- Details
- Category: คลัง
- Published: Saturday, 19 March 2016 21:51
- Hits: 3515
สมคิด รับศก.โลกยังชะลอ จี้รัฐวิสาหกิจเร่งเบิกจ่าย กระตุ้นลงทุนในปท.หลังไตรมาส 2 พลาดเป้า
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมผู้บริหารหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ 14 แห่งว่า ได้กำชับให้เร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณในช่วงไตรมาส 2 หลังจากการเบิกจ่ายงบประมาณไม่เป็นไปตามเป้า โดยเชื่อว่าหากเร่งรัดอย่างเต็มที่เม็ดเงินลงทุนในช่วงไตรมาสที่ 3 และไตรมาสที่ 4 จะไม่มีปัญหา และยังตั้งเป้าการเบิกจ่ายเม็ดเงินรัฐวิสาหกิจว่ายังเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้
"อยากให้เขาเร่งในช่วงไตรมาสที่ 2 ก่อน เพราะเม็ดเงินค่อนข้างเบาบาง วันนี้กำชับค่อนข้างแรง แต่ทุกฝ่ายให้ความร่วมมือดี และถือเป็นหน้าที่เขา เพราะเขารู้ว่าเศรษฐกิจโลกไม่ค่อยดี เราเชื่อมั่นว่าเม็ดเงินลงทุนไตรมาส 3 และ 4 ไม่น่าจะมีปัญหาถ้าเราเร่งแบบนี้"นายสมคิด กล่าว
พร้อมระบุว่า ได้ชี้แจงกับผู้บริหารหน่วยงานรัฐวิสาหกิจว่าในช่วงนี้เศรษฐกิจโลกยังไม่ดี ทั้งเศรษฐกิจทั้งจีนและญี่ปุ่น จึงควรเร่งรัดการเบิกจ่ายให้เร็ว พร้อมทั้งได้สอบถามความคืบหน้าและให้คำแนะนำแก่หน่วยงานรัฐวิสาหกิจแต่ละแห่ง เช่น บมจ.ปตท. (PTT) ซึ่งได้ให้คำแนะนำให้มีการเพิ่มการลงทุนในประเทศมากขึ้น ขณะที่ ปตท.เองมีแผนจะไปลงทุนในต่างประเทศ แต่จากภาวะเศรษฐกิจโลกทำให้ต้องมีการชะลอการลงทุนในต่างประเทศไปก่อน
สำหรับ การท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย (ทอท.) หรือ AOT นั้น ได้กำชับให้ ทอท.ไปจัดทำแผนงานขยายสนามบินทุกสนามบินเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่เพิ่มมากขึ้น นอกเหนือจากโครงการสุวรรณภูมิเฟส 2 เพียงอย่างเดียว
ส่วนด้านกรมทางหลวงนั้น ได้มีการรายงานความคืบหน้าโครงการมอเตอร์เวย์ 3 สาย คือ สายพัทยา-มาบตาพุด, สายบางปะอิน-นครราชสีมา และบางใหญ่-กาญจนบุรี ซึ่งทุกเส้นยังเป็นไปตามแผนงาน
ส่วนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลืองและสายสีชมพู เตรียมเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในเดือนนี้ ส่วนสายสีน้ำเงินจะเข้าสู้ที่ประชุมคณะกรรมนโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ(PPP) ในเดือนนี้
รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการลงทุนภาคเอกชนว่า ในช่วงเศรษฐกิจโลกไม่ดี แต่ไม่อยากให้เอกชนกังวลมากจนเกินไป และควรใช้จังหวะนี้ในการปฏิรูปตัวเอง พร้อมกับเห็นว่าควรจะลงทุนเพื่อพัฒนาธุรกิจของตัวเอง
นายสมคิด กล่าวด้วยว่า กระทรวงคลังเตรียมนำเสนอโครงการประชารัฐเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจรากหญ้าสู่ฐานราก ซึ่งจะเป็นเม็ดเงินลงสู่ภูมิภาคผ่านไปยังกำนันและผู้ใหญ่บ้าน โดยใช้เงินจากงบกลางวงเงิน 3 หมื่นล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะนำเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีใน 1-2 สัปดาห์จากนี้
อินโฟเควสท์