- Details
- Category: คลัง
- Published: Sunday, 03 July 2016 10:40
- Hits: 2645
พาณิชย์เตรียมเปิดให้จดทะเบียนสัญญาหลักประกันทางธุรกิจ 4 ก.ค.นี้หลังกม.มีผลบังคับใช้
นายกฤษฎาจีนะวิจารณะผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลังเปิดเผยว่าในวันที่ 4 กรกฎาคม 2559 สำนักงานทะเบียนหลักประกันกรมพัฒนาธุรกิจการค้ากระทรวงพาณิชย์จะเริ่มเปิดให้จดทะเบียนสัญญาหลักประกันทางธุรกิจได้ หากผู้ประกอบธุรกิจมีทรัพย์สินที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจที่ใช้ในการประกอบธุรกิจ ก็สามารถนำมาเป็นหลักประกันการขอสินเชื่อกับสถาบันการเงินได้
นอกจากนี้ กระทรวงการคลังได้เสนอร่างกฎกระทรวงกำหนดให้บุคคลอื่นเป็นผู้รับหลักประกัน พ.ศ. .... ซึ่งเป็นการกำหนดให้มีผู้รับหลักประกันเพิ่มเติมนอกเหนือจากสถาบันการเงิน เพื่อเพิ่มช่องทางให้ผู้ประกอบธุรกิจสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้มากขึ้น โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาซึ่งร่างกฎกระทรวงนี้จะเป็นการกำหนดให้บุคคลอื่นสามารถเข้ามาเป็นผู้รับหลักประกันตามกฎหมายได้เพิ่มเติมเช่น นิติบุคคลเฉพาะกิจที่มีวัถตุประสงค์เพื่อการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์บริษัทบริหารสินทรัพย์ตามกฎหมายว่าด้วยบริษัทบริหารสินทรัพย์ และผู้ประกอบธุรกิจแฟคตอริ่งเป็นต้น
ทั้งนี้พระราชบัญญัติหลักประกันทางธุรกิจพ.ศ. 2558 ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2558 และจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 2 กรกฎาคม 2559 เพื่อให้มีการนำทรัพย์สินที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจที่ไม่สามารถจำนองหรือจำนำมาใช้เป็นหลักประกันการชำระหนี้ในลักษณะที่ผู้ให้หลักประกันไม่ต้องส่งมอบการครอบครองทรัพย์สินที่เป็นหลักประกันให้แก่ผู้รับหลักประกัน อันจะเป็นการเพิ่มช่องทางในการนำทรัพย์สินมาเป็นหลักประกันทำให้ผู้ประกอบธุรกิจเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้มากขึ้นโดยสามารถนำกิจการสิทธิเรียกร้องสินค้าคงคลังวัตถุดิบในการผลิตสินค้าและทรัพย์สินทางปัญญามาเป็นหลักประกันได้อีกทั้งพระราชบัญญัติฯนี้จะมีระบบบังคับหลักประกันที่รวดเร็วมีประสิทธิภาพเพื่อคุ้มครองสิทธิของผู้ให้หลักประกันและยังเป็นการลดภาระของศาลและเจ้าพนักงานบังคับคดีด้วย
"กฎหมายหลักประกันทางธุรกิจเป็นกฎหมายที่เปิดโอกาสและช่องทางให้ภาคธุรกิจสามารถเข้าถึงแหล่งสินเชื่อได้มากขึ้นโดยเฉพาะผู้ประกอบธุรกิจ SMEs ซึ่งเป็นภาคธุรกิจที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง ส่วนสถาบันการเงินก็จะมีทางเลือกในการรับหลักประกันได้เพิ่มมากขึ้น มีความมั่นใจในการให้สินเชื่อเนื่องจากหลักประกันมีกฎหมายรองรับอย่างชัดเจน รวมถึงกระบวนการบังคับหลักประกันตามกฎหมายมีความรวดเร็วขึ้นไม่ทำให้มูลค่าของหลักประกันด้อยค่าลง และเมื่อกฎหมายมีผลใช้บังคับแล้วก็จะทำให้อันดับของ Ease of Doing Business เพิ่มมากขึ้น อันจะแสดงให้เห็นว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่มีความเหมาะสมในการจัดตั้งธุรกิจ และเป็นประเทศที่น่าลงทุนซึ่งจะส่งผลดีต่อความสามารถในการแข่งขันของประเทศ"ผอ.สศค.กล่าว
อินโฟเควสท์