- Details
- Category: คลัง
- Published: Tuesday, 25 October 2016 21:30
- Hits: 6830
คลัง แจงเศรษฐกิจไทยปลายปีไม่ทรุด การลงทุนภาคเอกชนยังมีแนวโน้มดี รัฐอัดฉีดเม็ดเงินต่อเนื่อง
กระทรวงการคลังแจง เศรษฐกิจไทยปลายปีไม่ทรุด การลงทุนภาคเอกชนยังมีแนวโน้มดี รัฐอัดฉีดเม็ดเงินต่อเนื่อง หลังนายกฯ ห่วงประชาชนสับสน จากการบิดเบือนข้อมูลของอดีตรัฐมนตรีเศรษฐกิจ
พลโทสรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีที่อดีตรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจของรัฐบาลที่ผ่านมาให้ข้อมูลว่า มีการชัตดาวน์ด้านเศรษฐกิจแล้วทั้งหมด ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้อ่านข้อมูลแล้ว มีความกังวลว่า หากพี่น้องประชาชนไม่เข้าถึงข้อมูลจะส่งผลให้เกิดความวิตกกังวลและจะส่งผลต่อดัชนีความเชื่อมั่นได้ จึงได้สั่งการให้กระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้ข้อมูลเพื่อทำความเข้าใจตามความเป็นจริงต่อสถานการณ์ในปัจจุบัน
ทั้งนี้ กระทรวงการคลัง โดยนางสาวกุลยา ตันติเตมิท ในฐานะรองโฆษกกระทรวงการคลัง ได้แถลงข่าวชี้แจงกรณีที่มีอดีตรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับด้านเศรษฐกิจออกมาให้ข้อมูลเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2559 ว่า เศรษฐกิจไทยในช่วงปลายปีจะทรุดหนัก เนื่องจากการบริโภคภายในประเทศลดต่ำลงตามรายได้ประชาชนที่ลดลง การลงทุนภาคเอกชนยังอยู่ในระดับต่ำ และจำนวนนักท่องเที่ยวมีปริมาณลดลงมากนั้น ยืนยันว่า ข้อมูลดังกล่าวมีความคลาดเคลื่อนและไม่ตรงกับข้อเท็จจริง
สำหรับ เศรษฐกิจไทยในปัจจุบัน มีรายละเอียดดังนี้ 1. การบริโภคภาคเอกชนยังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการบริโภคในหมวดสินค้าคงทนสะท้อนจากยอดรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ในเดือนกันยายน 2559 ที่ขยายตัว 13.4% ต่อปี ตามรายได้ของเกษตรกรที่ปรับตัวดีขึ้น สะท้อนจากรายได้เกษตรกรที่แท้จริง ณ เดือนกันยายน 2559 ที่ขยายตัวอยู่ที่ 4.5% ต่อปี สำหรับยอดการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ในเดือนกันยายน 2559 ขยายตัว 3.2% ต่อปี โดยเฉพาะการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากฐานการใช้จ่ายภายในประเทศที่ขยายตัวถึง 5.2%ต่อปี
นอกจากนี้ ประชาชนยังคงมีความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจไทยสะท้อนได้จากดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวมในเดือนกันยายน 2559 ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 63.4 โดยเป็นการปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 และเป็นระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือน ซึ่งจะส่งผลต่อความมั่นใจในการใช้จ่ายของผู้บริโภคในระยะต่อไป
2. การลงทุนภาคเอกชนมีแนวโน้มเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น ส่วนหนึ่งมาจากมาตรการของรัฐบาลในการสนับสนุนการลงทุนในกลุ่ม 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย ซึ่งในเดือนมกราคม-กันยายน 2559 การขอรับการส่งเสริมใน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมายมีมูลค่าทั้งสิ้น 157.8 พันล้านบาท คิดเป็น 43% ของมูลค่าการขอรับการส่งเสริมโดยรวม โดยเป็นการขอรับการลงทุนในอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน 42.0 พันล้านบาท อุตสาหกรรมการเกษตร 38.5 พันล้านบาท อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ 28.0 พันล้านบาท อุตสาหกรรมปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ 23.0 พันล้านบาท อุตสาหกรรมท่องเที่ยว 13.1 พันล้านบาท และอุตสาหกรรมการแพทย์ 5.2 พันล้านบาท
3. ด้านสถานการณ์ท่องเที่ยวต่างประเทศล่าสุด พบว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่เดินทางเข้าประเทศไทยขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยในเดือนกันยายน 2559 (ข้อมูลเบื้องต้นจากกรมการท่องเที่ยว) มีจำนวน 2.4 ล้านคน ขยายตัว 17.8% ต่อปี ทำให้ในช่วง 9 เดือนแรกปี 2559 มีจำนวนนักท่องเที่ยว 24.8 ล้านคน ขยายตัว 12.4% ต่อปี สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวต่างชาติแล้วประมาณ 1,230.2 พันล้านบาท ขยายตัว 16.1% ต่อปี ทั้งนี้ จากการติดตามข้อมูลเบื้องต้นช่วง 1 – 16 ตุลาคม 2559 จำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่เดินมายังประเทศไทยยังคงขยายตัวได้ต่อเนื่อง
4. สำหรับในไตรมาสที่ 4 ของปี 2559 การดำเนินนโยบายการคลังและการเงินยังคงมีความต่อเนื่องเพื่อผลักดันเศรษฐกิจให้ขยายตัวได้ในช่วงที่เหลือของปี โดยปัจจุบันกระทรวงการคลังยังอีกหลายโครงการที่อยู่ระหว่างการดำเนินงานและมีเม็ดเงินที่จะอัดฉีดเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง เช่น มาตรการสนับสนุนการเบิกจ่ายของภาครัฐในไตรมาสที่ 4 ปี 2559 โครงการเพิ่มความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานรากตามแนวทางประชารัฐ และโครงการยกระดับศักยภาพหมู่บ้านเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากตามแนวประชารัฐประจำปีงบประมาณ 2560
นอกจากนี้ ยังมีมาตรการการเงินการคลังเพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ในระยะเร่งด่วน เพื่อสนับสนุนธุรกิจ SMEs ให้สามารถแข่งขันได้ เช่น (1) โครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Policy Loan) (2) โครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำเพื่อปรับเปลี่ยนเครื่องจักรและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสำหรับผู้ประกอบการ SMEs และ (3) โครงการค้ำประกันสินเชื่อเพื่อผู้ประกอบการ Micro Entrepreneurs ระยะที่ 2 เป็นต้น
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย