รวบรัดตั้งไทยแลนด์ฟิวเจอร์ รองรับทำเมกะโปรเจกท์ 'คลัง'ชี้ไม่ต้องผ่านสนช.

    แนวหน้า : กองทุน'ไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์' ส่อคลอดก่อนกำหนด 'ผอ.สคร.' ชี้จัดตั้งภายใต้กองทุนหมุนเวียนได้ ไม่ต้องตั้ง เป็นการเฉพาะ โดดข้ามขั้นตอน สนช.ช่วยร่นเวลาเร็วขึ้น

    นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ผู้อำนวยการ สำนักงาน คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) กระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงการจัดตั้งโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย (ไทยแลนด์ ฟิวเจอร์ ฟันด์) วงเงิน 1 แสนล้านบาท ว่า จะดำเนินการได้รวดเร็วขึ้น เนื่องจากได้ข้อสรุปว่าสามารถจัดตั้งกองทุนภายใต้ พ.ร.บ.กองทุนหมุนเวียนได้ จากเดิมคิดว่าต้องออก พ.ร.บ.ตั้งกองทุนเป็นการเฉพาะ ซึ่งต้องใช้เวลาในการดำเนินการนาน เพราะ ต้องให้ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เห็นชอบก่อน

    ทั้งนี้ สคร. ได้พิจารณาแล้วว่าการจัดตั้งกองทุนภายใต้ พ.ร.บ.เงินทุนหมุนเวียน กองทุนยังสามารถรับเงินอุดหนุนจากเงินงบประมาณได้หากมี ความจำเป็นต้องนำเงินมาจ่ายปันผลให้ได้ ตามขั้นต่ำที่กองทุน รับประกันไว้ให้กับผู้ถือ หน่วยลงทุน ทำให้นักลงทุน มีความมั่นใจมากขึ้น เพราะในช่วงเริ่มต้นโครงการที่อยู่ในกองทุนอาจจะเป็นโครงการใหม่ยังไม่มีรายได้เข้ามาในช่วงเริ่มต้น

     นอกจากนี้ หากนักลงทุนมีความสนใจลงทุนในกองทุนมากกว่า 1 แสนล้านบาท กองทุนก็พร้อมที่จะขยายกองทุน อย่างไรก็ตาม ก็ต้องให้สอดคล้องกับโครงการที่จะลงทุนว่า มีความพร้อมที่จะดำเนินการหรือไม่

     นายเอกนิติ กล่าวว่า ภายใน เดือนก.พ.นี้การจัดตั้งกองทุนจะดำเนินการเสร็จใน 3 ส่วนที่สำคัญ อันดับแรกวิธีการจัดตั้งกองทุนสรุปได้แล้ว อันดับสองสามารถว่าจ้าง ที่ปรึกษาทางการเงิน และอันดับสามทางกระทรวงคมนาคม สามารถสรุป โครงการลงทุนขนาดใหญ่ (เมกะโปรเจกท์) ที่จะนำเข้ามาไว้ในกองทุนได้

    นอกจากนี้ ในต้นเดือนมี.ค. กระทรวงการคลัง จะหารือกับ กระทรวงคมนาคม รวมถึง ที่ปรึกษาทางการเงิน เพื่อสรุปโครงการที่จะเข้ามาอยู่ในกองทุน รวมถึงทำโครงสร้างทางการเงิน และส่งเรื่องยื่นจดทะเบียน กองทุนกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาด หลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ซึ่ง สคร. คาดว่าจะตั้งกองทุนได้เสร็จภายในเดือนมิ.ย. 2559 นี้

      โดยที่ผ่านมานักลงทุนประเภทสถาบันการเงินจากประเทศจีน และตะวันออกกลางให้ความสนใจลงทุนในกองทุนไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์เป็นจำนวนมาก เพราะเห็นว่าเศรษฐกิจไทยอยู่ในช่วงฟื้นฟูและต้องลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเป็นจำนวนมาก ในส่วนของโครงการกระทรวงคมนาคมมีโครงการลงทุนใน 5 ปี มีมูลค่า 1.7 ล้านล้านบาท

   นายเอกนิติ กล่าวว่า สำหรับ ปี 2559 มีโครงการลงทุน 3.2 แสนล้านบาท คาดว่าจะมีการ เบิกจ่ายได้ 75% โดยในปีงบประมาณ 2559 คาดว่ารัฐวิสาหกิจจะส่ง รายได้ให้รัฐได้ตามเป้าหมาย 1.2 แสนล้านบาท