- Details
- Category: คลัง
- Published: Thursday, 22 September 2016 12:30
- Hits: 4383
คลัง มั่นใจคลอดไทยแลนด์ฟิวเจอร์สฟันด์ ช่วงปลายปีนี้-ต้นปีหน้า พร้อมชงมาตรการช่วยคนรายได้น้อยเข้าครม.สัปดาห์หน้า
รมช.คลังมั่นใจไทยแลนด์ฟิวเจอร์สฟันด์ คลอดได้ช่วงปลายปีนี้-ต้นปีหน้าอย่างแน่นอน ชี้มีเงินไหลเข้าตลาดพันธบัตรไทยต่อเนื่องโดยเฉพาะกอง REIT หลังผลตอบแทนจากดบ.ทั่วโลกยังต่ำ ด้านปลัดคลัง ระบุมีมีมาตรการคลังจ่อเข้าครม.เพียบ คาดมาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยเข้าครม.สัปดาห์หน้า
นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รมช.คลัง เปิดเผยในโอกาสเป็นประธานพิธีเปิดงานสัมมนานานาชาติ The 3rd Asean Fixed Income Summit : AFIS จัดโดยบรรษัทตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัย หรือ บตท. ว่าความคืบหน้ากองทุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทยมูลค่ากองทุน 100,000 ล้านบาท หรือ ไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์นั้น ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาตรวจสอบในรายละเอียด ซึ่งเชื่อมั่นว่า จะสามารถเห็นกองทุนฯดังกล่าวออกมาได้ในช่วงปลายปีนี้หรืออย่างช้าสุด คือในช่วงต้นปีหน้า อย่างไรก็ตาม มองว่า กองทุนฯดังกล่าวจะสามารถดึงดูดนักลงทุนไทยและต่างชาติเข้ามาลงทุนได้อย่างแน่นอน เนื่องจาก กองทุนดังกล่าวการันตีผลตอบแทน และมีรายได้หรือสินทรัพย์หนุนหลังที่แน่นอน
โดยในภาวะเศรษฐกิจโลกที่มีความไม่แน่นอนในเรื่องของการดำเนินนโยบายการเงิน ประกอบกับอัตราดอกเบี้ยที่ยังอยู่ในระดับต่ำในปัจจุบัน ส่งผลให้มีเงินทุนเคลื่อนย้ายเข้ามาในกลุ่มประเทศที่ให้อัตราผลตอบแทนสูง โดยเฉพาะการเข้ามาลงทุนในกลุ่มกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ หรือ REIT
“ที่ผ่านมาเราเห็นนักลงทุนสนใจเข้ามาแสวงหาผลิตภัณฑ์ทางการเงินของไทยอย่างต่อเนื่อง เพราะให้ผลตอบแทนที่สูงเมื่อเทียบกับประเทศอื่น เช่น ญี่ปุน ที่ขณะนี้อัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ยังติดลบ ทำให้มีเงินทุนเคลื่อนย้ายไหลเข้ามาลงทุนในบ้านเราโดยเฉพาะพันธบัตร”นายวิสุทธิ์ กล่าว
สำหรับ ภาวะเศรษฐกิจไทยในปัจจุบันยอมรับว่า เติบโตได้เล็กน้อยเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการใช้จ่ายภาครัฐเริ่มดีขึ้น การท่องเที่ยวขยายตัวได้ต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ภาวะเศรษฐกิจโลกที่ยังมีความไม่แน่นอน ขณะที่อัตราดอกเบี้ยยังอยู่ในระดับต่ำ ถือเป็นความท้าทายของนักลงทุนในระยะกลางและยาว ซึ่งปีจจัยดังกล่าวจะส่งผลให้นักลงทุนเริ่มกระจายความเสี่ยงมากขึ้น เห็นได้จากที่ผ่านมาอัตราดอกเบี้ยในพันธบัตรรัฐบาลให้ผลตอบแทนต่ำและยังมีปริมาณที่จำกัด ส่งผลให้นักลงทุนเริ่มลงทุนในตราสารอื่นๆที่มีผลตอบแทนสูงกว่ามากขึ้น เช่น ตราสาร MBS หรือ Mortgage Back Securities รวมไปถึงกอง REIT เนื่องจากมีความน่าสนใจในการลงทุน เป็นต้น
นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ส่วนการประชุมคณะรัฐมนตรี หรือ ครม. ในวันพรุ่งนี้จะมีมาตรการอะไรจากกระทรวงการคลังเข้าครม.บ้างนั้น น่าจะยังไม่มีมาตรการเพิ่มเติม เนื่องจากขณะนี้กระทรวงการคลังจะร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหามาตรการในการช่วยเหลือผู้ที่มีรายได้น้อย ที่มาลงทะเบียนรับรัฐสวัสดิการเอาไว้ ซึ่งคาดว่จะได้เห็นในช่วงสัปดาห์หน้า ซึ่งในส่วนของมาตรการแรกนั้นจะเห็นมาตรการที่จะให้กับกลุ่มแรกเกิด และจะมีมาตรการทางสังคม และสวัสดิการด้านคมนาคมออกมาอย่างต่อเนื่อง
นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมากระทรวงการคลังได้เสนอมาตรการเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อเข้าครม.ไปหลายมาตรการแล้ว ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาของเลขาสำนักนายกรัฐมนตรี ก่อนที่จะเสนอเข้าครม. โดยในช่วงสัปดาห์หน้าอาจจะได้เห็นมาตรการช่วยเหลือผู้ที่มีรายได้น้อยออกมา เพื่อเป็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย