- Details
- Category: คลัง
- Published: Monday, 02 November 2015 22:40
- Hits: 3618
รมช.คลัง เผยสรุปค่าเช่า-ค่าธรรมเนียมพื้นที่เขตศก.พิเศษ เรียบร้อยแล้ว เตรียมเสนอครม.พรุ่งนี้ ระบุ สงขลาสูงสุดไร่ละ 6 แสนบ.
รมช.คลัง เผย สรุปค่าเช่า-ค่าธรรมเนียมพื้นที่เขตศก.พิเศษ รวม 6 พื้นที่ สงขลา ตาก สระแก้ว ตราด มุกดาหาร และ หนองคาย เรียบร้อยแล้ว เตรียมเสนอครม.พรุ่งนี้ ก่อนดันเข้า TOR พิจารณาต่อไป ชี้อัตราค่าเช่าจะขึ้น 15% ทุกๆ 5 ปี หรือเฉลี่ยปีละ 3% พร้อมให้โปรฯ กลุ่มนิคมอุตสาหกรรมได้ส่วนลดค่าเช่าเพิ่มอีก 30% ระบุ จ.สงขลาสูงสุดไร่ละ 6 แสนบ.
นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมหารือการชำระผลประโยชน์ตอบแทนการเช่าในพื้นที่ราชพัสดุเขตพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษว่า ขณะนี้ได้ข้อสรุปถึงอัตราค่าเช่า ค่าธรรมเนียมในการจัดเก็บค่าเช่ากับภาคเอกชนและการนิคมอุตสาหกรรมที่จะเข้ามาลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษ รวม 6 พื้นที่ ประกอบด้วย จ.สงขลา จ.ตาก จ.สระแก้ว จ.ตราด จ.มุกดาหาร และ จ.หนองคาย
อย่างไรก็ตาม วันนี้ได้ข้อสรุปดังกล่าวแล้ว ซึ่งจะเสนอให้กับนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี พิจารณา เพื่อนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้ ก่อนที่จะเสนอเข้าสู่กระบวนการคณะกรรมการร่างทีโออาร์พิจารณาต่อไป โดยอัตราค่าเช่าจะมีการปรับขึ้น 15% ทุกๆ 5 ปี หรือเฉลี่ยปีละ 3% แต่หากเป็นการนิคมอุตสาหกรรมที่จะเข้ามาลงทุนจะได้รับส่วนลดค่าเช่าเพิ่มอีก 30%
"วันนี้ จะเสนอให้รองนายกรัฐมนตรีรับทราบก่อนถึงข้อสรุปในการประชุม และจะพยายามนำเข้าครม.ให้ได้ภายในวันพรุ่งนี้"นายวิสุทธิ์ กล่าว
โดยค่าธรรมเนียมได้กำหนดอัตราใหม่ซึ่งจะลดลง 50% ต่อปี จากอัตราปกติ ขณะที่หากมีการผ่อนชำระจะต้องมีการจ่ายค่าเสียโอกาส หรือ อัตราดอกเบี้ย ซึ่งจะมีการกำหนดในเร็วๆนี้
ทั้งนี้ อัตราค่าเช่าของพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษที่สูงที่สุด เพราะอยู่ใจกลางเมือง คือ จ.สงขลา ค่าเช่าภาคเอกชนอยู่ที่ 40,000 บาท ตลอดอายุสัญญาเช่า 50 ปีรวมอยู่ที่ 4.06 ล้านบาท ส่วนการนิคมฯค่าเช่าอยู่ที่ 28,000 บาท ในปีแรก และตลอดอายุสัญญาเช่า 50 ปี รวมอยู่ที่ 2.84 ล้านบาท ขณะที่ค่าธรรมเนียมเท่ากันทั้งภาคเอกชนและการนิคมฯ โดยหากจ่ายครั้งเดียวจะอยู่ที่ 600,000 บาท ต่อไร่ ต่อ 50 ปี และหากผ่อนชำระ เฉลี่ยอยู่ที่ 9.02 แสนบาท
