- Details
- Category: คลัง
- Published: Monday, 24 April 2017 10:02
- Hits: 5130
คลัง เตรียมคุยกับสศค.-ธ.ก.ส.สรุปแพ็คเกจเพิ่มรายได้ชาวนา แจงยอดลงทะเบียนคนจนทะลุ 6 ล้านรายแล้ว
ปลัดคลัง เตรียมหารือสศค.-ธ.ก.ส. สัปดาห์หน้า สรุปแพ็คเกจเพิ่มรายได้ชาวนาไทย โดยศึกษาใช้ระบบประกันรายได้สินค้าเกษตรในต่างประเทศ เข้ามาดูแลสินค้าเกษตรในไทย เผยล่าสุดมีผู้ลงทะเบียนคนจนแล้วกว่า 6 ล้านราย
นายสมชัย สัจจพงศ์ ปลัดกระทรวงคลัง เปิดเผยว่า ในสัปดาห์หน้า กระทรวงการคลังจะประชุมหารือกับ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง หรือ สศค. และ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. เพื่อหามาตรการในการเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าว หรือ ชาวนาไทย แบบยั่งยืน ก่อนเสนอให้ นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พิจารณา ซึ่งที่ผ่านมาได้สั่งการให้สศค.ศึกษาแนวทางการดูแลชาวนาในต่างประเทศแล้ว เช่น สหรัฐและญี่ปุ่น ที่มีมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรในประเทศมีรายได้เพิ่มสูงขึ้น
"ที่ผ่านมา รมว.คลัง มีโนยบายว่าต้องการต้องการให้เกษตรกรไทยผู้ปลูกข้าวมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และมีรายได้ที่มั่นคงในระยะยาว จึงได้สั่งการให้ สศค.ศึกษาแนวทาง โดยให้ศึกษาโมเดลจากสหรัฐ และญี่ปุ่น เช่น การนำมาตรการภาษีเข้ามาจูงใจให้เกษตรกรทำนาแปลงใหญ่ ด้วยการลดภาษีต่างๆ ให้หากมีการรวมกลุ่มจัดตั้งเป็นนิติบุคคลหรือวิสาหกิจชุมชนเพื่อผลิตสินค้าเกษตรออกจำหน่าย รวมทั้งการให้สินเชื่อเพื่อรวมกลุ่มการเกษตร ประกันพืชผลทางการเกษตร รวมทั้งศึกษาระบบประกันรายได้เกษตรกร ที่อาจอ้างอิงกับสภาพภูมิอากาศ ก่อนประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติโดยอัตโนมัติ จากปัจจุบันที่ต้องให้ผู้ว่าราชการเป็นผู้ประกาศเป็นรายจังหวัดแทน"นายสมชัย กล่าว
สำหรับ ความคืบหน้าการเปิดลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อย ล่าสุดมีผู้ลงทะเบียนแล้วกว่า 6 ล้านราย ซึ่งขณะนี้ สศค. กำลังเร่งจัดทำรูปแบบสวัสดิการและงบประมาณที่ต้องใช้ว่าจำนวนผู้มาลงทะเบียน และสวัสดิการที่จะจัดสรรให้ ให้แล้วเสร็จก่อน 15 พฤษภาคมนี้ เพื่อให้ทันต่อการแจกบัตรผู้มีรายได้น้อยในเดือนกันยายน-ตุลาคม 2560 นี้
ทั้งนี้ ในเบื้องต้นคาดการณ์ใช้งบประมาณ 10,000 ล้านบาท โดยมาตรการหลักๆ จะมีค่าน้ำ ค่าไฟ รถไฟฟรี และรถเมล์ฟรีแน่นอน แต่มาตรการอื่นๆ จะต้องพิจารณาจากจำนวนผู้มาลงทะเบียนก่อน ส่วนในอนาคต กระทรวงคลังจะนำจำนวนผู้มีรายได้น้อยมาจำแนกเป็นกลุ่ม เช่น กลุ่มรายได้ กลุ่มอาชีพ กลุ่มรายภาคและรายจังหวัด เพื่อจะกำหนดการช่วยเหลือให้ตรงจุดมากขึ้น
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย