WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

Gอภศกด ตนตวรวงศชง'อภิศักดิ์'ลดหย่อนภาษี/หลัง'กำลังซื้อ'แผ่ว คลังเล็งกระตุ้นศก.อีกรอบ

   แนวหน้า : กระทรวงการคลัง รับลูก 'สมคิด' หลังพบช่วงใกล้สิ้นปี ประชาชนไม่อยู่ในอารมณ์จับจ่าย เสนอ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอีกลอต ลดหย่อนภาษีท่องเที่ยว-ช็อปปิ้ง ลุ้น “อภิศักดิ์”ไฟเขียว

   มีรายงานข่าวจาก กระทรวงการคลัง แจ้งว่ากระทรวงการคลัง จะเสนอมาตรการภาษีเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจ และกำลังซื้อภายในประเทศช่วงปลายปี 2559 ให้ นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงค์ รมว.คลัง พิจารณาประกอบด้วย

     มาตรการลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวได้ตามจำนวนเงินที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 15,000 บาทต่อปี, มาตรการลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับเงินได้เท่าที่ได้จ่ายเป็นค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการ จากผู้ประกอบกิจการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ตามจำนวนที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 15,000 บาท

   มาตรการยกเว้นภาษีเพื่อสนับสนุนการค่าซื้อสินค้าประเภทเครื่องใช้สำอาง และน้ำหอม (ช็อปปิ้ง พาราไดซ์) เพื่อช่วยเหลืออุตสาหกรรมเครื่องสำอางที่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจที่ชะลอและกำลังซื้อที่ลดลงในช่วงที่ผ่านมา

      ทั้งนี้ มาตรการแรกจะเป็นไปตามที่ กระทรวงการคลัง เคยดำเนินการไว้ ซึ่งจะช่วยเพิ่มกำลังการใช้จ่ายของประชาชนเพิ่มขึ้น เนื่องจากมาตรการภาษีนี้จะช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายในการซื้อสินค้า และส่งเสริมสนับสนุนการท่องเที่ยวภายในประเทศ และยังช่วยเหลือผู้ประกอบธุรกิจที่จดทะเบียนภาษี (VAT) รวมทั้งผู้ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการท่องเที่ยว โรงแรม รวมทั้งธุรกิจต่อเนื่องกับการท่องเที่ยวในทุกภาคส่วนของประเทศ ถือเป็นมาตรการที่ส่งเสริมและกระตุ้นการบริโภคในการใช้จ่ายกลุ่มผู้ที่มีกำลังซื้อแต่ยังไม่กล้าที่จะใช้จ่ายหรือบริโภค

      สำหรับ มาตรการ 'ช็อปปิ้ง พาราไดซ์' จะเป็นมาตรการทางภาษีที่ช่วยเหลือผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง ด้วยการยกเว้นภาษีให้กับสินค้าประเภทดังกล่าว โดยจะมีภาษีสองส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งกรมศุลกากร และกรมสรรพสามิต หากเป็นสินค้านำเข้ามาจำหน่ายภายในประเทศ ก็จะได้รับการยกเว้นภาษีจากกรมศุลกากรให้เหลือ 0% แต่หากเป็นการผลิตภายในประเทศก็จะได้รับการยกเว้นภาษีในอัตราเดียวกัน ถือเป็นการจูงใจให้ประชาชนทั้งไทยและต่างชาติเลือกซื้อสินค้าเครื่องใช้สำอางและน้ำหอมในราคาถูกลง ส่งผลให้เกิดกำลังซื้อในช่วยปลายปีเพิ่มขึ้นอีกด้วย

    “มาตรการภาษีจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจไทยในช่วงปลายปี เพื่อให้เกิดกำลังซื้อทั้งเอกชนและประชาชน ส่งผลเศรษฐกิจไทยสามารถขยายตัวได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ซึ่งต้องรอฝ่ายนโยบายพิจารณาให้ กระทรวงการคลัง ดำเนินการหรือไม่ หากเห็นชอบก็จะมีระยะเวลาในการเริ่มดำเนินการทันที เบื้องต้นได้กำหนดไว้ว่า หากเป็นมาตรการลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาท่องเที่ยว จะมีระยะเวลาประมาณ 2 สัปดาห์ ส่วนมาตรการลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาซื้อสินค้าหรือบริการจะอยู่ที่ 1 สัปดาห์ และมาตรการช็อปปิ้ง พาราไดซ์ กำหนดระยะเวลาไว้ที่สองเดือน เป็นต้น”

    ทั้งนี้ สาเหตุหนึ่งที่ต้องมีมาตรการเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจและกำลังซื้อภายในประเทศนั้น เนื่องจากการจัดเก็บรายได้รัฐ เดือนต.ค.2559 ที่เป็นเดือนแรก ของปีงบประมาณ 2560 พบว่าการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากการบริโภคในประเทศได้ต่ำกว่าเป้าหมาย 920 ล้านบาท สะท้อนถึงกำลังซื้อของประชาชนภายในประเทศปรับตัวลดลง ประกอบการการลงทุนภาคเอกชนที่ผ่านมายังไม่เกิดการลงทุนอย่างชัดเจน หากไม่มีมาตรการเข้ามารองรับอาจส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยไม่ได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้

   สำหรับ การขอเอกสารเพื่อนำมาลดหย่อนภาษีนั้น ยังกำหนดเหมือนกับปลายปี 2558 ที่ต้องมีใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบ ตาม ม.86/4 แห่ง ประมวลรัษฎากร จากร้านที่ซื้อสินค้าและบริการ โดยผู้ประกอบกิจการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ซึ่งจะต้องระบุชื่อ-ที่อยู่ปัจจุบัน เลขผู้เสียภาษีอากรของผู้ค้า และต้องระบุ ราคา วันที่ซื้อ ชื่อบริษัทห้างร้าน โดยต้องแยกราคา สินค้า ภาษี ราคารวมสินค้าและภาษี ให้ชัดเจน ซึ่งหากประชาชนใช้จ่ายและท่องเที่ยวตามมาตรการต่างๆ ก็ได้รับประโยชน์จากการลดหย่อนภาษีรวมไม่เกิน 30,000 บาท

    ก่อนหน้านี้ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ว่า ช่วงปลายปี 2559 พบว่าการบริโภคภาคภายในประเทศปรับตัวเบาบาง เนื่องจากประชาชนไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะใช้จ่าย ซึ่งรัฐบาลได้สั่งการให้ กระทรวงการคลัง ดูแลเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด และจะมีมาตรการออกมาดูแลในจังหวะที่เหมาะสม เพื่อให้เศรษฐกิจไทยสามารถเดินหน้าได้อย่างต่อเนื่อง

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!