WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

คลังตั้งกองทุนพยุงแบงก์รัฐ หวังลดภาระงบหากต้องใส่เงินเพิ่ม

     แนวหน้า : นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.)เปิดเผยว่า สศค. ได้เสนอร่างพ.ร.บ.กองทุนพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจ(แบงก์รัฐ) ให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พิจารณาเห็นชอบ เพื่อส่งให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พิจารณาตราเป็นกฎหมายออกมาบังคับใช้ เนื่องจากเป็นกฎหมายที่สำคัญจะช่วยเป็นแหล่งเงินสนับสนุนการดำเนินงานของสถาบันการเงินเฉพาะกิจของภาครัฐ โดยไม่เป็นภาระงบประมาณ

     สำหรับ ร่าง พ.ร.บ.กองทุนพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจมีรูปแบบเหมือนกับที่เคยเสนอรัฐบาลที่ผ่านมา แต่สภาไม่สามารถพิจารณาได้ทัน โดยสาระสำคัญของ พ.ร.บ. ให้มีการจัดตั้งกองทุนพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจโดยกองทุนจะเรียกเก็บเงินจาก 4 แบงก์รัฐ ได้แก่ ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) และธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย(ไอแบงก์) ตามที่ รมว.คลัง ประกาศ แต่ไม่เกิน 1% ของยอดเงินที่ได้รับจากประชาชน

    สำหรับ เงินของกองทุน จะนำไปใช้ได้ในกรณี เพิ่มทุนให้กับสถาบันการเงินเฉพาะกิจ ซึ่งรวมถึงสถาบันการเงินเฉพาะกิจที่ไม่ได้ส่งเงินเข้ากองทุนด้วย และสามารถนำไปใช้ในโครงการตามมติของคณะรัฐมนตรี ไปใช้พัฒนาระบบสถาบันการเงิน รวมถึงให้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินกู้ยืม เนื่องจากในอนาคตคลังจะมีการเสนอแก้กฎหมายกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ มีอำนาจในการเข้าไปดูแลสถาบันการเงินที่มีปัญหา

    ทั้งนี้ กองทุนพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจ จะมีปลัดกระทรวงการคลังเป็นประธาน โดยการใช้เงินกองทุนจะต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการ โดยการเสนอให้รมว.คลัง พิจารณาและส่งให้คณะรัฐมนตรีอนุมัติ ถึงจะใช้เงินของกองทุนได้

    แหล่งข่าวกระทรวงการคลัง กล่าวว่า หากกองทุนพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจ มีผลบังคับใช้ จะทำให้การเพิ่มทุนของแบงก์รัฐไม่เป็นภาระงบประมาณอีกต่อไป เพราะสามารถใช้เงินจากกองทุนได้ โดยเฉพาะการเพิ่มทุนให้กับธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือเอสเอ็มอีแบงก์ และธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ที่อยู่ระหว่างการฟื้นฟูฐานะ และต้องใช้เงินเพิ่มทุนในอนาคตอีกจำนวนมาก

คลังดันกฎหมายตั้งกองทุนพยุงแบงก์รัฐ

    ไทยโพสต์ : พระรามหก * คลังดันตั้งกอง ทุนแบงก์รัฐ เดินหน้าเสนอ คสช.- สนช. ออกกฎหมาย ด้าน'สาลิ นี'ลั่นแผนฟื้นฟูเอสเอ็มอีแบงก์ฉลุย

     นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า สศค. ได้เสนอร่าง พ.ร.บ.กองทุนพัฒนา ระบบสถาบันการเงิน ให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พิจารณาเห็นชอบ เพื่อส่งให้สภา นิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พิจารณาตราเป็นกฎหมายออก มาบังคับใช้ เนื่องจากเป็นกฎ หมายที่สำคัญจะช่วยเป็นแหล่งเงินสนับสนุนการดำเนินงานของ สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ โดยไม่เป็นภาระงบประมาณ

     สำหรับ สาระสำคัญของ พ.ร.บ.ดังกล่าว คือ ให้มีการจัดตั้งกองทุนพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ โดยกองทุนจะเรียกเก็บเงินจาก 4 สถาบัน การเงินเฉพาะกิจของรัฐ ได้แก่ ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อ การเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) และธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ไอแบงก์) ตามที่ รมว.การคลัง ประกาศไว้ แต่ไม่เกิน 1% ของยอดเงินที่ได้รับจากประชาชน

     โดยในส่วนของเงินกอง ทุนจะนำไปใช้ได้ในกรณีเพิ่มทุนให้กับสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ สามารถนำไปใช้ใน โครงการตามมติของคณะรัฐ มนตรี (ครม.) การนำไปใช้พัฒนา ระบบสถาบันการเงิน รวมถึงให้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินกู้ยืม ซึ่งในอนาคตจะทำให้การเพิ่มทุนของสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐไม่เป็นภาระงบประมาณอีกต่อไป

     ด้าน นางสาลินี วังตาล ประ ธานกรรมการธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือเอสเอ็มอีแบงก์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 18 ส.ค.ที่ผ่านมา คณะ กรรมการ ธพว. ได้หารือร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการนโย บายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) โดยยืน ยันว่าไม่ได้มีการพูดถึงแนวทางการควบรวมกิจการ ธพว.กับธนาคารออมสิน โดย ธพว.ยังได้เสนอแผนการฟื้นฟูกิจการฉบับใหม่ให้ สคร.พิจารณา และยืนยันต่อ สคร.ว่าหากสามารถดำเนินการได้ตามแผน จะสามารถฟื้นฟูกิจการของ ธพว.ได้โดยไม่จำเป็นต้องมีการเพิ่ม ทุน 2 พันล้านบาท แม้ว่ากระ ทรวงการคลังจะมีการตั้งงบดังกล่าวไว้แล้ว โดยจากนี้ ธพว.จะเร่งดำเนินการจัดทำรายการสำรวจทรัพย์สิน (ดิวดิลิเจนท์) เพื่อให้มองเห็นภาพสถานะที่ชัดเจนของ ธพว.ให้แล้วเสร็จใน 3 เดือน.

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!