- Details
- Category: คลัง
- Published: Sunday, 03 April 2016 10:49
- Hits: 2598
รมว.คลังยันรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินเข้าบอร์ด PPP เดือนนี้ ส่วนรถไฟไทย-จีน คาดเริ่มก่อสร้าง ก.ค.-ส.ค. นี้
รมว.คลังยันรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินเข้าบอร์ด PPP เดือนนี้ ก่อนชงเข้าครม.ใน 1-2 สัปดาห์ต่อไป ส่วนรถไฟไทย-จีนคาดเริ่มก่อสร้าง ก.ค.-ส.ค. นี้ พร้อมเตรียมผุดโครงการพี่ช่วยน้อง ให้ธุรกิจใหญ่อุ้มธุรกิจเล็ก หักภาษีได้ 2 เท่า คาดเข้าครม.พ.ค.นี้
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยในงาน SET 100 ผนึกกำลังประชารัฐ ว่า ภาครัฐได้เร่งการลงทุน เพื่อนำเอกชน เช่น โครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน การลงทุนรถความเร็วสูงไทย-จีน ที่จะดำเนินการก่อสร้างได้ตั้งแต่ก.ค.-ส.ค.นี้เป็นต้นไป ด้านรถไฟฟ้าสายสีชมพู-เหลืองก็เดินหน้าเขาครม.เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งเชื่อว่าจะได้รับความเชื่อมั่นและลงทุนตามจากภาคเอกชนอย่างแน่นอน เพราะรัฐให้สิทธิประโยชน์จำนวนมากแล้ว
ทั้งนี้ ในเดือนเม.ย.นี้ จะนำรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ซึ่งจะเป็นสายที่สำคัญมากเข้าคณะกรรมการเอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ หรือ PPP เข้าเสนอการพิจารณา หลังจากนั้น 1-2 สัปดาห์จะนำเข้าพิจารณาในครม.ต่อไป ซึ่งเชื่อว่าจะได้รับความสนใจจากภาคเอกชนที่จะเข้ามาร่วมลงทุนด้วย
นอกจากนี้ คณะกรรมการประชารัฐอยู่ระหว่างทำรายละเอียด โครงการพี่ช่วยน้อง โดยให้บริษัทขนาดใหญ่ที่ที่เข้าไปช่วยบริษัทขนาดเล็ก หรือรายย่อย เช่น ช่วยพัฒนาตลาด พัฒนาเทคโนโลยี สอนการทำบัญชี สามารถนำค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานสามารถนำไปหักลดหย่อนทางภาษีได้ 2 เท่า โดยคาดว่าจะนำเสนอเข้าครม.ในช่วงเดือนพ.ค.นี้
โดยแนวคิดของรัฐบาลในการทำงานประชารัฐ เพื่อต้องการให้ทุกภาคส่วนของประเทศก้าวไปข้างหน้าได้พร้อมเพียง โดยรัฐบาลแบ่งเป็นการช่วยเหลือกลุ่มผู้ที่มีรายได้น้อย หรือได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัว โดยการอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบ ส่วนในระยะที่ 2คือ เน้นการสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มเอสเอ็มอีให้มีความแข็งแกร่ง จึงเกิดโครงการ เอสเอ็มอีกลุ่มเริ่มต้นขึ้นมา ที่คาดว่าจะเติบโตป็นรายใหญ่ได้ในอนาคต
“สิ่งที่เราเร่งทำตอนนี้ คือ กลุ่มเอสเอ็มอีขนาดเล็กๆ เราพยายามจูงใจด้วยดอกเบี้ยต่ำที่ 4% ซึ่งเขาสนใจมากเพราะไม่เคยได้รับดอกเบี้ยถูกขนาดนี้มาก่อน แต่ในกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่เขาอาจไม่สนใจอะไร เพราะว่าเคยได้ถูกกว่านี้” นายอภิศักดิ์กล่าว
อย่างไรก็ตาม การดำเนินการต่างๆ รัฐบาลจะใช้งบประมาณอย่างเหมาะสม เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาฐานะทางการคลังในอนาคต แม้ปัจจุบันหนี้ภาครัฐต่อจีดีพีจะอยู่ที่ 44% เท่านั้น
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย