- Details
- Category: คลัง
- Published: Thursday, 22 September 2016 12:28
- Hits: 4053
ปลัดคลัง แย้มเสนอ 2 มาตรการช่วยผู้มีรายได้น้อย ให้รมว.คลังพิจารณา ก่อนชงเข้าครม. หวังใช้ทันช่วง Q4/59
ปลัดคลัง แย้มเสนอ 2 มาตรการช่วยผู้มีรายได้น้อย ให้รมว.คลังพิจารณา ก่อนชงเข้าครม. หวังใช้ทันช่วง Q4/59 ชี้ไม่จำเป็นต้องออกแผนกระตุ้นศก.เพิ่ม หลังศก.เริ่มฟื้น เร่งเอกชนลงทุนก่อนหมดโปรลดหย่อนภาษี 2 เท่าสิ้นปีนี้
นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้ตนได้เตรียม 2 มาตรการเพื่อช่วยเหลือผู้ที่มีรายได้น้อยที่มาลงทะเบียนรับสวัสดิการประมาณ 8.3 ล้านคน ซึ่ง 2 มาตรการดังกล่าวนั้นจะเป็นมาตรการเก่า 1 มาตรการ และเป็นมาตรการใหม่ 1 มาตรการ ซึ่งได้ดำเนินการส่งให้นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลังพิจารณา ก่อนเสนอเข้าคณะรัฐมนตรี หรือ ครม.อนุมัติอีกครั้ง ซึ่งในส่วนของรายละเอียดคงไม่สามารถเปิดเผยได้ในขณะนี้ โดยหวังว่ามาตรการดังกล่าวจะออกมาเพื่อให้ทันในช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้
“รายละเอียดคงยังบอกไม่ได้ แต่จะเป็นในส่วนของของสวัสดิการที่เกี่ยวกับรายได้ และอีกมาตรการคือ เกี่ยวกับการสร้างความมั่นคง มั่นใจเกี่ยวกับการดำเนินชีวิตผู้ที่มีรายได้น้อย ส่วนงบประมาณที่จะใช้ในการดำเนินการนั้น จะมีการหารือกับผู้อำนวยการสำนักงบประมาณอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งการช่วยเหลือในครั้งนี้ จะลงเฉพาะกลุ่มมากขึ้น มีเป้าหมายที่ชัดเจนเพื่อดูแลคุณภาพชีวิตผู้มีรายได้น้อย เพราะที่ผ่านมานั้นงบประมาณการดำเนินการมาตรการดังกล่าวจะเป็นการกระจายหมดซึ่งทำให้เหมือนเป็นเบี้ยหัวแตก เพราะลงไปไม่ถึงกลุ่มเป้าหมาย ”นายสมชัย กล่าว
นายสมชัย กล่าวว่า ในส่วนของมาตรการรถเมล์ รถไฟฟรีนั้น เชื่อว่า คณะกรรมการในส่วนของกระทรวงคมนาคม อยู่ระหว่างการพิจารณา เพื่อดำเนินการออกมมาเป็นตั๋วร่วม ซึ่งคงต้องรออีกสักระยะหนึ่ง ในขณะที่มาตรการเพิ่มเงินอุดหนุนผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยนั้น อยู่ระหว่างการดำเนินการเช่นเดียวกัน
สำหรับ ภาพรวมของเศรษฐกิจในเวลานี้ มองว่า เริ่มมีสัญญาณการฟื้นตัวดีดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม แต่สิ่งที่จะต้องทำหลังจากนี้ คือ การออกมาตรการเพื่อดูแลพี่น้องประชาชนที่มีรายได้น้อย ซึ่งการจ่ายเงินนั้นจะเป็นการเข้าสู่ระบบอิเล็กทรอนิกส์ หรือ Prompay เป็นหลัก ขณะเดียวกันอยากให้ภาคเอกชนลงทุนมากขึ้น ทั้งในส่วนของการสร้างโรงงาน การขยายธุรกิจเพิ่ม การปรับเปลี่ยนเครื่องจักร อิเล็กทรอนิกส์ คอมพิวเตอร์ เป็นต้น เนื่องจากมาตรการลงทุนดังกล่าวและสามารถนำมาหักลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า จะหมดภายในสิ้นปีนี้แล้ว
“ตนมองว่า ในเดือนกันยายนนี้จะเห็นการลงทุนของภาคเอกชนเพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก เพราะใกล้ที่จะหมดเวลาแล้ว โดยกระทรวงการคลังพยายามโปรโมทให้มาลงทุนในปีนี้ หากมีแผนที่จะลงทุนในปีหน้าก็อยากให้ขยับเวลามาเร็วขึ้น เพื่อที่จะได้สิทธิประโยชน์จากมาตรการดังกล่าวด้วย”นายสมชัย กล่าว
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย