- Details
- Category: คลัง
- Published: Thursday, 31 March 2016 00:30
- Hits: 4264
คลังมั่นใจมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจช่วงสงกรานต์ ต่ออายุมาตรการท่องเที่ยว จะกระตุ้นการบริโภค - เพิ่มยอดขายให้ผู้ประกอบการ
รายงานข่าวจากสำนักวิชาการแผนภาษี กรมสรรพากร กระทรวงการคลัง เปิดเผยว่าในการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2559 คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงเทศกาลสงกรานต์ตามข้อเสนอของกระทรวงการคลัง ที่กำหนดให้ผู้เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสามารถนำรายจ่าย 1) ค่าอาหารและเครื่องดื่มแต่ไม่รวมถึง การซื้อสุรา เบียร์ และไวน์ ที่จ่ายให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหาร ภัตตาคาร หรือผู้ประกอบธุรกิจโรงแรม 2) ค่าบริการที่จ่ายให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวสำหรับการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ หรือ 3) ค่าที่พักในโรงแรมที่จ่ายให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจโรงแรม มาหักเป็นค่าลดหย่อนในการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้ตามจำนวนที่จ่ายจริงแต่รวมกันทั้งหมดแล้วไม่เกิน 15,000 บาท ทั้งนี้ ต้องซื้อสินค้าหรือรับบริการ และชำระราคาค่าสินค้าหรือบริการดังกล่าว ในระหว่างวันที่ 9 เมษายน 2559 ถึงวันที่ 17 เมษายน 2559 จากผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม และต้องมีหลักฐานการซื้อสินค้าหรือรับบริการเป็นใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปตามมาตรา 86/4 แห่งประมวลรัษฎากร
มาตรการนี้จะช่วยกระตุ้นให้เกิดการบริโภคและท่องเที่ยวภายในประเทศ เพิ่มยอดขายให้แก่ผู้ประกอบการที่อยู่ในระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม อันจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงเทศกาลสงกรานต์ อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมให้ประชาชน กลับไปเยี่ยมบุพการี และญาติผู้ใหญ่อันแสดงถึง ความรัก ความกตัญญู และความเอื้ออาทรที่มีต่อกันในครอบครัวซึ่งคนไทยได้ยึดถือปฏิบัติสืบเนื่องกันมาตามประเพณีเดิมของไทย
นอกจากนี้ ในการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2559 คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบตามข้อเสนอของกระทรวงการคลังเกี่ยวกับมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยว และจัดอบรมสัมมนาภายในประเทศ ดังนี้
1. ให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่มีการจัดโครงการอบรมสัมมนาภายในประเทศให้แก่ลูกจ้าง ทั้งกรณีที่ดำเนินการเองและกรณีจ้างผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวตามกฎหมายว่าด้วยธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ สามารถนำรายจ่ายจากการจ่ายค่าห้องสัมมนา ค่าห้องพัก ค่าขนส่งหรือรายจ่ายอื่นที่เกี่ยวข้อง รวมถึงรายจ่ายที่ได้จ่ายให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวตามกฎหมายว่าด้วยธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์เพื่อการอบรมสัมมนาดังกล่าว นำมาหักเป็นรายจ่ายในการคำนวณภาษีได้เป็นจำนวน 2 เท่าของที่จ่ายจริง ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2559 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2559
2. ให้ผู้เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสามารถนำค่าใช้จ่ายจากการจ่ายเป็นค่าบริการให้แก่ผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยวตามกฎหมายว่าด้วยธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ หรือที่ได้จ่ายเป็นค่าที่พักในโรงแรมให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจโรงแรมตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรม สำหรับการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ นำมาหักเป็นค่าลดหย่อนภาษีได้เท่าที่จ่ายจริงแต่ต้องไม่เกิน 15,000 บาท ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2559 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2559
ทั้งนี้ มาตรการดังกล่าวจะเป็นการกระตุ้นอุปสงค์ในการใช้บริการธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ ซึ่งส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในวงกว้าง โดยจะมีผลกระทบต่อการจัดเก็บภาษีเล็กน้อย
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย