- Details
- Category: คลัง
- Published: Monday, 30 June 2014 21:57
- Hits: 3009
คลังแฉ 'กก.แบงก์รัฐ'เกาะเก้าอี้ไม่ออกชง 'ซูเปอร์บอร์ด'โละยกชุด
แนวหน้า :'สคร.'เตรียมชง 'ซูเปอร์บอร์ด'สางปัญหารัฐวิสาหกิจ เร่งประชุมนัดแรกสัปดาห์นี้ 'คลัง'เชื่อจะมีกรรมการของรัฐวิสาหกิจสำคัญๆ อีกหลายแห่งลาออกเพิ่ม โดยเฉพาะในรายที่เป็นคนใกล้ชิดฝ่ายการเมืองเก่า
นายประสงค์ พูนธเนศ ผู้อำนวยการ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ(สคร.) เลขานุการ คณะกรรมการและกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจ(ซูเปอร์บอร์ด) เปิดเผยว่า การประชุมนัดแรกของซูเปอร์ บอร์ด คาดว่าจะเกิดขึ้นได้ภายในสัปดาห์นี้ เพื่อจะเร่งหารือการตั้ง กรรมการของรัฐวิสาหกิจต่างๆ ให้มีความเหมาะสม โดยเฉพาะรัฐวิสาหกิจหลายแห่งที่กรรมการลาออกไปก่อนหน้านี้ แต่ยังไม่มีการแต่งตั้งคนใหม่เข้าไปแทน
นอกจากนี้ จะเสนอให้ซูเปอร์บอร์ดพิจารณาสิทธิประโยชน์ของกรรมการให้มีความเหมาะสมมากขึ้น โดยขณะนี้ สคร. ได้ให้กรรมการแต่รัฐวิสาหกิจไปพิจารณาว่ากรรมการแต่ละแห่งควรมีผลตอบแทน และสิทธิประโยชน์อะไรบ้าง และส่งกลับมาให้ สคร. พิจารณาภายในสัปดาห์นี้ เพื่อสรุปรายงานให้ซุปเปอร์บอร์ดพิจารณา
ในส่วนของการพิจารณาปรับปรุงสิทธิประโยชน์หรือโบนัสของพนักงานรัฐวิสาหกิจ ในขณะนี้ยังไม่ได้มีการปรับเปลี่ยนใดๆ เนื่องจากเห็นว่ามีหลักเกณฑ์การจ่ายที่ชัดเจนอยู่แล้ว โดยการจ่ายเงินโบนัสของรัฐวิสาหกิจนอก ตลาดหลักทรัพย์ฯขึ้นอยู่กับประเมินผลงานแต่ละปี ซึ่งไม่เกิน 8 เดือน แต่รัฐวิสาหกิจที่ไม่มีกำไรจะไม่สามารถจ่ายเงินโบนัสพนักงานได้ ขณะที่รัฐวิสาหกิจใน ตลาดหลักทรัพย์ฯขึ้นอยู่กับการพิจารณาของคณะกรรมการ โดยจะพิจารณาผลการดำเนินของรัฐวิสาหกิจเป็นตัวกำหนดในการจ่ายเงินโบนัสเป็นสำคัญ
"การประชุมนัดแรกของซุปเปอร์บอร์ดต้องรอ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. หัวหน้า คสช. ในฐานะประธานซูเปอร์บอร์ดนี้แจ้งมาก่อน โดยได้เร่งประสานอยู่ จึงจะเข้าไปคุยกันเรื่องปัญหาของบอร์ดรัฐวิสาหกิจในขณะนี้"
นายประสงค์ กล่าวถึงการตรวจสอบโครงการของรัฐวิสาหกิจที่มูลค่าเกิน 100 ล้านบาท ที่ในขณะนี้มีอยู่ 20 โครงการ อาทิ โครงการลงทุนของโรงงานยาสูบ และ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ซึ่งขณะนี้ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ของ สคร. ที่ดูแลรัฐวิสาหกิจแต่ละแห่ง เป็นผู้พิจารณาตรวจสอบรายละเอียดอยู่ ยังไม่สามารถบอกได้ว่าโครงการดังกล่าวมีความเหมาะสมและดำเนินการลงทุนถูกต้องหรือไม่
แหล่งข่าวจาก กระทรวงการคลัง กล่าวว่า ในสัปดาห์นี้จะมีการเปลี่ยนแปลง คณะกรรมการของรัฐวิสาหกิจสำคัญๆ อีกหลายแห่ง เช่น ธนาคารออมสิน ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เนื่องจากมีคนใกล้ชิดฝ่ายการเมืองเก่าอยู่จำนวนมากและยังไม่ยอมลาอออก
“มองว่าการเปลี่ยนแปลง คณะกรรมการรัฐวิสาหกิจบางแห่งจะมีการเปลี่ยนทั้งชุดเพื่อความรวดเร็วไม่เปลี่ยนทีละคนสองคนเหมือนที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่ สคร. และ นายประสงค์ ทำเรื่องนี้ต่อเนื่องถึงดึกเป็นเวลาหลายสัปดาห์ โดยการดำเนินการดังกล่าวถูกเก็บเป็นความลับ โดยที่ผ่านมาได้มีการปรับคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจที่อยู่ในเป้าหมายของคสช. ไปหลายแห่ง ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย บริษัท การบินไทย บริษัท ปตท. และ บริษัทท่าอากาศยานไทย หรือทอท.”แหล่งข่าวจาก กระทรวงการคลัง กล่าว
มีรายงานข่าวแจ้งว่า ในส่วนการสรรหา กรรมการผู้จัดการรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงการคลังหลายแห่งขณะนี้ต้องชะลอแผนดำเนินการสรรหาออกไปก่อน รอการตัดสินใจจากซูเปอร์บอร์ด อาทิ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) ธนาคารออมสิน ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ไอแบงก์) สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล
สำหรับ ซูเปอร์บอร์ด มี พล.อ.ประยุทธ์ เป็นประธาน ส่วนตัวแทนจากภาคเอกชน ประกอบด้วย นายบัณฑูร ล่ำซำ ประธานกรรมการธนาคารกสิกรไทย นายบรรยง พงษ์พานิช ประธานกรรมการธนาคารเกียรตินาคิน นายรพี สุจริตกุล กรรมการธนาคารกสิกรไทย นายวิรไท สันติประภพ ที่ปรึกษาสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย(ทีดีอาร์ไอ) นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) นายทวีศักดิ์ กออนันตกูล ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.)
สำหรับกรรมการโดยตำแหน่งประกอบด้วย รองหัวหน้า คสช.ฝ่ายเศรษฐกิจ เป็นรองประธานกรรมการ ส่วนกรรมการได้แก่ รองหัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ คสช. ปลัดกระทรวงกลาโหม ปลัดกระทรวงการคลัง ปลัดกระทรวงคมนาคมปลัดกระทรวงพลังงาน ปลัดกระทรวงมหาดไทย เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ
โดยซูเปอร์บอร์ด จะกำหนดยุทธศาสตร์การพัฒนารัฐวิสาหกิจควบคู่ไปกับการพัฒนาประเทศ มีอำนาจถอดถอน และแต่งตั้งคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจ มีอำนาจตรวจสอบโครงการลงทุนของรัฐวิสาหกิจที่มีมูลค่า 100 ล้านบาทขึ้นไป ก่อนที่จะอนุมัติให้รัฐวิสาหกิจดำเนินการ
