WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

Gกฤษฎา จนะวจารณะคลังลงพื้นที่อีสาน ยันเศรษฐกิจไทยปีนี้โต 3.6% เดินหน้าแก้หนี้ทั่วประเทศให้เป็นศูนย์

     คลังลงพื้นที่อีสาน สัมมนาวิชาการเวทีสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (FPO Forum) ยันเศรษฐกิจไทยในปี 2560 จะขยายตัว 3.6% รับการใช้จ่ายของภาครัฐยังคงเป็นแรงขับเคลื่อน ทั้งงบกลางปี 1.9 แสนลบ. - โครงสร้างพื้นฐานคมนาคม และรายได้เกษตรกรปรับตัวดีขึ้น ประกาศเดินหน้าแก้หนี้ทั่วประเทศให้เป็นศูนย์

        นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ได้เปิดการสัมมนาวิชาการเวทีสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (FPO Forum) ณ จังหวัดร้อยเอ็ด มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการขยายบทบาทของสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) สู่ภูมิภาค และสร้างความรู้ความเข้าใจในบทบาทของ สศค. รวมทั้งนำเสนอนโยบายและมาตรการเศรษฐกิจต่าง ๆ ที่ สศค. ได้ริเริ่มในช่วงที่ผ่านมา  

       เศรษฐกรชำนาญการพิเศษ สำนักนโยบายเศรษฐกิจมหภาค สศค. กล่าวว่า ภาพรวมโครงสร้างเศรษฐกิจไทยในอดีตมีการพึ่งพาเศรษฐกิจภายในประเทศทั้งภาคการผลิต ภาคเกษตรกรรม เป็นหลัก ขณะที่โครงสร้างเศรษฐกิจในปัจจุบันมีการพึ่งพา ภาคการบริการเพิ่มมากขึ้น ทั้งด้านการขนส่ง บริการอสังหาริมทรัพย์และบริการด้านธุรกิจ แต่ภาคอุตสาหกรรมการผลิตและภาคเกษตรกรรมลดลงเมื่อเทียบกับโครงสร้างเศรษฐกิจไทยในอดีต นอกจากนี้ เศรษฐกิจปัจจุบันมีการพึ่งพาการค้าระหว่างประเทศ การบริโภคภาคเอกชน และการลงทุนภาครัฐที่เพิ่มขึ้น

       สำหรับ เศรษฐกิจไทยในปี 2560 คาดว่าจะขยายตัวที่ร้อยละ 3.6 โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลักจากอุปสงค์ภายนอกประเทศ โดยเฉพาะจากการส่งออกสินค้าที่มีแนวโน้มขยายตัวในอัตราเร่งขึ้นจากปีก่อนอย่างชัดเจน ตามเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าที่เริ่มมีแนวโน้มการฟื้นตัวดีขึ้นตามลำดับ นอกจากนี้ การใช้จ่ายของภาครัฐยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญ โดยเฉพาะการจัดทำงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมปีงบประมาณ 2560 จำนวน 1.9 แสนล้านบาท และการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนาดใหญ่ของประเทศ อาทิ โครงการรถไฟทางคู่ และรถไฟฟ้าในเขตเมือง โครงการ มอเตอร์เวย์ และโครงการพัฒนาท่าอากาศยาน ทั้งนี้ การลงทุนภาครัฐที่เพิ่มขึ้นยังจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจและช่วยกระตุ้นการลงทุนภาคเอกชนในประเทศได้มากขึ้น ขณะที่แนวโน้มรายได้เกษตรกรที่ปรับตัวดีขึ้นตามราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลกและผลผลิตที่เพิ่มขึ้นจะเป็นแรงสนับสนุนให้การบริโภคภาคเอกชนขยายตัวได้ต่อเนื่อง 

       โดยกระทรวงการคลังได้จัดทำแผนพัฒนาระบบการเงินภาคประชาชน พ.ศ. 2560 - 2564 ซึ่งเป็นการกำหนดทิศทางในการพัฒนาระบบการเงินระดับฐานรากและกำหนดหน่วยงานที่รับผิดชอบอย่างชัดเจน เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจชุมชนและบูรณาการการทำงานร่วมกันของหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ กระทรวงการคลังได้ร่วมกับหน่วยงานภาคี ประกาศเจตนารมณ์ในการขจัดหนี้นอกระบบให้เป็นศูนย์ตามแนวทางการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบอย่างบูรณาการและยั่งยืน ใน 5 มิติด้วยกัน ได้แก่ 1.การดำเนินการอย่างจริงจังกับเจ้าหนี้นอกระบบ 2. เพิ่มช่องทางการเข้าถึงสินเชื่อในระบบ 3. ลดภาระหนี้นอกระบบโดยการ ไกล่เกลี่ยประนอมหนี้ 4. เพิ่มศักยภาพของลูกหนี้นอกระบบ และ 5. สนับสนุนการดำเนินงานแก้ไขปัญหา หนี้นอกระบบของหน่วยงานภาครัฐและองค์กรการเงินชุมชนที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ กระทรวงการคลังได้เพิ่มช่องทางการเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบเพิ่มขึ้น โดยการอนุญาตให้มีการประกอบธุรกิจการให้สินเชื่อรายย่อยประเภทใหม่ ได้แก่ สินเชื่อรายย่อยระดับจังหวัดภายใต้การกำกับ (สินเชื่อพิโกไฟแนนซ์) ซึ่งปัจจุบันจังหวัดร้อยเอ็ดเป็นจังหวัด ที่มีผู้ยื่นคำขอประกอบธุรกิจสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์มากที่สุดถึง 19 ราย นอกจากนี้ ยังได้เน้นย้ำถึงการสร้างความรู้และวินัยทางการเงินเพื่อเป็นภูมิคุ้มกันต่อปัญหาหนี้สินของประชาชนด้วย

สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!