สคร.ไล่บี้รัฐวิสาหกิจใช้งบหวัง 3 แสนล้านปลุกศก.ยิ้มจีดีพี'SME'พุ่ง 5.3%

     ไทยโพสต์ * สคร.บี้รัฐวิสาหกิจตะลุยใช้เงินตามเป้า 3.2 แสนล้านบาท รับมีล่าช้าบ้าง เหตุเป็นโครงการขนาดใหญ่ สสว.หน้าบานจีดีพีเอสเอ็มอีปี 58 โต 5.3% โชว์สัดส่วนเอสเอ็มอีพุ่ง 41% ของจีดีพี

    นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยว่า ในปี 2559 สคร.ดูแลการเบิกจ่ายงบลงทุนทั้ง หมดของรัฐวิสาหกิจจำนวน 3.2 แสนล้านบาท โดยตั้งเป้าเบิกจ่ายให้ได้เท่ากับเป้าหมายการเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐบาล คือไม่ต่ำกว่า 75% เพราะเป็นส่วนสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจในปีนี้

     ทั้งนี้ ในปัจจุบันรัฐวิสาหกิจได้เบิกจ่ายงบลงทุนไปแล้ว 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งอาจดูไม่มาก เพราะงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจที่ สคร.ดูแลมีทั้งการเบิกจ่ายตามปีงบประมาณ และปีปฏิทินโดยในส่วน ของการเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจตามปีงบประมาณถือว่าทำได้ตามเป้าหมายที่วางไว้

     "สคร.ยอมรับว่า ขณะนี้การเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจมีความล่าช้าอยู่บ้างเนื่องจากเป็น โครงการขนาดใหญ่  โดยเฉพาะโครงการของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ซึ่งทาง สคร.ได้ประสานกับ ร.ฟ.ท.อย่างใกล้ชิด ซึ่งในตอนนี้เริ่มมีการประมูลโครง การรถไฟรางคู่ออกมาต่อเนื่อง" นายเอกนิติกล่าว

     นายเอกนิติ กล่าวอีกว่า ในส่วนของการนำส่งรายได้รัฐ วิสาหกิจปีงบประมาณ 2559 ยังคาดว่าจะได้ตามเป้าหมาย 1.2 แสนล้านบาท แม้ว่าราคาน้ำมันจะตกลงมาทำให้มีผลกับผลประกอบการของ บมจ.ปตท.ลดลง ทำให้เงินปันผลให้กับกระทรวงการคลังได้น้อยลง แต่ก็มีผลประกอบการของรัฐวิสาหกิจหลายแห่งดีกว่าที่คาดไว้ เช่น บมจ.การท่าอากาศยานไทย (ทอท.) เนื่องจากมีนักท่องเที่ยวเข้ามาในประเทศเป็นจำนวนมาก ทำให้รายได้ ทอท.เพิ่มขึ้น

     นอกจากนี้ ขณะนี้ สคร.เร่งทำความเข้าใจกับหน่วยงานต่างๆ ให้มีความเข้าใจเกี่ยวกับโครงการความโปร่งใสในการก่อสร้างภาครัฐ (CoST) โดยให้หน่วยงานที่มีโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่มีการเปิดเผยข้อมูลโครงการให้กับสาธารณะชนรับทราบ และช่วยตรวจสอบการดำเนินโครงการลดปัญหาการทุจริตคอร์รัปชัน ซึ่งขณะนี้ สคร.ได้ทำโครงการนำร่องกับ ทอท. ในการสร้างสนามบินสุวรรณภูมิเฟสสอง

      สำหรับ การประชุมคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ที่ผ่านมาได้มีการเห็นชอบในการควบคุมการตั้งบริษัทลูกของรัฐวิสาหกิจ โดยขณะนี้มีบริษัทลูกอยู่ 120 แห่ง

     ด้าน นางสาลินี วังตาล ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยว่า ปี 2559 สสว.ประมาณการผลิตภัณฑ์มวลรวม (จีดีพี) ของผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ภาพรวมยังคงขยายตัวอยู่ สูงที่ระดับ 5-5.5% สูงว่าจีดีพีของประเทศที่สำนักงานคณะกรรม การพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) คาดปีนี้โต 2.8-3.8% และเป็นการเติบโตต่อเนื่องจากปี 2558 ที่จีดีพีเอสเอ็มอีโต 5.3% คิดเป็นมูลค่า 5.56 ล้านล้านบาท

     ทั้งนี้ เป็นผลจากการที่จีดีพีเอสเอ็มอีเติบโตติดต่อกัน 6 ไตรมาส ล่าสุดไตรมาส 4/2558 โตได้ 5.4% ทำให้สัดส่วนจีดีพีเอสเอ็มอีปีที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 41.1% ของจีดีพีประเทศ นับเป็นการปรับขึ้นสูงกว่าระดับ 40% ครั้งแรกและสูงสุดในรอบ 7 ปี โดย สสว.ตั้งเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนจีดีพีเอสเอ็มอีปีนี้อยู่ที่ 42% และขยับขึ้นไปอยู่ที่ 45% ให้ได้ภายในปี 2564