- Details
- Category: คลัง
- Published: Thursday, 28 May 2015 23:42
- Hits: 2854
สศค.คงเป้าจีดีพีปีนี้โต 3.7% ส่งออกโต 0.2% คาดเดือน พ.ค. 58 ส่งออกเริ่มฟื้นตาม ศก.สหรัฐ-การค้าชายแดน
สศค.คงเป้าจีดีพีปีนี้โต 3.7% ส่งออกโต 0.2% มองเดือน พ.ค. 58 ส่งออกเริ่มฟื้นตาม ศก.สหรัฐ-การค้าชายแดน สำหรับ ศก.ในเดือน เม.ย.58 พบการบริโภคขยายตัว เหตุการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มดีขึ้น
นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง หรือ สศค. ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยรายงานภาวะเศรษฐกิจการคลังประจำเดือน เม.ย. 2558 ว่า สศค.ยังคงคาดการณ์ประมาณการขยายตัวทางเศรษฐกิจ หรือ จีดีพี ของไทยปีนี้จะสามารถขยายตัวได้ 3.7% ภายใต้สมมติฐานการเบิกจ่าย และการลงทุนภาครัฐ ยังสามารถขับเคลื่อนได้อย่างต่อเนื่อง และได้รับอานิสงส์จากภาคการท่องเที่ยวที่เริ่มฟื้นตัว
ด้านการส่งออกมองว่าจะสามารถกลับมาฟื้นตัวได้ต่อเนื่องจากเดือนเมษายนที่ผ่านมาที่เริ่มติดลบน้อยลง และทั้งปียังคงเป้าหมายการส่งออกว่าจะสามารถกลับมาขยายตัวเป็นบวกได้ที่ 0.2% โดยได้รับอานิสงส์จากเศรษฐกิจโลกที่เริ่มฟื้นตัว โดยเฉพาะจากสหรัฐ และกำลังซื้อที่คาดว่าจะปรับเพิ่มขึ้น รวมถึงการค้าชายแดนที่ยังคงขยายตัวดี
ขณะที่รายได้ภาคเกษตรนั้นยังคงอยู่ในแดนลบ ซึ่งมีแนวโน้มที่จะส่งผลต่อภาคการบริโภคในระยะต่อไปได้ ดังนั้นรัฐบาลจึงให้ความสำคัญในการจัดสรรงบประมาณปี 59 นอกเหนือจากงบลงทุน 20% แล้ว ยังจัดสรรงบในการช่วยเหลือภาคเกษตรอีก 1.1 แสนล้านบาท
นายกฤษฎา กล่าวต่อถึงภาพรวมของเดือนเมษายน ว่า การบริโภคภาคเอกชนขยายตัวได้ สะท้อนจากยอดการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มที่จัดเก็บบนฐานการบริโภคภายในประเทศ ณ ราคาคงที่ ขยายตัวต่อเนื่องที่ 12.8% ต่อปี ขณะที่ภาษีมูลค่าเพิ่ม ที่จัดเก็บบนฐานการนำเข้า ณ ราคาคงที่ ยังคงหดตัวต่อเนื่องที่ -10.9% ต่อปี ส่งผลให้ภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ในภาพรวมขยายตัวได้ 2.5% ต่อปี ด้านการบริโภคสินค้ายังคงทนยังคงหัวตัว สะท้อนจากปริมาณการจำหน่ายรถจักรยานยนต์ในเดือนเมษายนที่ผ่านมาหดตัว 18.4% ต่อปี
ด้านดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโดยรวม ปรับตัวลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 มาอยู่ที่ 66 เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจภายในประเทศที่ยังไม่สามารถฟื้นตัวได้อย่างชัดเจน การส่งออกที่ยังหดตัว และราคาพืชผลทางการเกษตรที่ยังอยู่ในระดับต่ำ ด้านการลงทุนภาคเอกชนส่งสัญญาณชะลอตัวโดยการลงทุนภาคเอกชนในหมวดก่อสร้าง สะท้อนจากปริมาณการจำหน่ายปูนซีเมนต์หดตัว -3.3% ต่อปี ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ 86.2 ปรับลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 และต่ำสุดในรอบ 7 เดือน นับตั้งแต่เดือน ต.ค. 2557 จากความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจไทยที่ชะลอตัว และปัญหาภัยแล้ง ส่งผลต่อการบริโภคและการใช้จ่ายโดยเฉพาะภาคเกษตร
สำหรับ การส่งออกสินค้าในเดือนเม.ย.มีมูลค่า 16.9 พันล้านดอลลาร์ หรือชะลอตัวลง -1.7% ต่อปี โดยปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อการส่งออกสินค้ามาจากภาพรวมของเศรษฐกิจโลก และประเทศคู่ค้าของไทยในปัจจุบันที่ชะลอตัวลง ส่งผลต่อกำลังซื้อในตลาดโลก ด้านการนำเข้าสินค้ามีมูลค่า 17.4 พันล้านดอลลาร์ หดตัว -6.8% ต่อปี ส่งผลให้ดุลการค้าระหว่างประเทศในเดือนเม.ย.ขาดดุล 0.5 พันล้านดอลลาร์
ส่วนอัตราเงินเฟ้อในเดือนเม.ย. ที่ผ่านมา เงินเฟ้อทั่วไป -1.0% ต่อปี เนื่องมาจากการลดลงของราคาน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นหลักรวมถึงการลดลงของราคาไข่และผลิตภัณฑ์นมและราคาเนื้อสัตว์ ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ 1% ต่อปี
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย