- Details
- Category: คลัง
- Published: Thursday, 31 July 2014 22:43
- Hits: 2672
การเมืองวุ่นกระแทกเศรษฐกิจลงแรง คลังหั่นจีดีพีปี 57 เหลือแค่ 2%
แนวหน้า : คลังรับสภาพประกาศลดประมาณการณ์จีดีพีปี 57จาก 2.6%เหลือแค่ 2% ชี้ปัญหาการเมืองยืดเยื้อกระแทกเศรษฐกิจครึ่งปีแรกแรงเกินคาด หวังครึ่งปีหลังฟื้นตัวเพราะได้คสช.เข้ามาบริหารจัดการ ต่างชาติเชื่อมั่น รัฐเร่งเบิกจ่ายงบลงทุนหนุนจีดีพีปี58 โต 5%
นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.)เปิดเผยว่าได้ปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยหรือผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(จีดีพี)ในปี 2557ลงเหลือ 2.0%(โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ 1.5-2.5%) ลดลงจากการคาดการณ์เมื่อเดือนมีนาคม 2557ที่ 2.6% สาเหตุมาจากปัญหาทางการเมืองที่ผ่านมาทำให้อัตราการเจริญเติบโตในไตรมาสแรกของปีหดตัวมากกว่าคาดโดย-0.6 %และสถานการณ์ทางการเมืองที่ยืดเยื้อได้ส่งผลกระทบต่อระดับความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและภาคธุรกิจในช่วงครึ่งปีแรก
อย่างไรก็ตาม คาดว่าช่วงครึ่งปีหลังเศรษฐกิจไทยอยู่ในทิศทางที่ดีขึ้น โดยคาดว่าจะขยายตัวได้ 4.3% หลังจากที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เข้ามาบริหารประเทศ ทำให้นักลงทุนต่างชาติกลับมีความเชื่อมั่น รวมถึงเร่งรัดการเบิกจ่ายการลงทุน ซึ่งจะทำให้มีแนวโน้มดีขึ้นตามลำดับ ส่งผลให้อัตราการขยายตัวปี 2558 คาดว่าจะอยู่ที่ 5% ต่อปี
มูลค่าการส่งออกสินค้าทั้งปีคาดว่าจะขยายตัวที่ 1.5% (โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ 0.5 ถึง 2.5%) โดยแม้ว่ามูลค่าการส่งออกสินค้าในครึ่งปีแรกจะลดลงต่ำกว่าที่คาด แต่ในครึ่งปีหลัง คาดว่าจะดีขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกรวมถึงการท่องเที่ยวที่คาดว่าจะขยายตัวดีขึ้นส่วนการนำเข้าในปี 2557 คาดว่าจะหดตัวที่ -5.2% โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ (-6.2%) ถึง (-4.2%) แม้จะมีการเร่งตัวสูงขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังตามการเร่งขึ้นของอุปสงค์ภายในประเทศที่เกี่ยวเนื่องกับการใช้จ่ายภาครัฐ
สำหรับ เสถียรภาพเศรษฐกิจของไทยนั้น ในส่วนเสถียรภาพเศรษฐกิจภายในประเทศยังคงแข็งแกร่ง โดยคาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะปรับสูงขึ้นจากปีก่อนหน้าเล็กน้อยมาอยู่ที่ 2.4% (โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ 1.9 – 2.9%) ตามแนวโน้มการทยอยปรับเพิ่มขึ้นของราคาต้นทุนวัตถุดิบที่ประสบปัญหาภัยแล้งและสินค้าที่ขาดแคลนวัตถุดิบโดยเฉพาะราคาอาหารสำเร็จรูป และบริการต่างๆ ได้เริ่มทยอยปรับขึ้นราคา เช่น ค่าโดยสารรถไฟฟ้าใต้ดินที่ปรับเพิ่มขึ้นตั้งแต่เดือนกรกฎาคมเป็นต้นไป
อย่างไรก็ดี นโยบายการตรึงราคาก๊าซ LPG และน้ำมันดีเซลตลอดจนมาตรการตรึงราคาสินค้าจะช่วยชะลออัตราเร่งของเงินเฟ้อ ขณะที่เสถียรภาพเศรษฐกิจภายนอกประเทศนั้น คาดว่า ดุลการค้าจะเกินดุลเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว เนื่องจากมูลค่าการส่งออกสินค้าที่ขยายตัวในอัตราเร่งกว่าการนำเข้าสินค้า ส่งผลให้ดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลประมาณ 13.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็น 3.3% ของจีดีพี(โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ 3.1 -3.5% ของจีดีพี)
