- Details
- Category: คลัง
- Published: Thursday, 04 May 2017 12:39
- Hits: 5921
มึน!ขายฟิวเจอร์ฟันด์สะดุด ติดเรื่องใช้งบประมาณ'สคร.'เร่งเคลียร์ปัญหา
ไทยโพสต์ * คลัง รับ ‘ไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์’ สะดุด แจงขายหน่วยลงทุนไม่ทันตามแผน พ.ค.60 หลังติดเรื่องภาระงบประมาณที่ใช้การันตีผลตอบแทน ด้าน กทพ.ห่วงเงินไม่พอสร้างโครงการใหม่
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ผู้อำนวยการสำนัก งานคณะกรรมการนโยบายรัฐ วิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยว่า การดำเนินการจัดตั้งกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย (ไทยแลนด์ฟิวเจอร์ ฟันด์) ในส่วนที่จะขายหน่วยลงทุนให้กับนักลงทุนทั่วไปจะดำเนินการไม่ทันในเดือน พ.ค.2560 ตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ เนื่อง จากต้องนำเรื่องให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบ ซึ่งได้เวียนหนังสือสอบถามความเห็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและทางสำนักงบประมาณเป็นห่วงเรื่องภาระงบประมาณที่จะต้องไปใส่กองทุนประกันผลตอบแทนให้กับนักลงทุน
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ สคร.ได้ทำความเข้าใจกับหน่วยงานต่างๆ โดยเฉพาะสำนักงบประมาณให้เข้าใจแล้วว่า การระดมทุนเงินจากนักลงทุนครั้งแรกประมาณ 3-4 หมื่นล้านบาท มีโครงการที่มีผลตอบแทนแล้วของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) จะโอนรายได้ส่วนหนึ่งมาให้กองทุนเพื่อจ่ายผลตอบแทนให้กับนักลงทุน และการทางพิเศษก็จะได้เงินก้อนไปลงทุนโครงการใหม่โดยที่ไม่ต้องเป็นภาระเงินงบประมาณและเงินกู้ ดังนั้นการระดมทุนของกองทุนไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์เบื้องต้น จึงไม่ต้องใช้เงินงบประมาณมาใส่เงินกองทุนประกันผลตอบแทบให้กับผู้ถือหน่วยลงทุน เพราะเงินรายได้จากโครงการมีเพียงพอที่จะจ่ายให้กับนักลงทุน
สำหรับ การลงทุนในโครง การใหม่ที่ยังไม่มีผลตอบแทนในอนาคต ก็ต้องพิจารณาอีกครั้ง ซึ่งอาจจะไม่มีความจำเป็นต้องใช้เงินงบประมาณมาอุดหนุนจ่ายผลตอบแทน หากกองทุนมีรายได้จากโครงการเก่าเพียงพอ แต่ก็มีความจำเป็นตั้งกองทุนประกันผลตอบแทนให้กับนักลงทุน ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างการ เสนอร่าง พ.ร.บ. จัดตั้งอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา เพื่อให้สร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุน
แหล่งข่าวกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า การล่าช้าการระดมทุนยังมาจาก กทพ.กังวลว่าเงินที่ได้จากการโอนโครงการให้กับกองทุนไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์ ไม่เพียงพอกับการดำเนินโครงการใหม่ จะทำให้มีปัญหาการลงทุน ซึ่งทาง สคร. ได้อธิบายให้เข้าใจแล้วว่า การทำแผนระดมทุนเบื้องต้นได้มีการคิดส่วนลดที่ขายให้กับนักลงทุนไว้สูง ซึ่งการขายหน่วยลงทุนจริงต้องพิจารณาส่วนลดให้กับผู้ซื้อหน่วยอีกครั้ง ซึ่งยืนยันว่าเพียงพอที่จะไปลงทุนในโครงการใหม่
"ขณะนี้ สคร. อยู่ระหว่าง การร่างสัญญาแบ่งรายได้โครง การของ กทพ. มาให้กับกองทุนไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์ หลังจาก นั้นเร่งเสนอเรื่องการระทุนของทุนให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบ เพื่อขายหน่วยลงทุนให้กับนักลงทุนให้เร็วที่สุด ซึ่งที่ผ่านมามีนักลงทุนให้ความสนใจจำนวนมาก" แหล่งข่าวกล่าว
ก่อนหน้านี้ นายอภิศักดิ์ตันติวรวงศ์ รมว.การคลัง ระบุว่า การขายหน่วยลงทุนไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์ เบื้องต้นคาดว่าอยู่ที่ 4-5 หมื่นล้านบาท จากวงเงินทั้งหมด 1 แสนล้าน บาท โดยจะขายให้กับประชาชนก่อนเป็นดับแรก เนื่องจากตอนนี้อัตราดอกเบี้ยเงินฝากต่ำ การลงทุนนี้จึงเป็นทางเลือกที่มั่นคงและให้ผลตอบแทนสูง 7-8%
ทั้งนี้ โครงการของ กทพ. ที่ทำสัญญาโอนรายได้ให้กองทุน คือ ทางด่วนเอกมัย-ราม อินทรา และทางพิเศษบูรพาวิถี ซึ่งการระดมเงินที่ได้ ก็จะให้กับ กทพ.ทั้งหมด เพื่อนำไปลงทุนเส้นทางพระราม 3-ดาวคะนอง และเส้นเกษตร-นวมินทร์ เดือน พ.ค.นี้.
ไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์ สะดุดสำนักงบ-กทพ.กังวลปัญหาเงินทุน
แนวหน้า : นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยว่า การดำเนินการจัดตั้งกองทุนรวมโครงสร้าง พื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย (ไทยแลนด์ ฟิวเจอร์ฟันด์) ในส่วนที่จะขายหน่วยลงทุนให้กับ นักลงทุนทั่วไปจะดำเนินการไม่ทันในเดือนพฤษภาคม 2560 ตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ เพราะต้องเวียนหนังสือ สอบถามความเห็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและทางสำนักงบประมาณ ก่อนส่งเรื่องให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาเห็นชอบในรายละเอียดอีกครั้ง
โดยทางสำนักงบประมาณเป็นห่วงเรื่องภาระงบประมาณที่จะต้องไปใส่กองทุนประกันผลตอบแทนให้กับนักลงทุน อย่างไรก็ตามสคร. ได้ทำความเข้าใจกับหน่วยงานต่างๆ โดยเฉพาะสำนักงบประมาณให้เข้าใจแล้วว่า การระดมทุนเงินจากนักลงทุนครั้งแรกประมาณ 3-4 หมื่นล้านบาท มีโครงการที่มีผลตอบแทนแล้วของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) จะโอนรายได้ส่วนหนึ่งมาให้กองทุนเพื่อจ่ายผลตอบแทนให้กับนักลงทุน และการทางพิเศษก็จะได้เงินก้อนไปลงทุนโครงการใหม่โดยที่ไม่ต้องเป็นภาระเงินงบประมาณและเงินกู้
ทั้งนี้ ทำให้การระดมทุนของกองทุน ไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์เบื้องต้นไม่ต้องใช้เงิน งบประมาณมาใส่เงินกองทุนประกันผลตอบแทน ให้กับผู้ถือหน่วยลงทุน เพราะเงินรายได้จากโครงการมีเพียงพอที่จะจ่ายให้กับนักลงทุน
สำหรับ การลงทุนในโครงการใหม่ที่ยังไม่มีผลตอบแทนในอนาคต ก็ต้องพิจารณาอีกครั้ง ซึ่งอาจจะไม่มีความจำเป็นต้องใช้เงินงบประมาณมาอุดหนุนจ่ายผลตอบแทน หากกองทุนมีรายได้ จากโครงการเก่าเพียงพอ แต่ก็มีความจำเป็นต้องตั้งกองทุนประกันผลตอบแทนให้กับนักลงทุน ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างการเสนอร่าง พ.ร.บ. จัดตั้งอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุน
แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง กล่าวว่า การล่าช้าการระดมทุนส่วนหนึ่งมาจาก กทพ.กังวลว่าเงินที่ได้จากการโอนโครงการให้กับกองทุนไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์ ไม่เพียงพอกับการดำเนินโครงการใหม่ จะทำให้มีปัญหาการลงทุน ซึ่ง สคร. ได้อธิบายให้เข้าใจแล้วว่า การทำแผนระดมทุนเบื้องต้นได้มีการคิดส่วนลดที่ขายให้กับนักลงทุนไว้สูง ซึ่งการขายหน่วยลงทุนจริงต้องพิจารณาส่วนลดให้กับผู้ซื้อหน่วยอีกครั้ง แต่ยืนยันว่า เพียงพอที่จะไปลงทุนในโครงการใหม่
นอกจากนี้ สคร. อยู่ระหว่างการร่างสัญญาแบ่งรายได้โครงการของ กทพ. มาให้กับกองทุนไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์ หลังจากนั้นเร่งเสนอเรื่องการระดมทุนของทุนให้ ครม. พิจารณาเห็นชอบ เพื่อขายหน่วยลงทุนให้กับนักลงทุนให้เร็วที่สุด ซึ่งที่ผ่านมามีนักลงทุนให้ความสนใจจำนวนมาก
ก่อนหน้านี้นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง ระบุว่า การขายหน่วยลงทุนไทยแลนด์ ฟิวเจอร์ฟันด์ เบื้องต้นคาดว่าอยู่ที่ 4-5 หมื่นล้านบาท จากวงเงินทั้งหมด 1 แสนล้านบาท โดยจะขาย ให้กับประชาชนก่อนเป็นอันดับแรก เนื่องจากตอนนี้ อัตราดอกเบี้ยเงินฝากต่ำ การลงทุนนี้จึงเป็นทางเลือก ที่มั่นคงและให้ผลตอบแทนสูง 7-8%
ไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์จะเป็นการระดมทุน เพื่อนำไปลงทุนโครงการใหม่ โดยมีโครงการ กทพ.เป็นลำดับแรก จากนั้นจะพิจารณาโครงการของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) ที่จะนำโรงไฟฟ้าหรือสายส่ง มาเข้ากองทุนได้ เช่นเดียวกัน เพื่อระดมเงินไปลงทุนโครงการต่างๆ
โครงการของกทพ. ที่ทำสัญญาโอนรายได้ให้กองทุนคือ ทางพิเศษฉลองรัช และทางพิเศษบูรพาวิถี ซึ่งการระดมเงินที่ได้ ก็จะให้กับกทพ.ทั้งหมด เพื่อนำไปลงทุนเส้นทาง พระราม 3- ดาวคะนอง และเส้นเกษตรนวมินทร์
