัตราภาษีสรรพสามิตใหม่ ว่า ในวันที่ 12 กันยายนนี้ จะเสนออัตราภาษีสุรา ยาสูบเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี หรือ ครม. ก่อนจะประกาศอัตราให้ทราบในวันที่ 16 กันยายน ซึ่งเป็นวันที่กฎหมายฉบับใหม่มีผลบังคับใช้ ซึ่งขณะนี้คงไม่สามารถระบุอัตราให้ทราบได้ ซึ่งกรณีที่มีข่าวออกมาว่า หลายบริษัทระบุว่าอาจประสบปัญหาขาดทุนจากการปรับขึ้นภาษีนั้น ยืนยันว่า ขณะนี้คงไม่มีใครรู้ได้ว่าจะขาดทุนหรือไม่ เพราะไม่มีใครทราบอัตราที่แท้จริง
ส่วนการประชุมการดำเนินการตามแนวทางการปรับปรุงสภาพแวดล้อม สำหรับการประกอบธุรกิจในประเทศไทยของธนาคารโลก ในวันนี้ มีความคืบหน้าว่าในเดือนตุลาคมนี้ ธนาคารโลกจะประกาศผลการจัดอันดับของประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันอยู่อันดับที่ 46 โดยมั่นใจว่าปีนี้การจัดอันดับของไทยจะดีขึ้นอย่างแน่นอน เนื่องจากเบื้องต้นธนาคารโลกได้ระบุว่า ไทยมีการปฏิรูปที่ส่งผลให้เกิดการอำนวยความสะดวกในการประกอบธุรกิจทั้งสิ้น 4 ด้าน จากทั้งสิ้น 10 ด้าน
สำหรับ การปฏิรูป 4 ด้าน ประกอบด้วย 1. การเริ่มต้นธุรกิจ โดยการยกเลิกข้อกำหนดในการให้ผู้ประกอบการจัดส่งสำเนาข้อบังคับในการทำงานให้กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน และการยกเลิกการใช้ตราประทับของบริษัทในใบหุ้น 2.การจดทะเบียนทรัพย์สิน จากการที่กรมที่ดินมีการจัดเก็บหนังสือแสดงสิทธิแบบอิเล็กทรอนิกส์ และใช้ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์สำหรับแสดงข้อมูลรูปแปลงที่ดินในเขตกรุงเทพฯ
3.การคุ้มครองนักลงทุนรายย่อย จากการให้ผู้ถือหุ้นส่วนน้อยสามารถฟ้องร้องกรรมการบริษัทได้ง่ายขึ้น ในกรณีที่การดำเนินธุรกิจก่อให้เกิดความเสียหายต่อการทำธุรกรรมของคู่สัญญา และการเพิ่มสิทธิและบทบาทของผู้ถือหุ้นในการตัดสินใจของบริษัท และ 4.การแก้ไขปัญหาการล้มละลาย จากการปรับเปลี่ยนวิธีการลงคะแนนเสียงในแผนการฟื้นฟูกิจการลูกหนี้
ทั้งนี้ ธนาคารโลกรับทราบถึงการปรับรุงกฎหมายเกี่ยวกับการล้มละลาย ซึ่งกำหนดให้เจ้าหนี้มีประกันสามารถบังคับเอาหลักประกันได้ในกรอบเวลาที่ชัดเจน และกรณีทรัพย์สินที่เป็นหลักประกันเป็นของสดสามารถเน่าเสียได้ เจ้าหนี้สามารถเอาทรัพย์สินออกไปได้เพื่อไม่ให้เกิดความสูญเสียโดยเปล่าประโยชน์
“เราหวังว่า ครั้งนี้ การจัดอันดับเราจะอยู่ในเลข 3 ไม่ใช่ขึ้นด้วยเลข 4 อย่างแน่นอน จากการดำเนินการมา 2 ปีที่ผ่านมานั้น นอกจากนี้ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ยังได้เร่งรัดให้เรื่องที่ธนาคารโลกเสนอแนะนั้นให้เร่งดำเนินการโดยเฉพาะการติดตามการให้บริการผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อประเมินว่ามีผู้ใช้บริการผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์มากกว่า 50% หรือไม่”นายอภิศักดิ์ กล่าว
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย