WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

คลัง หั่นเป้าจีดีพีปีนี้เหลือโต 2% จากเดิมคาดโต 2.6% หลังครึ่งแรกของปีการเมืองกดดันความเชื่อมั่น แต่เชื่อครึ่งปีหลังฟื้น หนุนส่งออกทั้งปีโต 1.5%

    คลัง หั่นเป้าจีดีพีปีนี้เหลือโต 2% จากเดิมคาดโต 2.6% หลังครึ่งแรกของปีการเมืองกดดันความเชื่อมั่น แต่เชื่อครึ่งปีหลังฟื้น หนุนส่งออกทั้งปีคาดโต 1.5% นำเข้า ติดลบ 5.2% แต่ชี้ ราคาน้ำมันโลกจากปัญหาในอิรัก-ยูเครน เป็นปัจจัยเสี่ยง  ส่วนจีดีพีปี58 มองโต 5% ตามทิศทาง ศก.โลก

    นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลังในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยในปี 2557 คาดจะสามารถขยายตัวได้ 2% (โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 1.5 – 2.5% ปรับลดลงจากการคาดการณ์เมื่อเดือนมีนาคม 2557 ที่ 2.6%

   โดยสาเหตุมาจากปัญหาทางการเมืองซึ่งทำให้อัตราการเจริญเติบโตในไตรมาสแรกของปีหดตัวมากกว่าคาดที่ -0.6% และสถานการณ์ทางการเมืองที่ยืดเยื้อได้ส่งผลกระทบต่อระดับความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและภาคธุรกิจในช่วงครึ่งปีแรก อย่างไรก็ดี ในช่วงครึ่งปีหลังคาดว่า ทิศทางที่ชัดเจนขึ้นของสถานการณ์ทางการเมืองจะส่งสัญญาณที่ดีต่อระดับ ความเชื่อมั่นของประชาชนและนักลงทุนตามนโยบายเร่งฟื้นฟูความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจและการดำเนินมาตรการที่ให้ความช่วยเหลือบรรเทาความเดือนร้อนของประชาชน ทั้งนี้ ความชัดเจนในเรื่องนโยบายส่งเสริมการลงทุนของภาครัฐรวมทั้งการเร่งรัดการใช้จ่ายภายใต้แผนการลงทุนภาครัฐที่แต่เดิมมีแนวโน้มล่าช้ากว่าแผนที่กำหนด รวมถึงการเร่งกระบวนการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2558 จะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะเป็นแรงขับเคลื่อนหลักที่ทำให้อุปสงค์ภายในประเทศขยายตัวได้ต่อเนื่อง

   สำหรับ มูลค่าการส่งออกสินค้าทั้งปี 2557 คาดว่าจะขยายตัวที่ร้อยละ 1.5 (โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ 0.5 ถึง 2.5%) โดยแม้ว่ามูลค่าการส่งออกสินค้าในครึ่งปีแรกจะลดลงต่ำกว่าที่คาด แต่ในครึ่งปีหลัง คาดว่าจะขยายตัวในทิศทางที่ดีขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ขณะที่การส่งออกภาคบริการในส่วนของการท่องเที่ยวคาดว่าจะขยายตัวดีขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว แม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ทางการเมืองในช่วงครึ่งปีแรก           

    ส่วนการนำเข้าในปี 2557 นั้น คาดว่าจะหดตัวที่ร้อยละ -5.2 (โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ (-6.2%) ถึง (-4.2%)) แม้จะมีการเร่งตัวสูงขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังตามการเร่งขึ้นของอุปสงค์ภายในประเทศที่เกี่ยวเนื่องกับการใช้จ่ายภาครัฐ

    สำหรับ เสถียรภาพเศรษฐกิจของไทยนั้น ในส่วนเสถียรภาพเศรษฐกิจภายในประเทศยังคงแข็งแกร่ง โดยคาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปี 2557 จะปรับสูงขึ้นจากปีก่อนหน้าเล็กน้อยมาอยู่ที่ร้อยละ 2.4 (โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 1.9 – 2.9) ตามแนวโน้มการทยอยปรับเพิ่มขึ้นของราคาต้นทุนวัตถุดิบที่ประสบปัญหาภัยแล้งและสินค้าที่ขาดแคลนวัตถุดิบโดยเฉพาะราคาอาหารสำเร็จรูป และบริการต่างๆ ได้เริ่มทยอยปรับขึ้นราคา เช่น  ค่าโดยสารรถไฟฟ้าใต้ดินที่ปรับเพิ่มขึ้นตั้งแต่เดือนกรกฎาคมเป็นต้นไป อย่างไรก็ดี นโยบายการตรึงราคาก๊าซ LPG และน้ำมันดีเซลตลอดจนมาตรการตรึงราคาสินค้าจะช่วยชะลออัตราเร่งของเงินเฟ้อ ขณะที่เสถียรภาพเศรษฐกิจภายนอกประเทศนั้น คาดว่า ดุลการค้าจะเกินดุลเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว เนื่องจากมูลค่าการส่งออกสินค้าที่ขยายตัวในอัตราเร่งกว่าการนำเข้าสินค้า ส่งผลให้ดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลประมาณ 13.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็น  ร้อยละ 3.3 ของ GDP (โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 3.1 -3.5 ของ GDP)”    

    นายกฤษฎา กล่าวต่อว่า ปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด อาทิ แนวโน้มอุปทานน้ำมันโลกที่เผชิญปัญหาขัดแย้งในประเทศอิรักและยูเครน ทั้งนี้ มองว่า เศรษฐกิจไทยจะสามารถขยายตัวได้มากกว่าร้อยละ 2 ต่อปี หากภาครัฐมีการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณปี 2557 และเตรียมความพร้อมในการใช้งบประมาณปี 2558 ในลักษณะเร่งรัดในช่วงแรกของปีงบประมาณ รวมทั้งส่งเสริมการส่งออกสินค้าให้เป็นไปตามเป้าหมายของกระทรวงพาณิชย์ และมีการกระตุ้น การท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น

    ขณะที่การส่งออกสินค้าของไทยในเดือนมิถุนายน 2557 นั้น นายกฤษฎา ระบุว่า มูลค่าการส่งออกสินค้าในรูปดอลลาร์สหรัฐมีมูลค่า 19.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวที่ร้อยละ 3.9 ต่อปี

    โดยในเดือนมิถุนายน 2557 มีตลาดส่งออกหลัก ได้แก่ สหภาพยุโรป กลุ่มประเทศ CLMV สิงคโปร์ และสหรัฐอเมริกา ขณะที่สินค้าส่งออกที่มีการขยายตัวดี ได้แก่ สินค้าในหมวดเครื่องใช้ไฟฟ้า ยานพาหนะ เกษตร และแร่และเชื้อเพลิง เป็นสำคัญ และในไตรมาสที่ 2 มีตลาดส่งออกหลัก ได้แก่ สหภาพยุโรป อินเดีย ตะวันออกกลาง ฟิลิปปินส์ ไต้หวัน สหรัฐอเมริกา และกลุ่มประเทศ CLMV โดยสินค้าส่งออกที่สำคัญในไตรมาสที่ 2 ปี 2557 ได้แก่ สินค้าในหมวดเกษตรกรรม อิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องใช้ไฟฟ้า

    สำหรับ มูลค่าการนำเข้าสินค้าในรูปดอลลาร์สหรัฐในเดือนมิถุนายน 2557 มีมูลค่าอยู่ที่ 18.0 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หดตัวร้อยละ -14.0 ต่อปี ส่งผลให้ดุลการค้าระหว่างประเทศในเดือนมิถุนายน 2557 เกินดุลที่ 1.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ  ด้านอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือน มิ.ย. 2557 อยู่ที่ 2.4% ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ร้อยละ 1.5 ต่อปี 

    ส่วนไตรมาสที่ 2 ปี 2557 การส่งออกสินค้าของไทยขยายตัวเล็กน้อยอยู่ที่ร้อยละ 0.3 ต่อปี จากไตรมาสก่อนหน้าที่หดตัวที่ร้อยละ -1.0   มูลค่าการนำเข้าสินค้าหดตัวร้อยละ -12.6 ต่อปี และในไตรมาสที่ 2 ปี 2557 ขาดดุล -0.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

   นายกฤษฎา กล่าวต่อ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในในไตรมาสที่ 2 ปี 2557 ขยายตัวที่ร้อยละ 2.5 ต่อปี เนื่องจากในช่วงไตรมาสที่ 2 มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาหมวดผักสดและปศุสัตว์เนื่องจากภัยแล้งที่ส่งผลให้อุปทานลดลง ประกอบกับอาหารสำเร็จรูป มีราคาเพิ่มสูงขึ้นจากการทยอยปรับราคาก๊าซหุงต้ม (LPG) ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ร้อยละ 1.7 ต่อปี

   ด้านนายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง  คาดการณ์ว่าอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ หรือ จีดีพี ปี 58 คาดว่าจะขยายตัวได้ 5% โดยมีแรงขับเคลื่อนจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจทั้งใน ที่มีการเดินหน้าโครงการต่างๆ และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงเศรษฐกิจต่างประเทศ ที่มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น

   "ถ้าโครงการเป็นไปตามเป้าหมาย เดินหน้าได้ต่อเนื่อง การใช้จ่ายเริ่มกลับมา เชื่อว่าจะส่งผลให้ปีหน้าฟื้นตัวได้ถึง 5% อย่างแน่นอน ขณะที่เศรษฐกิจโลกก็เริ่มทยอยปรับตัวดีขึ้นแล้ว ซึ่งจะช่วยหนุนให้การส่งออกกลับมาเดินเครื่องได้เต็มที่" นายรังสรรค์ กล่าว

สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!