ส่วนพื้นที่ เขตเศรษฐกิจพิเศษจ.ตาก ค่าเช่าภาคเอกชนอยู่ที่ 36,000 บาท ตลอดอายุสัญญาเช่า 50 ปี รวมอยู่ที่ 3.65 ล้านบาท ส่วนการนิคมฯค่าเช่าอยู่ที่ 25,200 บาท ในปีแรก และตลอดอายุสัญญาเช่า 50 ปี รวมอยู่ที่ 2.55 ล้านบาท ขณะที่ค่าธรรมเนียมเท่ากันทั้งภาคเอกชนและการนิคมฯ โดยหากจ่ายครั้งเดียวจะอยู่ที่ 500,000 บาท ต่อไร่ ต่อ 50 ปี และหากผ่อนชำระ เฉลี่ยอยู่ที่ 7.52 แสนบาท
สำหรับ พื้นที่จ.สระแก้ว ค่าเช่าภาคเอกชนอยู่ที่ 32,000 บาท ตลอดอายุสัญญาเช่า 50 ปีรวมอยู่ที่ 3.24 ล้านบาท ส่วนการนิคมฯค่าเช่าอยู่ที่ 22,400 บาท ในปีแรก และตลอดอายุสัญญาเช่า 50 ปี รวมอยู่ที่ 2.27 ล้านบาท ขณะที่ค่าธรรมเนียมเท่ากันทั้งภาคเอกชนและการนิคมฯ โดยหากจ่ายครั้งเดียวจะอยู่ที่ 450,000 บาท ต่อไร่ ต่อ 50 ปี และหากผ่อนชำระ เฉลี่ยอยู่ที่ 6.77 แสนบาท
ด้านพื้นที่ จ.ตราด ค่าเช่าภาคเอกชนอยู่ที่ 24,000 บาท ตลอดอายุสัญญาเช่า 50 ปีรวมอยู่ที่ 2.43 ล้านบาท ส่วนการนิคมฯค่าเช่าอยู่ที่ 16,800 บาท ในปีแรก และตลอดอายุสัญญาเช่า 50 ปี รวมอยู่ที่ 1.7 ล้านบาท ขณะที่ค่าธรรมเนียมเท่ากันทั้งภาคเอกชนและการนิคมฯ โดยหากจ่ายครั้งเดียวจะอยู่ที่ 320,000 บาท ต่อไร่ ต่อ 50 ปี และหากผ่อนชำระ เฉลี่ยอยู่ที่ 4.81 แสนบาท
ขณะที่ จ.มุกดาหาร ค่าเช่าภาคเอกชนอยู่ที่ 24,000 บาท ตลอดอายุสัญญาเช่า 50 ปีรวมอยู่ที่ 2.4 ล้านบาท ส่วนการนิคมฯค่าเช่าอยู่ที่ 16,800 บาท ในปีแรก และตลอดอายุสัญญาเช่า 50 ปี รวมอยู่ที่ 1.7 ล้านบาท ขณะที่ค่าธรรมเนียมเท่ากันทั้งภาคเอกชนและการนิคมฯ โดยหากจ่ายครั้งเดียวจะอยู่ที่ 320,000 บาท ต่อไร่ ต่อ 50 ปี และหากผ่อนชำระ เฉลี่ยอยู่ที่ 4.81 แสนบาท
สุดท้ายจ.หนองคาย ค่าเช่าภาคเอกชนอยู่ที่ 24,000 บาท ตลอดอายุสัญญาเช่า 50 ปีรวมอยู่ที่ 2.43 ล้านบาท ส่วนการนิคมฯค่าเช่าอยู่ที่ 16,800 บาท ในปีแรก และตลอดอายุสัญญาเช่า 50 ปี รวมอยู่ที่ 1.7 ล้านบาท ขณะที่ค่าธรรมเนียมเท่ากันทั้งภาคเอกชนและการนิคมฯ โดยหากจ่ายครั้งเดียวจะอยู่ที่ 320,000 บาท ต่อไร่ ต่อ 50 ปี และหากผ่อนชำระ เฉลี่ยอยู่ที่ 4.81 แสนบาท
นายจักรกฤศฏ์ พาราพันธกุล อธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าวถึงความคืบหน้าการจัดสรรพื้นที่ราชพัสดุ เพื่อทำโครงการบ้านเพื่อผู้มีรายได้น้อยว่า ขณะนี้รวบรวมพื้นที่ราชพัสดุทั่วประเทศแล้วได้ทั้งสิ้น 20,000 กว่าไร่ ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบความเหมาะสมของพื้นที่สำหรับที่อยู่อาศัย เชิงพาณิชย์ และประโยชน์สาธารณะ โดยในเบื้องต้นไม่มีพื้นที่ราชพัสดุในพื้นที่ กทม. ที่จะพัฒนาเป็นที่อยู่อาศัยตามโครงการได้ ซึ่งหลังจากนี้จะมีการหารือกับผู้ประกอบการภาคอสังหาริมทรัพย์อีกครั้งว่าจะดำเนินการได้อย่างไรต่อไป
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย