WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

PDMOธรชย อตนวานช copyJCR ชี้การคลังไทยแกร่ง ยืนยันอันดับเครดิตประเทศที่ระดับA+

      แนวหน้า : นายธีรัชย์ อัตนวานิช ที่ปรึกษาด้านตลาด ตราสารหนี้ สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เปิดเผยว่า ผลการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทย โดยบริษัท Japan Credit Rating Agency, Ltd. (JCR) ได้ยืนยันอันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้รัฐบาลระยะยาวสกุลเงิน ต่างประเทศของไทยที่ระดับ A-สกุลเงินบาท ที่ระดับ A และคงเพดานอันดับความ น่าเชื่อถือของประเทศไว้ที่ระดับ A+ โดยมี มุมมองความน่าเชื่อถือที่มีเสถียรภาพ (Stable outlook)

      สำหรับ ผลการจัดอันดับความ น่าเชื่อถือของตราสารหนี้รัฐบาลระยะยาว สกุลเงินต่างประเทศที่ระดับ A-สะท้อน พื้นฐานทางเศรษฐกิจของประเทศที่ได้รับแรงสนับสนุนจากการเติบโตของ อุตสาหกรรมการส่งออก ความมีเสถียรภาพ ของภาคธนาคาร สถานะทางการคลังที่เข้มแข็ง ตลอดจนดุลยภาพภายนอกที่แข็งแกร่ง ขณะเดียวกันการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย ในปี 2559 เกิดจากการเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนของการลงทุนภาครัฐ และการบริโภคของภาคเอกชน รวมทั้งจำนวนนักท่องเที่ยว ต่างชาติที่สูงขึ้นเป็นประวัติการณ์

     นอกจากนี้ JCR ยังคาดว่าการเดินหน้า ปฏิรูปเชิงโครงสร้างของรัฐบาลปัจจุบัน ประกอบกับการส่งออกที่จะเพิ่มขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกจะส่งผลให้เศรษฐกิจฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องในปี 2560 ทั้งนี้ การลดลงของประชากรในวัยทำงานและการเพิ่มสูงขึ้นของค่าจ้างแรงงานในอนาคตอาจส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจในอนาคต ดังนั้นนโยบายรัฐบาลซึ่งรวมถึงมาตรการปฏิรูปเพื่อพัฒนาภาคอุตสาหกรรมจึงเป็นสิ่งที่จำเป็น

     ขณะที่สถานะทางการคลังของไทย JCR มองว่ายังคงมีความเข้มแข็ง เนื่องจากการดำเนินงานของรัฐบาลอยู่ภายใต้กรอบวินัยทางการคลังที่กำหนดไว้ ในกฎหมายอย่างเข้มงวด ถึงแม้รัฐบาลจะดำเนินนโยบาย งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมในปี 2560 และเป็นสาเหตุหนึ่งของการเพิ่มขึ้นของหนี้สาธารณะในช่วงที่ผ่านมา แต่ก็เพื่อนำไปใช้ในการลงทุนเพื่อการพัฒนาประเทศเป็นสำคัญ

     ขณะเดียวกันภาคธนาคารพาณิชย์ ยังคงแข็งแกร่ง โดยในปี 2559 ธนาคารพาณิชย์สามารถบริหารสัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ต่อหนี้ทั้งหมด (NPL Ratio) และอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (CAR) ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมได้

     นอกจากนี้ การเกินดุลการค้าที่ขยายตัวขึ้นอย่างมากในปี 2559 เนื่องจากการลดลงของการนำเข้า ประกอบกับการเกินดุลบัญชีบริการที่เพิ่มขึ้นตามการเพิ่มขึ้นของรายได้จากภาคการท่องเที่ยว ได้ส่งผลให้ดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลมากขึ้น และส่งผลให้ดุลการชำระเงินเกินดุลในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา

      ทั้งนี้ JCR คาดการณ์ว่าการเกินดุลการค้าและดุลบัญชีเดินสะพัดอาจลดลง ในระยะปานกลางเนื่องจากการนำเข้าที่จะเพิ่มขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ รวมทั้งระดับเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ อาจได้รับผลกระทบจากการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ อเมริกา(FED)

      อย่างไรก็ตาม การเลือกตั้งในประเทศไทยจะจัดขึ้นภายหลังจากการยกร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญและกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง แล้วเสร็จ โดย JCR ระบุว่าจะติดตามความคืบหน้าในกระบวนการการเลือกตั้ง รวมทั้ง สถานการณ์ความคืบหน้าของการดำเนินมาตรการเพื่อการปฏิรูปประเทศของรัฐบาลต่อไป

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!