ผอ.สศค.ย้ำว่า การประมาณการเศรษฐกิจไทยจำเป็นต้องคำนึงถึงปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด อาทิ แนวโน้มอุปทานน้ำมันโลกที่เผชิญปัญหาขัดแย้งในประเทศอิรักและยูเครนทั้งนี้ มองว่า เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้มากกว่า 2 %ต่อปี หากภาครัฐมีการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณปี 2557 และเตรียมความพร้อมในการใช้งบประมาณปี 2558 ในลักษณะเร่งรัดในช่วงแรกของปีงบประมาณ รวมทั้งส่งเสริมการส่งออกสินค้าให้เป็นไปตามเป้าหมายของกระทรวงพาณิชย์ และมีการกระตุ้นการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น
นายสมชาย หาญหิรัญ ผู้อำนวยการ สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เป?ดเผยว่า แนวโน้มผลิตภัณฑ์มวลรวมภาคอุตสาหกรรมหรือจีดีพีภาคอุตสาหกรรมปี 2557 คาดว่าจะเติบโต 1-2% จากเป?หมายเดิมที่คาดว่าจะขยายตัว 2-3% ซึ่งจะสะท้อน ไปยังดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม(MPI)ป?นี้จะขยายตัวไม่ เกิน 1%จากเดิม 1.5-2%ป?จจัยหลักมาจากการ คาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจไทยป?นี้ที่ลดลง
สำหรับ MPI เดือนมิถุนายนติดลบ 6.6% ลดลงต่อเนื่องเป?นเดือนที่ 14 อัตราการใช้ กำลังการผลิตอยู่ที่ 60.61% ขณะที่ MPI ไตรมาส 2/2557 หดตัว 5% ส่วนอัตราการใช้กำลังการผลิตอยู่ ที่ 59.5%และครึ่งปีแรก(มกราคม-มิถุนายน) MPI หดตัว 6.1% อัตราการใช้กำลังการผลิต 60.68%
อุตสาหกรรมสำคัญที่มี ผลให้ MPI ลดลง ได้แก่ การผลิตรถยนต์ในเดือนนี้เทียบกั บปีก่อนหน้าลดลง 26.10 % เนื่องจากป?ที่แล้วมีการเร่งผลิตเพื่อส่งมอบรถยนต์คันแรกทำให้มีการขยายตัวอย่างมาก ส่วนแนวโน้มครึ่งปีหลังมีทิศทางดีขึ้นจากสถานการณ์ในประเทศที่เข้าสู่ความสงบ สร้างบรรยากาศความเชื่อมั่นในการลงทุนและการบริโภค ประกอบกับการเร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณของภาครัฐ ซึ่งช่วยให้ส่วนต่างๆของประเทศมีความเชื่อมั่นมากขึ้น
คลังหั่นเป้าจีดีพีปีนี้โต 2%แจงเหตุผลวิกฤติการเมืองปั่นป่วนสะเทือนไตรมาสแรก
บ้านเมือง : สศค. หั่นเป้าจีดีพีทั้งปี 2557 เหลือ 2% เหตุปัญหาการเมืองปั่นป่วนช่วงที่ผ่านมา สะเทือนจีดีพีไตรมาสแรกติดลบ 0.6%-ฉุดเชื่อมั่นเอกชนครึ่งปีแรกวูบ ขณะที่ยังใจดีสู้เสือ เศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลังสดใส คาดขยายตัวได้ถึง 5% อานิสงส์การเมืองผ่อนคลาย-เชื่อมั่นเอกชนคัมแบล็ก-รัฐเร่งมาตรการบรรเทาเดือดร้อนชาวบ้าน
นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวว่า สศค. ได้ปรับลดคาดการณ์อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทยในปี 57 ลงเหลือเติบโต 2.0% หรือเติบโตอยู่ในช่วงคาดการณ์ 1.5-2.5% ซึ่งลดลงจากเดิมที่เคยคาดว่าจะเติบโตประมาณ 2.6% เนื่องจากปัญหาการเมืองส่งผลให้เศรษฐกิจไตรมาสแรกหดตัวมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ ขณะที่ในปี 58 คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะเติบโตได้ถึง 5% "เศรษฐกิจไทยปี 57 คาดว่าจะขยายตัว 2% โดยมีแรงส่งในช่วงครึ่งปีหลังตามสถานการณ์ทางการเมืองที่มีทิศทางชัดเจนขึ้น"นายกฤษฎา กล่าว
ทั้งนี้ ปัญหาทางการเมืองทำให้อัตราการเจริญเติบโตในไตรมาสแรกของปีหดตัวมากกว่าคาดที่-0.6% และสถานการณ์ทางการเมืองที่ยืดเยื้อได้ส่งผลกระทบต่อระดับความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและภาคธุรกิจในช่วงครึ่งปีแรก อย่างไรก็ดี ในช่วงครึ่งปีหลังคาดว่าทิศทางที่ชัดเจนขึ้นของสถานการณ์ทางการเมืองจะส่งสัญญาณที่ดีต่อระดับความเชื่อมั่นของประชาชน และนักลงทุนตามนโยบายเร่งฟื้นฟูความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจ และการดำเนินมาตรการที่ให้ความช่วยเหลือบรรเทาความเดือนร้อนของประชาชน
สำหรับ ความชัดเจนในเรื่องนโยบายส่งเสริมการลงทุนของภาครัฐรวม ทั้งการเร่งรัดการใช้จ่ายภายใต้แผนการลงทุนภาครัฐที่แต่เดิมมีแนวโน้มล่าช้ากว่าแผนที่กำหนด รวมถึงการเร่งกระบวนการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2558 จะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะเป็นแรงขับเคลื่อนหลักที่ทำให้อุปสงค์ภายในประเทศขยายตัวได้ต่อเนื่อง
ขณะที่มูลค่าการส่งออกสินค้าทั้งปีคาดว่าจะขยายตัวที่ 1.5% โดยแม้ว่ามูลค่าการส่งออกสินค้าในครึ่งปีแรกจะลดลงต่ำกว่าที่คาด แต่ในครึ่งปีหลังคาดว่าจะขยายตัวในทิศทางที่ดีขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ส่วนเสถียรภาพเศรษฐกิจภายในประเทศยังคงแข็งแกร่ง โดยคาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปี 57 จะปรับสูงขึ้นจากปีก่อนหน้าเล็กน้อยมาอยู่ที่ 2.4%
"ในการประมาณการเศรษฐกิจไทยจำเป็นต้องคำนึงถึงปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เช่น แนวโน้มอุปทานน้ำมันโลกที่เผชิญปัญหาขัดแย้งในประเทศอิรักและยูเครน มองว่าเศรษฐกิจไทยจะสามารถขยายตัวได้มากกว่า 2% ต่อปี หากภาครัฐมีการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณปี 57 และเตรียมความพร้อมในการใช้งบประมาณปี 58 ในลักษณะเร่งรัดในช่วงแรกของปีงบประมาณ รวมทั้งส่งเสริมการส่งออกสินค้าให้เป็นไปตามเป้าหมายของกระทรวงพาณิชย์ และมีการกระตุ้นการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น" นายกฤษฎา กล่าว
นายกฤษฎา กล่าวถึงภาวะเศรษฐกิจการคลัง เดือน มิ.ย. และไตรมาสที่ 2 ของปี ว่า เศรษฐกิจไทยล่าสุด แม้ว่าจะยังมีสัญญาณชะลอตัวในด้านการท่องเที่ยวต่างชาติและการใช้จ่ายภาคเอกชน แต่เริ่มมีสัญญาณบวกจากความเชื่อมั่นทั้งทางด้าน
ผู้บริโภคและธุรกิจที่ปรับดีขึ้น สะท้อนทิศทางการใช้จ่ายและการผลิตที่คาดว่าจะเริ่มดีขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี 57 ประกอบกับการส่งออกและการใช้จ่ายภาครัฐกลับมาขยายตัวเป็นบวกอีกครั้ง นอกจากนี้ เสถียรภาพเศรษฐกิจอยู่ในเกณฑ์มั่นคง ซึ่งปัจจัยเหล่านี้จะช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลังต่อไป
นายสมชาย หาญหิรัญ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) กล่าวว่า ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม MPI เดือน มิ.ย.57 ติดลบ 6.6 % อัตราการใช้กำลังการผลิตอยู่ที่ 60.61% ภาวะการณ์ผลิตอุตสาหกรรม สาขาที่สำคัญ อาทิ อุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์ ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อน 26.10% ส่วนการผลิตอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ลด 1.73% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน อุตสาหกรรมไฟฟ้าผลิตลดลง 8.73% อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ปรับตัวลดลงเล็กน้อย 0.05%
ขณะที่ นายบัณฑูร ล่ำซำ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย กล่าวยืนยันว่า ไม่เคยได้รับการทาบทามจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้ดำรงตำแหน่งในคณะรัฐมนตรี ซึ่งได้แสดงเจตจำนงที่ชัดเจนไปกับ คสช.แล้วว่า ขณะนี้ในฐานะที่เป็นประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย มีภารกิจที่จะต้องบริหารจัดการและดำเนินธุรกิจธนาคาร อีกทั้งรับสนองพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในโจทย์ "รักษ์ป่าน่าน" ที่ต้องไปดำเนินการและลงพื้นที่ใน จ.น่าน อยู่เสมอๆ ซึ่งเต็มเวลาเต็มที่แล้ว ไม่อยู่ในวิสัยที่จะรับงานอื่นได้อีก